30 เมษายน 2555 12:28 น.
..สายลมทะเล..
“25” “เดือน 7 นี้ ก็จะ 25” ป้งถอนหายใจ
ผมได้แต่นั่งมองดูน้องอยู่ห่างๆ เวทนาในชีวิตหมาน้อย
แม้ว่าป้งจะเป็นหมาน้อยที่น่าเอ็นดู แต่กว่า 24 ปีที่ผ่านมา ไอ้ลูกหมาตัวนี้ ก็ไม่เคยถูกใครเก็บไปเลี้ยงเสียที ..ทุกครั้งที่ผมถาม ป้งก็จะบอกว่า “ผมเลือกครับพี่ .. และก็ยังไม่มีสาวๆ คนไหนผ่านมาตรฐานผม” แรกๆ ผมก็เชื่อ แต่พอเห็นอาการ “เฮ้อ” และกริยากระพริบตาถี่ๆ อันเป็นสัญญาณบอกว่าหัวใจป้งกำลังทำงานหนักบ่อยครั้งเข้า .. ผมก็สรุปได้ว่า ที่ป้งพูดมาดูท่าจะไม่จริง น้องมันคงมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เจอผู้หญิงหน้าตาดีเมื่อไหร่เป็นสมองตาย เหงื่อแตก ขาแข็ง และกล้ามเนื้อปากไม่ทำงาน ..สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหว คือเปลือกตา
ซึ่งอาการทั้งหมดนี้ บ้านผมเรียกว่า “โรคป๊อด”
โรคชนิดนี้ ถ้าสมองยังทำงานอยู่บ้าง ก็จะพอพูดได้ แต่คำพูดจะสับสนและวกวน
ครับ นั่นเป็นระยะเริ่มแรก
แต่หากถึงขั้นอึ้ง และมีอาการกระพริบตาถี่ๆ ร่วม .. นั่นเป็นระยะสุดท้าย
โรคป๊อดนี้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี มันจะพัฒนาไปเป็น “โรคโสดเรื้อรัง”
ไม่ตาย.. แต่ชีวิตอยู่ไปก็ไร้ความหมาย
“25” “เดือน 7 นี้ ก็จะ 25” “เฮ้อ”
ป้งกระดกเรดปลอมลงคอดังอึ๊ก
วันนี้นิสิตจุฬาเขามาทำกิจกรรมที่โรงแรมที่เราพัก
ตอนกินข้าวเย็น หลายคนแอบส่งสายตาใส่ป้ง ..แต่ไม่รู้ทำไม ป้งเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าว
เวลาป้งอาย ป้งกินข้าวทีละ 5 ชาม เอ้ย จาน .. จานครับจาน ผมดันไปนึกถึงชามข้าวหมา ..แปลกคน อายแล้วกินข้าว อย่างนี้เองที่เขาเรียกว่า “เลี้ยงไว้ก็เปลืองข้าวสุก”
แต่ไม่เป็นไร น้องคนเดียว ผมเลี้ยงได้
“ผมสั่งข้าวอีกจานได้มั๊ยครับพี่” ป้งหมายถึงจานที่ 6
“พอดีกว่าป้ง พี่เริ่มอายโต๊ะอื่นแล้ว” ผมตอบและไม่กล้ามองสู้สายตาสาวโต๊ะข้างๆ
(ที่ทำตาโตเท่าไข่ห่านตั้งแต่เห็นป้งกินข้าวจานที่ 4 .. ถ้าป้งสั่งอีกจาน ผมเกรงว่าจะจินตนาการตาของพวกเธอไม่ออก)
“คิดเงินเลยแล้วกัน” ผมบอก
ป้งหันไปเรียกเด็กเสิร์ฟ สาวๆ มองป้งเป็นตาเดียว .. ป้งจึงก้มหน้าหลบสายตาของพวกหล่อน
“คิดเงินด้วยครับ” ป้งพูดกับโต๊ะและจานข้าว ..ผมได้แต่ส่ายหน้า ระอาใน “โรคป๊อด” ของป้ง
“ลงไปว่ายน้ำกันมั๊ยพี่ ป่านนี้สาวๆ คงตรึม”
ผมเหลือบดูนาฬิกา “สี่ทุ่มสิบห้า .. สาวๆ คงตรึม” ผมพึมพำ
แม้จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดป้งว่าจะมีสาวๆ ตรึมเวลานี้ แต่เพื่อเห็นแก่ “วาจาก้าวร้าวเหมือนเพลบอย” ผมก็ตัดสินใจหยิบกางเกงว่ายน้ำลงไปกับป้ง
น่าแปลกใจ.. คำพูดของป้งนับว่าไม่ผิด มีกลุ่มเด็กสาวหน้าตาน่ารักเล่นน้ำอยู่แล้วก่อนหน้า ไม่พูดพร่ำทำเพลง เปลี่ยนชุดได้ป้งก็กระโดดลงน้ำ ..ฟรีสไตน์จ้วงน้ำ ฉับ ฉับ ฉับ เหมือนกลัวชาตินี้จะไม่ได้ว่ายน้ำอีก
พ่อเพลบอยของเรา ก้มหน้าก้มตาว่ายมันลูกเดียว แตะขอบสระด้านนึงก็ถีบตัวไปต่อ
เป็นอย่างนี้อยู่ครึ่งชั่วโมง แล้วเจ้าตัวก็คงนึกได้ว่ามันมากับพี่ จึงว่ายตรงมาทางผม
“ผมเหนื่อยแล้วพี่ เรากลับกันเถอะ” ผมค้อนป้งดังขวับ
ไม่ใช่เพราะป้งมันลืมผม แต่เพราะหมั่นไส้ในวาจาก้าวร้าว “ลงไปว่ายน้ำกันมั๊ยพี่ ป่านนี้สาวๆ คงตรึม”
ช่างเป็นมนุษย์ที่ไร้สุนทรีย์เอาจริงๆ
แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่งยิ้มให้สาวๆ และก็เดินตามป้งขึ้นจากน้ำ
เสียงตะโกนดังแว่วมาจากด้านหลัง “ว้า นึกว่าแมน”
แต่ป้งก็ทำหูทวนลม
ส่วนผมนั้นเฉยๆ เพราะคิดว่าสาวๆ คงไม่ได้หมายถึงผม .. เพราะผมแมน
หลังขึ้นห้องพักผมอาบน้ำอีกรอบ อาบน้ำเสร็จเดินออกมา เห็นป้งถอดเสื้อนอนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้ในซอกหลังระเบียงห้องพัก
ผมค่อนข้างประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นป้งถอดเสื้อมาก่อน หากไม่นับตอนไปว่ายน้ำ
ไปเตะบอลด้วยกัน ป้งก็ไม่เคยยอมอยู่ข้างที่ถอดเสื้อ ..ถ้าใครบังคับ ป้งเป็นเดินออก และเลิกเล่น ..ป้งหวงของป้งมาก
คืนนี้ผมจึงสงสัย ทำไมป้งจึงถอด? แล้วก็พลันนึกถึงคำพูดที่สระน้ำ “ว้า นึกว่าแมน”
อ้อ ที่แท้ป้งก็อยากจะโชว์ 6 แพ็คให้เห็นกันชัดๆ .. “แมนครับ” ป้งคงอยากจะบอกอย่างนั้น
ก็ได้แต่ส่ายหัว .. เอ็งไม่ต้องบอกพี่หรอก โน่น ไปบอกพวกหล่อนโน่น
เปลี่ยนชุดเสร็จ ผมก็เปิดประตูระเบียงออกไปร่วมบรรยากาศ “เฮ้อ” กับป้ง
เสียงเพลงจากกลุ่มคนหนุ่มสาวจากระเบียงนั่งเล่นชั้นล่างที่อยู่ติดกันลอยมาเข้าหู
เสียงกีตาร์นั้น บ่งบอกถึงความสามารถระดับนักดนตรีมหา’ลัย เสียงร้องก็ไพเราะเหมือนนักร้องมืออาชีพ
ผมชะโงกหน้าไปดู
“อย่าพี่ เดี๋ยวเค้าเห็น”
ผมไม่สนใจ และชะโงกไปดู อืม..น่ารักอยู่หลายคน
“ชอบคนไหนล่ะป้ง” ผมถาม
“เปล่า ผมนั่งฟังเพลง เพลงเพราะดี” ป้งตอบแต่ไม่กล้าสู้หน้า ไพล่ไปจับแก้วเหล้า (เรดปลอม) กระดกอึ๊ก
“คนขาวซีด ผอมๆ ใช่มั๊ย” ผมถาม ด้วยเห็นว่าป้งมีอาการ “แข็งตาย” ทุกทีที่เห็นคนขาวๆ ผอมๆ
“พี่มั่วแล้ว” ป้งอึกๆ อักๆ คราวนี้กระดกรวดเดียวหมด
ผมดูท่าแล้ว ถ้ายังไล่ต่อ.. ป้งคงเล่นจนหมดขวดแน่ ก็เลยไม่ถามอะไรต่อ
นั่งฟังเพลงกันไปในความเงียบ
ดวงดาวกระพริบระยิบระยับ .. ตาของป้งก็กระพริบถี่
“25” “เดือน 7 นี้ ก็จะ 25” เสียงป้งพึมพำ
ผมใจหายวูบ เพราะรู้มาว่า
การพึมพำซ้ำๆ นั้น เป็นอาการเบื้องต้นของ “โรคโสดเรื้อรัง”
ไอ้ป้งเอ้ย.. เอ็งมันเสียชาติเกิดจริงๆ