18 พฤศจิกายน 2552 21:28 น.
สายวารินทร์
นึกถึงวันเก่าก่อนแม่สอนว่า
ใคร่ครวญก่อนลูกจ๋าจึงปราศรัย
หากปากพล่อยไม่เว้นจะเป็นภัย
คำพูดใดล้วนคล้ายเป็นนายตน
พ่อสอนย้ำอย่าจ่อมจมอารมณ์บูด
คิดก่อนพูดคิดก่อนทำเลิศล้ำผล
ความแค้นเคืองใช่หนทางสร้างสรรค์คน
รู้ยับยั้งชั่งกมลจักพ้นพาล
หากพ่อแม่พลาดพลั้งลืมสั่งสอน
ท่านคงนอนไม่หลับอยู่กับบ้าน
เพราะลูกชายเกะกะเทียวระราน
รับประทานอะไรกลืนไม่ลง
ขอบพระคุณคุณแม่วัยแก่เฒ่า
จะถือเอาคำแม่มิลืมหลง
ขอบคุณพ่อที่เชื่อกันอย่างมั่นคง
วันปลดปลงพ่อยังยิ้มอิ่มเอิบใจ
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
14 พฤศจิกายน 2552 22:10 น.
สายวารินทร์
จะเขียนกลอนเรื่องหมาก็น่าเบื่อ
เดี๋ยวเป็นเชื้อกลอนเราเสียงเห่าขรม
เขียนกลอนรักริษยาไร้อารมณ์
หวั่นถูกชมงี่เง่าน้ำเน่าดี
เขียนกลอนคนตระหนักความรักชาติ
เกรงพลั้งพลาดกลายด่าบรรดาผี
เขียนกลอนถึงธรรมมะหรือพระ-ชี
หวาดจะมีใครค้อนเพราะร้อนตัว
เขียนกลอนขำกลัวใครจะไม่ขัน
เยาะเย้ยกันหมอนี่ไม่มีหัว
เขียนกลอนหวานหว่านมายิ่งน่ากลัว
เดี๋ยวคนมั่วเรียกขานอ้ายหวานเจี๊ยบ
เขียนกลอนข่าวฉาวโฉ่คุยโวบอก
ข่าววงนอกวงในยังไม่เฉียบ
เขียนกลอนออดอ้อนใครยังไม่เนี๊ยบ
เดี๋ยวโดนเหยียบแขกตี้ต้องหนีอาย
หยุดเขียนกลอนไม่เหมาะคนเยาะหยัน
ไอ้นี่มันคงกลัวหดหัวหาย
จะเขียนกลอนสักบทหรือหมดลาย
เฮ้อ!...แม้แต่ควายยังคายหญ้าแล้วด่าเรา
10 พฤศจิกายน 2552 21:32 น.
สายวารินทร์
สวัสดีพี่น้องและผองเพื่อน
อย่าแชเชือนชิงชังรีบสั่งสอน
ผมมีเรื่องหมาหมามาเว้าวอน
ฟังผมก่อนมวลมิตรก่อนนิทรา
ห้าปีก่อนน้องสาวผิวขาวสวย
เธอให้ช่วยรับรองเลี้ยงน้องหมา
เจ้าของหอใจดำไม่นำพา
ปิดป้ายหราห้ามเลี้ยงสัตว์สุดขัดใจ
น้องพุดเดิ้ลตัวเมียรีบเลียขา
คงคิดว่าหนูขอเรียกพ่อใหญ่
จากเมืองกรุงแรมร้างเดินทางไกล
สู่เมืองใต้ปักหลักพำนักกาย
เดือนสิบสองหมาข้างบ้านผสานเสียง
หวังร่วมเรียงสืบพันธุ์เช้ายันบ่าย
ด้วยเพราะกลัวหัวหมุนเกรงวุ่นวาย
มิใจร้ายกระมังจับขังกรง
ค่ำคืนหนึ่งยินเสียงสำเนียงแปลก
จึงรีบแหวกม่านดูร้องเสียงหลง
หมาสองตัวช่วยกันอย่างบรรจง
เปิดประตูสมประสงค์อย่างว่องไว
หกสิบวันผ่านมาลูกหมาน้อย
จึงค่อยค่อยคลอดมาเป็นหมาใหม่
รวมสี่ตัวจึงหมายแจกจ่ายไป
เหลือเอาไว้เพียงหนึ่งซึ่งเลี้ยงมา
ตั้งชื่อเจ้าสิงโตฟังโก้หรู
มันแสนรู้แสนรักเป็นนักหนา
แม้นดุด่าประจำมินำพา
เย็นกลับมาเคล้าคลอเล่นไม่เว้นวัน
7 พฤศจิกายน 2552 11:56 น.
สายวารินทร์
คนแขวะผมมิกล้า....................เขียนกลอน
ผมว่าผมหลับนอน...................คุดคู้
ฝันดีที่หมาจร.........................หอนเห่า
ยามตื่นระรื่นรู้.........................สุขแท้จริงนา
หมาเอยมันเห่าได้....................เห่าดี
เสียงดุเหมือนดังมี....................คั่งแค้น
ยากลดละพาที........................เหมือนว่า บ้าบอ
กัดสิเชิญกัดแม้น.....................เก่งกล้าเกินคน
ฮึดฮัดดูมิสิ้น..........................กำลัง ฮึดเฮย
หยาบนักอวดโอหัง....................ต่ำช้า
คงเคืองเรื่องหนหลัง..................จึงเห่า หอนนอ
เรามิสติล้า.............................ปล่อยให้แดกดัน
ยามฟังเราเยาะยิ้ม.....................เวทนา ยิ่งแล
เหม็นเน่าเกินเจรจา...................ด่าโต้
มิหลับนับดาวดา.......................รดาษ ฟ้างาม
ดีกว่าส่งเสียงโอ้.......................อวดบ้าด่ากัน
ห
4 พฤศจิกายน 2552 18:04 น.
สายวารินทร์
อ้ายแดงเป็นหมาหน้ายับ
ตกอับหวงก้างวางก้าม
แยกเขี้ยวขู่แง่งทุกยาม
ใครห้ามเห่าใส่ไม่เกรง
อวดโอ่โอหังบังเกิด
ระเบิดอารมณ์ข่มเหง
ทำท่าหน้ายักษ์นักเลง
ตูเจ๋งเอ็งอย่าท้าทาย
ก่อนนี้อ้ายแดงน่ารัก
ใครทักแลบลิ้นปีนป่าย
เลียแข้งเลียขาเจ้านาย
มากมายน้ำใจไมตรี
หมูหมากาไก่ใกล้บ้าน
เป็ดห่านนั้นเหมือนเพื่อนซี้
อ้ายแดงเมตตาปรานี
มิมียื้อแย่งแบ่งปัน
ต่อมาเจ้านายหายหน้า
อ้ายแดงรอท่าหวาดหวั่น
ไยหนอนายถึงทิ้งกัน
ทุกวันไส้กิ่วหิวโซ
ผ่านวันผ่านคืนขื่นขม
เก็บกดอารมณ์นานโข
แปรปรวนหันหน้าพาโล
โมโหดุร้ายรายวัน
ใครขวางเข้าฟัดกัดแหลก
เข้าแลกหน้าไหนไม่หวั่น
แผลยับหน้าเยินยังยัน
ข้านั้นสิแน่แท้จริง