10 ธันวาคม 2551 12:02 น.
สายลมหนาว & หิมะขาว
จุมพิตเธอยังตราตรึงซึ้งใจในห้วงรัก
เกินจะหักห้ามจิตรั้งคิดถึง
เปิดม่านดึงพึงชมดาวพราวพร่างคืน
ยังมิลืมคนชิดใกล้ที่ไกลลา
ดาวยังวาวพราววับระยับแสง
ทอดถอนใจอ่อนแรงแกว่งหวาดไหว
ลมพัดหนาวร้าวกายไร้อุ่นไอ
ผ้าห่มใดหรือจะเท่าอุ่นกอดเธอ
ชักเท้าขึ้นเตียงก่ายกอดหมอน
หลับตานอนถอนใจไห้สะอื้น
น้ำตาชื้นรินเปียกหมอนค่อนข้ามคืน
เมื่อลืมตื่นยังขื่นใจอาลัยลา
เธอคนดีคืนหนาวนี้เธออยู่ไหน
รู้หรือไม่ว่ามีใครคะนึงหา
ห่างไกลเกินฟ้าฟากขีดปิดบังตา
กลัวร้างราห่างสัมพันธ์ยามเดียวดาย
ปิดตาลงหม่นใจในห้องเหงา
เหลือเพียงเงาในวันที่เธอห่างหาย
หลับนิทราทั้งน้ำตาระทมใจ
อีกเมื่อไหร่จะได้เจอเธอคนดี
หรือจะมีเธอได้แค่เพียงฝัน
ไร้ซึ่งวันเพียงชิดเคียงเธอใช่ไหม
ซบเตียงเอียงกอดหมอนนอนร้าวใจ
อุ่นผ้าห่มกายแต่กลับไร้ซึ่งเงาเธอ
หิมะขาว
8 ธันวาคม 2551 16:59 น.
สายลมหนาว & หิมะขาว
อ้อมกอดของเธอช่างแสนหนาว
คำว่ารักมันฟังบางเบาจนชั้นต้องร้องไห้
จุมพิตเธอที่จูบปลอบมันช่างร้าวไปทั้งหัวใจ
ก็รู้อยู่ว่าเธอไม่ใช่คนของเรา
เธอรักชั้นจริง ๆ หรือเห็นเป็นเพียงทางผ่าน
ทุกคืนกอดหมอนใจชั้นทรมานสะอื้นไห้
คำว่ารักที่เธอบอกยังมีตัวตนอยู่จริงใช่ไหม
หรือเป็นเพียงคำหลอกหัวใจของคนชอบลวงกัน
เปิดหน้าต่างกอดเข่ามองจันทร์ในคืนเหงา
มีเพียงเงาของเธอเคียงคู่ในคืนที่ใจหวั่นไหว
หัวเราะทั้งน้ำตาให้ใจที่มันช่างแสนงมงาย
รู้ทั้งรู้แต่ทำไมไม่เลิกรักเธอ
ได้แต่รอให้เธอนั้นมาหา
ก็รู้หรอกนะว่าที่ทำนั้นมันผิดแค่ไหน
แต่หัวใจมันยอมเพราะรักเธอมากเกินไป
บาปใช่ไหม ... ที่ใจชั้นมันรักเธอ
หิมะขาว
8 ตุลาคม 2551 15:35 น.
สายลมหนาว & หิมะขาว
งุนงงในความรัก
สงสัยในความรัก
ไม่อาจเชื่อในความรัก
แต่หัวใจกลับมีรัก
แย้มยิ้มด้วยความรัก
ชิงชังในความรัก
มีน้ำตาด้วยความรัก
แต่หัวใจกลับไม่เคยลืมรัก
กลัวในความรัก
ลืมใจที่จะรัก
หลีกหนีในความรัก
แต่สุดท้ายกลับงมงายในความรัก
ความขำขันของความรัก
ความรวดร้าวของความรัก
ยิ้มและร้องไห้ให้ความรัก
หรือนี่คือความหมาย "รัก"
หิมะขาว
ไม่สัมผัสอะไรทั้งนั้นอยากแต่งกลอนเปล่าที่ไม่คล้องกับอะไรเลยค่ะ... >___<
7 ตุลาคม 2551 17:38 น.
สายลมหนาว & หิมะขาว
จะโอบกอดเธอไว้ยามหลับฝัน
กล่อมเธอด้วยนิทานดวงจันทร์กับตะวันฉาย
ผูกพันธ์ด้วยรักก่อตัวเป็นนิยาย
ที่มีความหมายเป็นเรื่องราวของเราสองคน
กาลครั้งหนึ่ง.....เธอกับฉัน
เราพบกันในโลกความฝันสีขาว
ถักทอประสานความรักเป็นเรื่องราว
ใต้แสงดวงดาวที่มีเพียงเราสองคน
เธอเป็นดั่งเจ้าชายตะวันสีทอง
ที่มีแสงเรืองรองครอบครองหัวใจฉัน
ปกคลุมไปทั่วขอบฟ้ายามกลางวัน
คอยให้ความอบอุ่นแก่ฉันในวันที่หนาวใจ
ฉันเป็นดั่งเจ้าหญิงจันทรา
หัวใจอ่อนล้าสับสนอ่อนไหว
เป็นดั่งดวงจันทร์ที่ไม่มีหัวใจ
ไม่เคยรักใครสักคนที่ผ่านเข้ามา
จนวันนึงท้องฟ้ามาบรรจบ
ฉันได้มาพบกับแสงตะวันสดใส
เจ้าชายผู้อ่อนโยนที่ทำให้ฉันมีหัวใจ
ปลุกชีวิตฉันขึ้นมาใหม่ในโลกที่สดใสอีกครา
สายลมหนาว...........
7 ตุลาคม 2551 10:01 น.
สายลมหนาว & หิมะขาว
อุ่นหัวใจทุกครั้งที่คิดถึงเธอ
ทุกคืนฝันละเมอถึงเธอรู้ไหม
มองดาวบนฟ้าแล้วอธิษฐานหัวใจ
ขอพบเธอได้ไหมในความฝันยามค่ำคืน
ให้เธอเดินเคียงข้างฉัน
ในความฝันที่มีเพียงเราสอง
ให้ความรักดั่งบทเพลงท่วงทำนอง
สอดคล้องสองใจไว้ร่วมเรียง
จับมือเธอประสานเกาะกุม
หวานละมุนจุมพิตหวั่นไหว
อ้อมกอดอุ่นแนบชิดห้วงใจ
ฝากคำรักหวานไว้ใต้แสงดาว
พาบินลอยล่องระเริงฝัน
แย้มยิ้มเบิกบานในคืนอันสดใส
ทิ้งตัวลงนอนบนชิงช้าแกว่งไกว
หอมกลิ่นดอกไม้กลีบหวานละมุนตา
แสงจันทร์เจ้าทอดประกายอ่อน
หนุนหมอนนอนฝันหลับใหล
ไม่อยากตื่นแล้วยามเช้าห่อเหี่ยวใจ
วอนขอให้ราตรีนี้ฝันยืดยาว
หิมะขาว
...................................................................
หลับตาลงในค่ำคืนนี้
มีแต่ภาพเธอคนดีรู้ไหม
อยากกระซิบว่ารักแทบขาดใจ
โอบกอดเธอใกล้ ๆ ให้หัวใจได้ชิดกัน
จับมือเธอเดินเคียงข้างกัน
แม้ไกลแค่ไหนก็ไม่เคยหวั่นไหว
ให้ถนนสายนี้มีแต่เส้นทางของหัวใจ
โปรยปรายไปด้วยรักแห่งสองเรา
จะพาเธอข้ามสายรุ้งไปจับผีเสื้อปีกใส
ที่นอนหลับใหลในทุ่งดอกไม้ที่หอมหวาน
จะจูงมือเธอไปใต้ขอบฟ้าแห่งรัตติกาล
ให้เนิ่นนานราตรีนี้มีเพียงสองเรา
ล่องลอยระเริงร่าโลดแล่นในความฝัน
ร่ายรำใต้แสงจันทร์ในม่านดาราเฉิดฉาย
เหย้าหยอกวิ่งจับกับหิ่งห้อยเรียงราย
โอบกอดเธอไว้แนบกายไม่ให้ห่างหายเลยสักครา
อยากอยู่กับเธอไม่อยากตื่นจากห้วงฝัน
อยากให้เธออยู่กับฉันไม่จางหาย
อยากให้ภาพความจริงฉันยังมีเธอแนบกาย
ไม่อยากอยู่อย่างเดียวดายโดยที่ไม่มีเธอ
สายลมหนาว