8 กันยายน 2548 04:12 น.

เรื่องเล่าแอฟริกากลาง : ข่าวลือกับฝันร้าย

..สายลมทะเล..

จะว่าเศร้าก็เศร้า จะว่าฮาก็ฮา  ..ที่จังหวัดหนึ่งทางใต้ของเมืองหลวง  ช่วงเวลาประมาณก่อนค่ำ มีข่าวลือออกมาว่า กองกำลังฝ่ายกบฏจะเข้าถล่มโรงเรียน  เป็นเหตุให้นักเรียนภาคค่ำและบรรดาครูๆ เตลิดเปิดเปิงอพยพหนีออกจากโรงเรียน  ...แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น  ครูใหญ่และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น (ผู้ใหญ่ กำนัน อบต.) ก็ไปเกณฑ์นักเรียนกลับมาเรียนใหม่  ..บ่ายของอีกวันข่าวโคมลอยก็กลับมาอีกรอบ(ขึ้นชื่อว่าข่าวลือแล้วล่ะก็ แหมใครๆ ก็คันปากอยากบอกต่อ ...ประเภทรู้แล้วเหยียบอย่าบอกใครนะ เอียงหูมาซิเธอ... มุขนี้ผมใช้บ่อย พอสาวเจ้าตาลุก หูตั้ง กระเถิบเข้ามาชิด เอียงหูซ้ายเข้าหา..ผมก็หอมแก้มเธอไปหนึ่งฟอด..เธอก็จะหน้าแดง ทำตาโตเท่าไข่ห่าน เอียงอายรักษาฟอร์ม ตบบ้องหูขวาผมไปสองที..ก่อนจะอับเปอร์คัทใต้เข็มขัดตามมาอีกชุด จุกไปสามวัน)  แต่ลือกันมาคราวนี้ ไม่ต้องอพยพครับ  ทหารตำรวจในพื้นที่แห่กันมาคุ้มกันให้... สถานการณ์ดูเหมือนจะดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..ถ้าไม่บังเอิญว่า..นักเรียนหญิงคนนึงที่แอบหลับในห้องเรียนจะฝันร้าย กรีดร้องเสียสุดเสียง..เป็นเหตุให้ห้องเรียนอื่นเข้าใจผิดวิ่งหนีกันอุตลุด.. เหยียบกันระเนระนาด บาดเจ็บสาหัสไปห้าคน  ..ซึ่งนั่น คงทำให้เจ้าหล่อนได้ฝันร้ายไปอีกหลายคืน(หลังโดนอาจารย์ด่า และเพื่อนๆ ไล่เตะ)

เหมือนนรกแกล้ง  งานเลี้ยงผู้สังเกตการณ์ทางทหารภูมิภาคที่จะจัดขึ้นวันเสาร์นี้  ผมได้รับมอบหมายโดยการสุ่มเลือกของคอมพิวเตอร์(น่าภูมิใจมาก) ให้รับผิดชอบกิจกรรมด้านสันทนาการของงาน ..ช่างรับกับบุคลิกปลีกวิเวกของผมเสียจริง..ให้ตายเถอะ..แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ  ผมมันประเภทหน้าใหญ่ เรื่องจะให้ขายหน้านั้นผมไม่ยอมเด็ด  ยังไงก็จะถวายหัวทำสุดสามารถครับผม  

เมื่อวานเย็นโจรพร้อมอาวุธ(ปากกา ยางลบ และดินสอ) ประมาณสิบสี่คนเข้าปล้นรถโดยสารบรรทุกพ่อค้าแม่ค้าข้ามแดน ระหว่างคองโกกับบุรุนดี  ห่างจากด่านตรวจตำรวจท้องที่แค่สองร้อยเมตร และเป็นถนนที่กองกำลังหลักของฝ่ายรัฐบาลตั้งจุดสกัดทุกๆ หนึ่งกิโล ..ผลนะหรือครับ  ยิงกันกระจาย(ไม่ตายสักคน) คนเกือบร้อยพร้อมปืนสงครามยิงใส่กันเกือบสี่สิบนาที แต่ไม่มีใครเจ็บใครตาย ..ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ  ถ้าไม่ใช่ปืนห่วยก็ต้องไปหัดยิงปืนกันใหม่แล้วล่ะครับ ..แต่มองในแง่ดี คราวนี้ดีกว่าทุกครั้ง  ปกติยิงกันเมื่อไหร่ ทหารกับโจรยิงไปยิ้มไปไม่ตายไม่เจ็บ..แต่ชาวบ้านนะ ไม่เหลือ..ตายเรียบ

ด้วยความที่อยากกินไฮศครีมและเบเกอรี่หลายวันแล้ว  ก็เลยขับรถไปซื้อเบเกอรี่ที่โรงแรม  พายสี่ชิ้นสามร้อยยี่สิบบาท ก็พอยอมรับได้ แพงกว่าเอสแอนด์พีบ้านเรานิดหน่อย  แต่พอไปร้านขายหมูเพื่อซื้อไฮศครีม(ที่ไหนขายหมู แสดงว่าที่นั่นหรูมาก และมีอาหารชั้นดีทุกอย่างขาย) เห็นราคาแล้วเปลี่ยนใจทันที ไฮศครีมกล่องหกสิบห้าบาทในโลตัส  ที่นี่ขายกันพันสอง...หายอยากเป็นปลิดทิ้ง  ตัดสินใจซื้อไก่รมควันกับไก่หมักไวน์มาแทน  ..หวังจะกินให้มันสะใจสมราคา  แต่ทอดออกมา ไหงข้างนอกไหม้ข้างในไม่สุกก็ไม่รู้  ไก่ทอดชิ้นละสองร้อยเลยกลายเป็นไก่ทอดหาดใหญ่สิบห้าบาทไปในบัดดล..เจ็บใจนัก

งานเลี้ยงผู้สังเกตการณ์ทางทหารภูมิภาคเสร็จเรียบร้อยไปแล้วอย่างสมบูรณ์  ก็อย่างที่บอก..มีหรือ ผมจะทำให้คนไทยผิดหวัง  โคตรสนุกเลย  ประธานกลับปุ๊บ ทุกคนลุกพรึ่บ..ไม่ได้ไปส่งประธานหรอก  กลับกันเกลี้ยง  ทิ้งให้ผมนั่งน้ำลายไหลดูห้าสาวสองพันสองราตรีเต้นกันอยู่บนจอโปรเจ็คเตอร์คนเดียว...ไม่ชอบคาราโอเกะนักร้องไทยก็ไม่บอก  จะได้หาวีซีดีสาวรัสเซียแถวพัฒนพงษ์มาให้ ฮ่า

ออกมาใช้อินเทอร์เนตและก็กินมื้อเที่ยงนอกบ้าน  สั่งสปาเก็ตตี้สเต๊กซ์สองจาน  เจ้าคนเสิร์ฟมีทำหน้างงๆ  สงสัยกลัวไม่มีตังค์จ่าย ..เห็นสงสัยดีนักพอหมดจานแรกเลยเรียกมาสั่งเพิ่มอีกจาน ..มีย้อนถามเพื่อความมั่นใจเราอีกนะ ..เลยเอาแบงค์ยี่สิบไทยตบหน้าไปสองที  ถึงได้วิ่งแน่บเข้าครัวไป ..สักพักแม่ครัวถืออีโต้ออกมาเอง.. 
สั่งผิด สั่งใหม่ได้นะคุณ
ไม่ผิดหรอกจ้า แม่ทำอร่อย ก็เลยเบิ้ลแล้วเบิ้ลอีกนะจ้า
เท่านั้นแม่คุณก็เดินยิ้มแก้มปริกลับเข้าครัวไป...ได้ยินแต่เสียงฮึมฮัม
กินไม่หมดละฮึ่ม แม่ฟันคอขาด
ผมละเสียวสันหลังวูบ  รีบสั่งห่อกลับบ้านแทบไม่ทัน				
7 กันยายน 2548 04:18 น.

เรื่องเล่าแอฟริกากลาง : เรื่อยเปื่อย

..สายลมทะเล..

แฟนผมเป็นคนช่างเอาใจครับ (เอาใจตัวเองเป็นหลัก เอาใจคนรักเป็นรอง)  ไปกินข้าวดูหนังทีไร ได้ต่อยกันทุกครั้ง.. ผมถามจะดูเรื่องอะไร จะกินอะไร..เธอก็บอกตามใจผม  บอกให้เลือกมาสักอย่าง..ก็พูดได้แค่ ตามใจพี่ๆ  ผมจะตามใจเธอมั่ง เธอก็ไม่ยอม.. ยังไงๆ ก็ต้องตามใจผม  และถ้าผมขัดใจไม่ยอมทำตามเธอบอก  เป็นได้งอแงปราดเข้าประชิดจับผมทุ่มลงไปนอนอิปป้งทันที.. คบลูกสาวนักยูโดก็งี้แหล่ะครับ ใช้กำลังและเอาแต่ใจเป็นที่สุด

เมื่อวานเธอโทรมาบอกว่า เธอตัดใจไม่เอาดีทางยูโดแล้ว  ผมค่อยใจชื้นและเห็นด้วยกับการตัดสินใจแยกทางเดินกับพ่อเธอ ..แต่พอเธอพูดต่อ ว่าเธอเริ่มสนใจซูโม่หญิงชิงแชมป์เอเชีย..นอกจากผมจะใจหาย ยังพอนึกภาพออกเลาๆ ว่าป่านนี้เธอคงเจริญวันเจริญคืนเหมือนดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่มาแรงแซงขาดตั้งแต่โค้งแรก

ผมยังเจ็บใจไม่สร่างเมื่อนึกถึงตอนเพื่อนทักวันมาส่งขึ้นเครื่องเมื่อหกเดือนก่อน
ใจแข็งจังว่ะ แฟนท้อง..ยังตัดใจบินไปแอฟริกาได้..นี่กว่าเอ็งจะกลับมา ลูกก็คงห้าเดือนพอดี
ผมถลึงมองมันแทบอยากจะหักคอ  ไม่รู้มันซื่อไม่เคยเห็นคนลงพุง หรือมันปากบอนไม่อยากกินน้ำพริก  ถึงกล้าลามปามพระนางอันเป็นที่เคารพ

เธออาจมีหน้าท้องที่บริบูรณ์เกินงามไปนิด  แต่เธอก็ครบตามสเป็คผู้หญิงในฝันของผม
ผมชอบผู้หญิงผิวขาว..เธอก็ขาวเป็นวงๆ เพราะเกลื้อนกลากยังรักษาอยู่
ผมชอบผู้หญิงบอบบาง..แฟนผมก็บาง ถ้าหารเธอตามยาวออกเป็นสามส่วน
ผมชอบผู้หญิงผมยาว..ผมเธอก็จะยาวในอีกสิบปี ถ้าผมบังคับเธอไม่ให้ตัด
ผมชอบผู้หญิงฉลาด..แฟนผมก็ฉลาด และเธอมีประกาศจาก กศน.รับรองแล้ว
ผมชอบผู้หญิงบุคลิกดี..แฟนผมก็มีการันตีด้วยรางวัลเทพีงานวัดหนองไผ่ตัน
ครบถ้วนกระบวนพิชัยยุทธอย่างนี้ไม่รักให้หัวปักเมาทิ่มก็แย่แล้ว..จริงไหม

วันนี้ผมทำงานให้กับทีมใหม่วันแรก  เมื่อวานหัวหน้าทีมโทรมาบอกว่าไม่มีงาน แค่เข้าออฟฟิศเซ็นเอกสารนิดหน่อยแล้วก็กลับไปนอนได้  ตอนเช้าผมเลยกินกาแฟถ้วยเดียว กะว่าค่อยกลับมากินข้าวทีเดียวตอนเที่ยงที่บ้าน  ..ที่ไหนได้ มีงานด่วนให้ไปต่างจังหวัด  ..รีบไปรีบกลับ เหยียบกันจนมิดคันเร่งแต่ก็ไม่ทัน ถนนถูกบล็อกทุกเส้น ต้องนอนกันบนยอดเขา  จริงอยู่ว่ารถยูเอ็นผ่านได้ทุกแห่ง แต่ที่ถูกซุ่มยิงเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็รถของยูเอ็นนี่แหล่ะ  ยิ่งการเจรจาที่แทนซาเนียเมื่อสามวันก่อนล้มเหลว..สองฝ่ายบอกพร้อมเผชิญหน้า  เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น  เล่นเอาตอนเจดสะดาปิ๊กติ๊กเจษฏาภรณ์ปวดหัว (ผมหมายถึงผม ไม่ต้องทำงง.. ตัวจริงก็หล่อครือกันนั่นแหล่ะ..ไม่เชื่อเหรอ..ไม่เชื่อก็ปิดไฟซิคร้าบบ)

ถ้าคุณคิดว่าผมต้องนอนหง่าวหนาวตัวสั่นอยู่ในรถบนยอดเขาสูงห้าพันฟุตล่ะก็..คุณคิดผิด..อย่างผมต้องพักโรงแรมครับ..หรูเริ่ดสะแมนแตน..เชอราตันยังอาย..ประตูหน้าประตูหลังเป็นกระจกใส ม่านลูกไม้บางๆ ใครเดินผ่านเห็นหมดตั้งแต่มือขาวๆ ถึงฝ่าเท้าอมชมพู  ..ห้องกว้างขวาง เดินห้าก้าวยังไม่ทะลุประตูหลัง  แต่ถ้าหกก้าวนั่นก็ลงเหวไป  ..ชักโครกสะอาด เสียก็แต่ฝารองนั่งลืมซื้อมาใส่  ..อ่างล้างหน้าเป็นระบบเซฟตี้วาล์ว จะใช้แต่ละครั้งต้องเดินไปเปิดที่ท่อส่ง  ..ระบบแสงสว่าง เป็นแบบรวมการ..ประหยัดพลังงานไม่ต้องเดินปิดเปิดหลายแห่ง..เพราะไม่ว่าจะกี่ร้อยสวิทซ์ ก็ติดอยู่หลอดเดียวกลางห้อง  จะอาบน้ำทีต้องปิดตาอาบ (อย่าถามนะ ว่าทำไม)  ..นี่ยังไม่นับระบบน้ำเย็น ที่หนาวสะท้านจนแทบอยากร้องไห้..

หลังจากกาแฟแก้วเมื่อเช้า  อาหารที่ตกถึงท้องถัดมาคือขนมปังปลากระป๋อง  อภินันทนาการจากจ่าแอฟริกาใต้ ที่เห็นทหารไทยบอบบางหิวหน้าซีดจะเป็นลมตอนสองทุ่ม  ..ผมซึ้งน้ำใจจ่าน้ำตานี่ไหลท่วมทุ่ง ช่างเป็นปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศที่อร่อยอย่าบอกใคร

อ้อ! เตือนผมด้วยนะว่าอย่าลืมทวงค่าโรงแรม  ก็ดูซิ ผมนะเดินขึ้นรถจะนอนอยู่แล้วเชียว  เพื่อนในทีมอีกสามคนที่มาด้วยกัน บอกนอนในรถไม่ไหวว่ะ หนาว นอนไม่สบายด้วย ไปหาโรงแรมกันดีกว่า  ภูเขาแถวนี้มันเคยมาหลายครั้ง พอรู้จักที่ทาง

แล้วเป็นไงล่ะ..ถึงโรงแรม ค่าห้องคนละหมื่นห้าพันฟรังค์  คนแรกควักออกมาทั้งตัวมีอยู่พันสองร้อยห้าสิบ  คนที่สองมีหมื่นสาม  คนที่สามมีห้าพัน  หันมามองหน้าผมทำตาละห้อย..ผมล่ะหมั่นไส้  ตังค์ก็ไม่มี ยังมีหน้ารักสบายกันอีกนะพระเดชพระคุณ  ..นี่ถ้าผมไม่รวยเพราะมรดกน้องแพทองทามานี่จะทำยังไงกันคร้าบบบ

ตอนนี้กองพันแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นกำลังหลักของภารกิจนี้กำลังระหองระแหงกับพลเรือนของยูเอ็น  ..ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ เวลาพลเรือนจะเข้าพื้นที่ไปทำงานที  ทำไมต้องยกขบวนเอารถหุ้มเกราะสองคันกระหนาบหน้าหลัง  ไปกันแค่สองคน ทำงานครึ่งชั่วโมงเสร็จก็กลับ..เสียดายทรัพยากรจริงๆ  ตอนหลังสงสัยจะนึกได้ เลยลดเหลือรถเกราะคันเดียวพร้อมชุดคุ้มกันติดอาวุธแค่สิบเอ็ดคน

อาทิตย์ก่อนรถหุ้มเกราะลาดตระเวนของกองพันแอฟริกาใต้ตกเขาไปหนึ่งคัน  ยังไม่รู้สาเหตุ  ..ทหารก็บอกอาจโดนซุ่มยิง  แต่พลเรือนบอกขับเร็วแหกโค้งมากกว่ามั๊ง  ..ทหารในรถถูกช่วยขึ้นมาด้วยเฮลิคอปเตอร์  ส่วนรถเกราะคงปล่อยนอนแอ้งแม้งในเหวห่างจากจุดตกสามร้อยเมตร..ทุกคนรอดชีวิต  ผมละทึ่ง..สงสัยเพราะปลาซาร์ดีน

ในยูเอ็นพลเรือนเป็นใหญ่อย่างที่รู้ๆ  การกู้รถเกราะถึงตอนนี้จึงยังไม่มี..กองพันแอฟริกาใต้ฉุนมาก..ทหารผมออกไปคุ้มกันคุณฟรีๆ รับเงินพันเหรียญต่อเดือน คุณใส่ในรายงานว่าไปกันเองตามลำพังแล้วเบิกค่าฝ่าอันตราย รับเดือนละหมื่นกว่าเหรียญ..คุณยังหน้าด้านไม่แสดงน้ำใจในยามยากอีกหรือ...คุณ คุณ คุณ...คุณแน่มาก (พูดไปตัวสั่นไป สงสัยปวดห้องน้ำ) 

จะจากไปเฉยๆ เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นทหารชั้นสากกะเบือ  ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอทิ้งท้ายคมๆ ให้สมกับเป็นหัวรบน้ำปลาพริกหน่อยนะครับ

" ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเดินทางได้ดังสายลม บัดนี้ข้ายอมจำนน และจบลงแต่เพียงเท่านี้ "
- เจอโรนีโม (นักรบอินเดียนแดง)				
7 กันยายน 2548 04:15 น.

ในรั้วนายเรืออากาศ : ตอนเข้าป่า

..สายลมทะเล..

ร้อน! ร้อนจนน่าตาย  ขณะที่พวกเราต่างพยายามเอาหัวมุดร่มหญ้าไมยราพที่สูงจากพื้นแค่คืบ ...ขุดดินข้างๆ ต้นพอเป็นหลุมแล้วเอาหัวเข้าซุก นั่นเป็นร่มเงาเดียวบนเขาหัวโล้นลูกนี้ ภารกิจเข้าโจมตีโดยการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด หรือที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า Close Air Support (CAS) ที่ทำให้พวกเราต้องมารอเวลาเหนือเป้าหมายของเครื่องโจมตีตั้งแต่ตอนสาย นี่ก็ปาเข้าไปกว่าสี่ ชม.แล้วสำหรับการรอคอย 

จ๋อผี พลิกดูนาฬิกาที่ข้อมือ บ่ายโมงสี่สิบ เหลืออีกยี่สิบนาที มันพึมพัม ก่อนที่จะระเบิดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เหี้ยเอ๊ย! โลกโคจรเข้าใกล้นรกหรือไงวะเนี่ย ร้อนฉิบหาย อัดด้าผงกหัวขึ้นดูทำปากพะเงิบพะงาบเหมือนพยายามจะสนับสนุน แต่ก็ไม่มีแม้เสียงใดเล็ดลอดออกมา...น้ำลายมันหมดเกลี้ยงแล้ว

แชททททท..... เสียงปืนกลอากาศจากเครื่อง Peach Maker หลุดจากลำกล้องทะลวงอากาศเข้าสู่เป้าหมายบนเนินเขา สามหมู่ปืนเล็ก แน่นอนรวมพวกเราสิบสองชีวิตด้วย กึ่งวิ่งกึ่งคะมำกรูขึ้นไปตีเป้าหมายเนิน 4711(ชื่อเหมือนยี่ห้อโคโลญจ์เลยแฮะ)  ปัง ปัง ปัง ปัง ๆๆๆ ทั้งเสียงลูกแบ็งค์ทั้งเสียงปากคนดังผสมปนเปด้วยแรงฮึดหลังเครื่อง Peach Maker ดำลงมาโจมตีระลอกสุดท้าย ..และเราก็ยึดที่หมายได้สำเร็จ (ลูกแบ็งค์เป็นกระสุนที่ให้เสียงดัง แต่ไม่มีหัวกระสุนในการทำลายเป้าหมาย)

ที่ยอดเนินเขาเราจัดแจงเรื่องการวางกำลังป้องกัน ส่วนหนึ่งเริ่มประกอบอาหาร ...ไข่เจียวกำลังหอมขณะข้าวใกล้สุกและเต็นท์กางเสร็จเรียบร้อย  ซ่าๆๆ เสียงวิทยุซ่าเข้ามาในเครื่องวิทยุสนาม PRC-77 พลวิทยุเงี่ยหูฟัง #!%#**$#!*@ ข้อความเข้ารหัสที่ถอดออกมาว่าอย่างไรไม่รู้ แต่ ไอ้แก้ว หัวหน้าหมู่ก็สั่งการทันที 
เฮ้ย! รื้อเต็นท์ เก็บของ ไปต่อ 
ข้าวยังไม่สุกเลย อัดด้าว่า
ช่างแม่ง! ไปกินเอาข้างหน้า ไอ้แก้วเลือดทหารพูดหน้าตาย ทุกคนเงียบ ก้มหน้าก้มตาเก็บเต็นท์ รื้อก้อนเส้า ทำลายร่องรอยตามแบบฝึก ...เริ่มต้นออกเดินอีกครั้ง

...ข้ามเขามากี่ลูกแล้วไม่รู้ จากเขาแดงหัวโล้น แม้หญ้าสักต้นยังหายาก เราเริ่มเข้าสู่เขตป่า..ป่ารกภูเขา อัดด้า"กับ จ๋อผี รั้งท้าย
ไอ้จ๋อ กูหิว อัดด้าบ่นเบาๆ 
จ๋อผีซึ่งตอนนี้เดินลากปืนเอชเคมากับพื้นเงยหน้าดูเพื่อน
ไอ้สัตว์ กูก็หิว ดูเหมือนจะเป็นคำปลอบใจที่เข้าท่าที่สุดเวลานั้น

แสงสุดท้ายของวันลับขอบฟ้า
ทหารป่าหิวข้าวน้ำตาไหล
ที่หมาย ได้แต่ท้อ..เพราะอีกไกล
กายไม่ไหวใจล้า..แต่ขายังเดิน

การเดินป่าภูเขาด้วยแผนที่เข็มทิศในเวลากลางคืนยามร่างกายหิวและอ่อนล้าเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ความหิวนำมาซึ่งความหงุดหงิด ความอ่อนล้าและอ่อนเพลียจากการเดินและทำภารกิจมาทั้งวันชวนให้อยากทิ้งตัวนอน ..แต่น่าแปลกที่กฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ แรงเฉื่อย ของนิวตันจะเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ในป่าเวลานั้น นอกจากไอ้แก้วทหารควายที่ควงสปาต้าร์ถางป่าไปพลางร้องเพลงเลือดสุพรรณไปพลางแล้ว อีกสิบเอ็ดชีวิตมีสภาพไม่ต่างไปจากไร้ชีวิตเท่าใดนัก และก่อนที่พลวิทยุจะเป็นลมขาดใจตายไปเสียก่อน ไอ้แก้วก็คว้าวิทยุสนามไปแบก พร้อมปืนเอ็มสิบหกติดเครื่องยิงลูกระเบิด M-203 อีกหนึ่งกระบอก แล้วเพลง เราสู้ รอบที่สามก็โหยหวนขึ้นมาอีกครา...ชะรอยชาติที่แล้วมันคงเกิดในหมู่บ้านบางระจัน ซึ่งถ้าไม่ใช่นายจันหนวดเขี้ยว ก็คงเป็นพ่อบุญเลิศควายของพ่อจันนั่นละ

หลังจากเดินข้ามเขาพระสุเมรุวกอ้อมเหลียงซานและผ่านมาจบที่ตีนเขาสามร้อยยอดประจวบคีรีขันธ์ก็สามทุ่มเศษ ที่นั่นครูฝึกต้มถั่วเขียวกับน้ำตาลหอมฉุยไว้รอท่า หมู่ที่มาถึงก่อนสามถึงสี่หมู่นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พวกเรารีบไปผสมโรงอย่างกลมกลืน

...ห้าทุ่มกว่าแล้ว หมู่สุดท้ายยังมาไม่ถึง ครูฝึกเริ่มกระวนกระวาย แต่พวกเรากลับไม่ได้สนใจอะไร เมื่อไม่ให้แยกย้ายกันกางเต็นท์นอนจนกว่าจะมากันครบ เราก็นั่งหลับคอหักกันในแถว...ดูไกลๆ ในความมืดชวนนึกไปว่าเป็นแถวนั่งของทหารผีหัวขาด

.................................
วันนี้เป็นวันเข้าปัญหาอดสี่สิบแปดชั่วโมง ก็ตรงตามชื่อละครับ อด ไม่มีข้าว ไม่มีน้ำสองวันเต็ม ครั้นจะฝึกกันในป่า ต่อให้ลึกเข้าไปในแดนพม่า รกและน่ากลัวกว่าป่าอเมซอน ลองมีนักเรียนนายเรืออากาศไปฝึกแล้ว แม่ค้าทั้งแก่ทั้งสาวก็จะตามไปขายจนถึงที่ ..จะไม่ให้ตามได้ไงละครับ มีเท่าไหร่ พ่อเล่นเหมาหมด ก๋วยเตี๋ยวผัดห่อใบตองขายกันห้าบาทในตลาด ให้ห้าสิบบาทก็แย่งกันซื้อไม่พอกิน...อะไรที่กินได้ ล้วนมีราคา ขนาดขนมลูกเต๋า ขนมโก๋ที่มีลูกแก้วฝังอยู่ข้างใน พวกเราเห็นยังตาลุกน้ำลายสอ

ปัญหาอดสี่สิบแปดชั่วโมงคราวนี้ เลยต้องจับลงเรือไปปล่อยเกาะ...เกาะร้าง...ร้างที่หมายความว่าไม่มีทั้งคน ไม่มีทั้งลิงอาศัยอยู่ ต้นไม้ก็ขึ้นกันแบบช่างเกรงใจกันจนน่าหมั่นไส้ มีเป็นหย่อมๆ และหย่อมแบบแหว่งๆ ร้ายไปกว่านั้น...ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าหรือพืชใดที่กินได้เลย วิชายังชีพในป่าหากินใบผักใบหญ้า ตัดต้น ขุดรากหาน้ำกิน ไม่มีโอกาสได้นำมาใช้ ถ้าจะมีสักคนกินได้ ก็เห็นจะเป็นไอ้แก้วนั่นละครับ...รายนั้น ฟางพ่อก็กิน ฮ่า

ก่อนจะขึ้นเรือไปปล่อยเกาะ ก็ต้องมีการปลดทรัพย์ตรวจจับการลักลอบนำอาหารติดตัวกันเสียก่อน ครูฝึกสั่งถอดเสื้อ ถอดรองเท้า เทเป้ ทุกอย่างกองวางอยู่บนพื้น แล้วทำการค้นตัวทีละคนในท่าตามระเบียบพักอย่างน่าเวทนา ไอ้ที่แอบซ่อนข้าวสาร ซ่อนน้ำพริกนรกในกระป๋องแป้งสปริงซอง ยัดแอบเนื้อทอดในพานท้ายปืน ซุกถุงเกลือในรังเพลิงนะ...ค้นเจอหมดล่ะครับ

เย็นนั้น ITV ออกข่าว 
ครูฝึกโรงเรียนศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ปราณบุรีพากันตบเท้าลาออกจากราชการ ไปเปิดร้านค้าปลีกเซเว่นอีเลฟเว่นร่ำรวยกันไปหลายคน 

บนเกาะร้าง หลายคนทำตัวเป็นกบจำศีล อยู่นิ่งๆ ตั้งใจเต็มที่ที่จะนอนมาราธอนแบบไม่ยอมตื่นมาใช้พลังงาน บ้างก็ทำตัวเป็นชาวประมงจำเป็น หรือนึกไปเองว่าตัวคือโรบินสันครูโซติดเกาะ ออกไปเสาะแสวงหาจับปลาในทะเลริมชายฝั่ง สารพัดเทคนิคที่ต่างคนต่างคิดและนำมาใช้ ...ตลอดทั้งวันกับความพยายามทั้งหมด จับปลารวมกันได้สองตัวด้วยฝีมือของชายที่ชื่ออุ๋ย หรือที่เพื่อนๆ เรียกเขาว่า ไอ้สมหมี ไอ้สมหมู และ คุณหะมู คนที่เดินท้ายแถวแต่เป็นเจ้าของน้ำหนักเกือบร้อยกิโลที่รุ่นของเราภาคภูมิใจ 

ปลาสองตัวนั้นจึงเป็นเสมือนอาหารฮ่องเต้ฟ้าประทาน ที่พวกเราแบ่งกันกินคนละคำอย่างเอร็ดอร่อย คืนนั้นอุ๋ยหลับไปอย่างมีความสุข ...และเหตุการณ์ครั้งนี้บอกกับพวกเราว่า หากต้องติดเกาะกันจริงๆ เห็นทีนายเรืออากาศรุ่นนี้คงอดตายยกรุ่น 

ทุกคนหลับตามอุ๋ยไปด้วยรอยยิ้ม คิดถูกแล้วที่ไม่ได้สอบเป็นนักเรียนนายเรือ

กลับจากเข้าป่าครั้งนั้น ไอ้แก้วก็เปลี่ยนชื่อ และดูมันจะภูมิใจในชื่อใหม่ของมันมาก ถึงขนาดบ้าเห่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกคราวที่ถูกเรียก

วันจบการศึกษาแม่มันแทบร้องไห้
เฮ้ย! ไอ้ควาย มาถ่ายรูป
ไอ้แก้วของแม่วิ่งตัวปลิวไปตั้งท่าพร้อมขวิดกับเพื่อนๆ				
7 กันยายน 2548 04:11 น.

เรื่องเล่าแอฟริกากลาง : ชีวิต..จิตใต้สำนึก..แพะและคน

..สายลมทะเล..

วันนี้เราได้รับคำสั่งให้ไปหาข้อเท็จจริงข่าวปฏิบัติการลับสังหารหมู่หน่วยแทรกซึมของกองกำลังกลุ่มกบฎโดยทหารของฝ่ายรัฐบาล  ที่จริงไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของทีมเรา แต่ผลการสอบสวนครั้งนี้ทางนิวยอร์คร้องขอมา.. ซึ่งก็แน่นอนว่า เรื่องคาวๆ อย่างนี้ ต้องส่งมาให้หน่วยเฉพาะกิจหัวเห็ดอย่างทีมเรา

บนเส้นทางข้ามเขา  รถคันแรกยังคงใช้ความเร็วเหมือนอยู่บนทางเรียบแข่งฟอร์มูล่าวัน ..ผมส่งสัญญาณบอกให้ลดความเร็วลง แต่ก็ได้รับการเพิกเฉย ผมจึงเลือกตามไปห่างๆ ..มันเกินระดับความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นที่ผมจะยอมรับได้ 

ฝูงแพะทำท่าจะข้ามถนนอยู่ไกลๆ  รถคันหน้าไม่มีทีท่าจะชะลอความเร็วลง.. ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น.. มัจจุราชก็มารับพวกมันไป

เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความเร็วของรถคันแรกตกลงเล็กน้อย แล้วก็ทะยานเข้าสู่ความเร็วเดิม  ผมส่งสัญญาณบอกคันแรกว่าเกิดอะไรขึ้น.. แต่ได้รับความเงียบและการเพิกเฉยเป็นคำตอบ

ผมขับผ่านเด็กรับจ้างเลี้ยงแพะที่อุ้มพวกมันเข้าข้างทางด้วยความรู้สึกสงสาร(มีครับมี ผมมีความรู้สึกสงสารกับเขาเหมือนกัน) เพื่อนร่วมทีมที่นั่งข้างๆ บอกว่าอย่าสนใจ เรื่องเล็ก..ผมเลยสวดภาณยักษ์มันไปบทหนึ่ง พลางเหยียบคันเร่งเต็มสปีดหวังตามให้ทันคันหน้า (เจ้าตัวไม่กล้าว่าผมเรื่องนี้ เพราะมันเอาเปรียบโยนกุญแจให้ผมขับทุกวัน พอเสร็จงานมันก็มาขอกุญแจคืนเอารถไปใช้

เพื่อนคนอื่นก็จะว่า เฮ้ย! ทำไมปล่อยให้มันเอาเปรียบอย่างนี้.. ผมได้แต่ยิ้ม.. นี่พวกคุณยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่า มันก็ไม่ได้ต่างไปจากพวกคุณๆ หรอก ที่ไม่ได้เอาเปรียบผมเรื่องนี้ แต่ก็เอาเปรียบเรื่องอื่น.. ไม่ใช่ว่าผมโง่นะ.. แต่ผมคนไทยอ่ะครับ ขี้เกียจโวยวาย... ไม่อยากบอกว่าถ้าเปลี่ยนสรรพนาม..คุณผม..เป็นกูมึง..จะได้อรรถรสยิ่งกว่านี้อีกนะ)

ขับไปทันกันอีกกิโลนึงข้างหน้า ผมบังคับให้คันแรกจอด.. แล้วเดินไปคุย

ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าผมบ้า  เรื่องแค่นี้อะไรนักหนา  แค่ชนแพะตาย..ไม่ใช่คนสักหน่อย  งานก็ยิ่งเร่งๆ และก็สำคัญกว่าตั้งเยอะ.. แล้วก็ไล่ผมกลับไปขึ้นรถ ..ผมโกรธสุดขีด..ด้วยเสียงเรียบๆ ผมตีหน้ายักษ์ ยิ้มมุมปาก.. เรื่องแค่นี้เอง ทำไมไม่ทำให้มันเรียบร้อยจบๆ ไป  จะทิ้งไปทั้งอย่างนี้เหรอ ..หรือมันเป็นเรื่องปกติ..มันถูกแล้วที่ทำ.. ผมใส่ไม่ยั้ง

แต่จนแล้วจนรอดผมก็ต้องคอตกเดินไปขึ้นรถเมื่อไม่มีใครยอมฟัง  หลังจากนั้นผมขับรถเงียบไปตลอดทาง

สิ้นสุดทางที่รถจะผ่านไปได้ พวกเราก็ลงเดิน  

ชาวบ้านบอกต้องเดินไปอีก 400 เมตรถึงจะถึงจุดสังหารหมู่ 15 ศพ

เอาเข้าจริงเป็นกิโลครับ ข้ามเขาหนึ่งลูก ไม่มีทางเดินเท้า ต้องปีนลงเหวเดินลุยลำธารมุดพงหญ้าที่ปกคลุมหุบเหวจากแสงอาทิตย์ ..เหงื่อไหลโซมแผ่นหลัง โน้ตบุ๊ก กล้องดิจิตอล อุปกรณ์ขาตั้ง น้ำ กาแฟ และอาหารในเป้หลังหนักจนอยากโยนทิ้ง 

ผมเดินรั้งท้าย..แอบหอบเป็นระยะๆ อย่างเก็บอาการ..อยากจะโวยอยู่เหมือนกัน..ทำไมถึงเห็นแก่ตัวกันอย่างนี้  ไม่มีใครคิดแบ่งเบาอุปกรณ์ของทีมไปถือ  เดินกันตัวเปล่าตั้งแต่วันแรกจนสี่เดือนผ่าน  ก่อนหน้านี้ หัวหน้าทีมจะรับผิดชอบโน้ตบุ๊กขึ้นเขาลงห้วยก็ช่วยแบก  ให้ผมรับผิดชอบแค่อุปกรณ์อื่น อาหารและน้ำ

จริงๆ อาหารและน้ำผมเตรียมไว้แค่ตัวผม..แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่เคยได้กิน..คนอื่นขอกินจนหมดก่อนทุกครั้ง  แต่เรื่องนี้ผมก็ไม่คิดโทษอะไร เพราะจุดประสงค์ของผมคือ..มันเป็นอาหารและน้ำในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินติดอยู่ในพื้นที่ ไม่สามารถออกมาได้..ฉะนั้นถ้าไม่ได้ติดอยู่ในพื้นที่แน่ๆ ใครจะกินก็กินไปเถอะ

เห็นคนนำทางหยุดอยู่ข้างหน้า...ผมวักน้ำขึ้นลูบแขนและหลังคอ..น้ำไหลเอื่อย สีออกแดงจางๆ..คงเพราะดินลูกรัง

ผมเดินไปสมทบกับกลุ่มเพื่อน..สี่ศพถูกมัดไพล่หลัง สภาพศพถูกจ่อยิงกรอกลูกตาด้วยปืนสงคราม  หัวระเบิด สมองไหล ตายคาลำธารสายนั้น

ตรวจสอบสถานที่  แล้วเดินเท้าไปกันต่อ..ตลอดเส้นทาง  ผมไม่ได้ล้างหน้าอีกเลย

แปดศพถัดมา ถูกพบตายคาเนินเขา  สภาพศพไม่ต่างไปจากสี่คนแรกเท่าไหร่นัก  มือถูกมัดไพล่หลัง..บ้างถูกจ่อยิงหัว บ้างจ่อยิงลูกตา บ้างยิงกรอกปาก และบ้างยิงเข้าหน้าอกพรุนไปทั้งร่าง

เราตรวจสอบสถานที่เท่าที่จะทำได้..และออกเดินต่อ..น่าเสียดาย จุดสังหารจุดที่สามเราไม่สามารถเข้าไปถึง..เส้นทางลำบากและไกลมาก  ..ผมร้องไห้  ทุกคนรำคาญ  เลยหันหลังเดินกลับ

เดินลงเขามาถึงจุดจอดรถ  ชาวบ้านและเด็กเลี้ยงแพะตามรอยล้อรถมาคอยอยู่ก่อนหน้า  ผมเหนื่อยใจ..ปล่อยให้ต้นเหตุจัดการแก้ปัญหา..เถียงกันไปเถียงกันมา เห็นเพื่อนจ่ายตังค์ให้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง..เท่าไหร่ไม่ทราบ  แล้วก็โยนแพะขึ้นรถ บึ่งกันออกมา

ผมมองผ่านกระจกหลัง..ชาวบ้านหลายคนมีท่าทางไม่พอใจ

เราขับรถลุยเส้นทางเดินเท้าลงมาถึงตีนเขา  วัยรุ่นสี่คนพร้อมเด็กเลี้ยงแพะ จับมือกันยืนขวางเส้นทางรถ  ข้างๆ มีทหารถือปืนยืนรอดูทีท่า  ..การเจรจาที่ดุเดือดเริ่มขึ้น  ก่อนจะจบลงอย่างรวดเร็ว.. เงินจำนวนหนึ่งและแพะที่ตายถูกส่งคืนให้คนกลุ่มนั้น

คืนนี้พวกเขาคงฉลองกันอย่างสนุกสนาน ..เจ้าของแพะอาจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ..ชาวบ้านจะรวมหัวกันบอกว่า..ทหารฝ่ายกบฏมาปล้นแพะ..ร้องไห้ร้องห่มนิดหน่อย แล้วก็ปิดฉากละครเศร้าเรื่องนี้กันอย่างเมามายและอิ่มหนำ

ผมไม่อยากซ้ำเติม..แต่เรื่องก็จบลงอย่างสะใจผมนิดๆ 
กลับมาถึง..เพื่อนคนอื่นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเดินไปหาเจ้าคนขับรถคันแรก ยื่นเงินส่งให้ บอกว่าผมช่วยแชร์ค่าแพะ ..มันคงละอายเพราะด่าผมไว้เยอะ..เลยยื่นมือรับไว้ 

ไอ้เวร...ยังมีหน้ารับ				
6 กันยายน 2548 04:47 น.

เรื่องเล่าแอฟริกากลาง : ข้าวคลุกน้ำตา

..สายลมทะเล..

เพิ่งไปกินข้าวเย็นกับผู้บังคับบัญชาของค่ายฝึกกองกำลังป้องกันประเทศที่นี่ ที่จริงตั้งใจเชิญแค่ 3-4 คน แต่ ผบ. เขาขอพานายทหารสนิทๆ ไปด้วยอีก 20 เราได้แต่มองหน้าทำตาปริบๆ ใส่กัน...กระเป๋าฉีกอีกแล้วงานนี้

ใครบอกมาทำงานยูเอ็นกลับไปมีเงินเก็บเป็นล้าน ผมว่าไอ้ล้านที่ได้นะ มันจะเป็นหัวผมเสียมากกว่า ทีมอื่นเสร็จงานกลับบ้านตีพุงนอน ทีมเราเดี๋ยวมีนัดกินเบียร์กับกลุ่มโน้น เดี๋ยวมีนัดทานข้าวกับกลุ่มนี้ ...เจอกันแต่ละที กินยังกะปล้น 

กินอิ่มเมื่อไหร่ปากว่างมือไม้อยู่ไม่สุข เอาอีกแล้วขอยืมโทรศัพท์โทรหาญาติๆ ..ไม่รู้ญาติโกสมัยไหนขุดกันมาโทร เงินในโทรศัพท์มีเท่าไหร่ พ่อเจ้าพระคุณเวียนกันโทรจนหมดไม่มีเหลือ ..แล้วยังมีหน้ามาถาม มีบัตรเติมเงินอีกไหม ไอยังคุยไม่เสร็จ ไม่รู้เป็นอะไรกับยุ้ย..ญาติเยอะเสียจริงพ่อคุณ

ก็อย่างที่บอกล่ะครับ ผมนะเป็นที่รัก ด้วยความที่ยังหนุ่มฟ้อหล่อหลบ เด็กกว่าใครเขา ก็เลยโดนจับไปนั่งกลางวงนายทหารผู้ใหญ่ตลอด นัยว่าบรรยากาศจะได้ไม่เครียด คุยเรื่องสงครามกับการเมืองจนเกือบวางมวยกันอยู่แล้วเชียว หันมาเห็นหน้าผมนั่งบื้อยิ้มบ้าไม่รู้เรื่อง บรรยากาศเครียดๆ ก็กระจายเหมือนผายลม
................................................................................
ไก่เผาถูกยกมาเสิร์ฟ..มีดกับส้อมไม่ต้อง..ดูปร๊าดก็รู้ว่าเป็นไก่คงกระพัน อย่าหวังว่ามีดพร้าจะฟันแทงเข้า..เหนียวเหมือนหนังคนที่บ้านไม่มีผิด..สัตว์กินเนื้อตัวยงอย่างผมต้องยอมแพ้ เขี่ยทิ้งไว้ข้างจาน

ผู้พันข้างๆ เห็นผมเงียบไป ถามว่าไม่กินแล้วเหรอ ..ผมบอกไม่ไหว เคี้ยวไม่ออก ไม่อ่อนเหมือนหญ้าข้างบ้าน.. ท่านผู้พันรีบคว้าหมับ ..งั้นผมขอ ทันใดนั้นเอง..ท่านผู้บัญชาการที่ก้มหน้าก้มตาแทะกระดูกอยู่เงียบๆ ก็ตะปบไก่อีกครึ่งฟากจาน ..ต้องสารภาพจริงๆ ว่า ทีแรกผมนึกว่าเป็นมุขของผู้บัญชาการ แต่พอเห็นท่านคว้าไปกัดกร้วมๆ ถึงกระจ่าง

ไม่ได้จบแค่นั้นหรอกนะครับ เสธ.ฝ่ายอำนวยการซึ่งคงนั่งอดกลั้นอยู่นานเอ่ยขึ้นมาบ้าง ผบ.ขอผมครึ่งนึง ..โอ! จอร์ช เป็นไปได้ไง ลูกน้องขอแบ่งตีนไก่จากปากเจ้านาย ..เป็นทหารไทย โดนถีบกระเด็นไปหลังร้านล่ะครับ แต่ผู้บัญชาการก็ใจดีหักข้อตีนแบ่งส่งให้ไม่ว่าอะไรสักคำ

แพะย่าง เนื้อย่าง ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ 
วางหาย..วางหาย..เหมือนผีหลอก ผมหันไปดูคุณหมอประจำค่ายที่เพิ่งคุยกันเมื่อกี้
หมอไม่สูบบุหรี่ ไม่ดีต่อสุขภาพ..เราเป็นหมอต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทหาร 
ตอนนี้คุณหมอหมดสภาพ นั่งตาฉ่ำยิ้มให้ขี้แพะ..เบียร์ครึ่งลังท่วมถึงคอหอย

อิ่มจนพุงกาง เสธ.ตบพุงโบกมือให้พนักงานเสิร์ฟ..นึกว่าจะถามทางไปห้องน้ำ..ที่ไหนได้ ขอเมนูของหวาน..มันน่าฆ่าไหมเนี่ย ระหว่างนั่งรอ เห็นคนอื่นส่งมือถือ(ที่ใช้จนเงินหมด) คืนกลับมาให้ผม สวยดีนะ ขอได้ไหม ..พูดไม่มีคิดเลยนะพ่อ ไม่ได้หรอก ผมต้องใช้ งั้นเดี๋ยวตอนคุณลากลับไปพักที่เมืองไทย ซื้อมาฝากผมเครื่องนึงแล้วกัน ผมไม่ทันตอบ เพื่อนในทีมอีกคนซึ่งคงนั่งหมั่นไส้มานานก็โพล่งขึ้นด้วยฤทธิ์เบียร์ กัปตันซูซื้อไม่ไหวหรอก นี่ก็โดนไถไปหลายเครื่องแล้ว คนประเทศนี้ไม่รู้เป็นอะไรนะครับท่าน แม่งขอยันเลย ผมละอายแทนประเทศชาติ ท่าน เสธ.ถูกทุบหัวปลาดุกเลยเงียบไป

ผมลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าพอสร่างโค้ก เดินกลับออกมาเจอผู้กองยืนงุ่นง่านดักรออยู่
เป็นไง สบายดี ผู้กองทัก
สบายดี ผมตอบภาษาอังกฤษอันลื่นไหลของผู้กองอย่างทันควัน
พอดีเพื่อนน้องสาวไม่สบายอยู่ต่างจังหวัด น่าสงสารมาก ขอตังค์ไปช่วยเขาหน่อยซิ
พอจับใจความได้ว่าขอตังค์ ภาษาอังกฤษของผมเผ่นเข้าหม้อไปในบัดดล..
เอ่อ อ่า ไอ..โน..อิงลิช..โน..ท้อค..โซลเจอร์..โน..โน..อิงลิช
ผมอาจเป็นคนใจอ่อนก็จริง แต่ก็ปากแข็งนะครับ (ที่เห็นแตกบ่อยก็เพราะจิ๊กโก๋แถวบ้านอยากพิสูจน์นั่นแหล่ะ) 

ระหว่างหันรีหันขวาง นึกหาข้อความตอบโต้ให้น่าฟัง หัวหน้าทีมซึ่งหลบมุมดูทีท่าอยู่ก่อนแล้วก็เข้ามาช่วยชีวิต เราไม่ใช่องค์กรการกุศล เราต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่สามารถช่วยเหลือใครเป็นการส่วนตัวอย่างนั้นได้ มันดูไม่เป็นการยุติธรรมต่อฝ่ายอื่น แต่ถ้าเพื่อนหรือคนรู้จักตายนั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง

เจ้าตัวพูดเนิบๆ สีหน้าจริงจังตามสไตล์ ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า..ถ้ามึงตาย กูยินดีจะช่วยเงินค่าทำศพ.. เจ้าผู้กองเลยถอยกรูดไปอย่างรวดเร็ว

นี่ดีนะ ถ้าอยู่ต่อ ได้เจอขุนเข่าไร้น้ำใจ มวยไทยกระชากวิญญาณ..ขอบอก ให้รู้กันไปบ้างไผเป็นไผ ..ผมขยับคอกร๊อกแกร๊ก พับแขนเสื้อมาชนไหล่..แต่คงช้าไป เพราะเจ้าผู้กองเดินลับขอบกำแพงไปก่อนหน้า

รอดตัวไป..ไม่งั้นล่ะอึง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ..สายลมทะเล..
Lovings  ..สายลมทะเล.. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ..สายลมทะเล..
Lovings  ..สายลมทะเล.. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ..สายลมทะเล..
Lovings  ..สายลมทะเล.. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง..สายลมทะเล..