15 ตุลาคม 2548 16:00 น.
..สายลมทะเล..
อุทกภัยน้ำมาน้ำตาท่วม
น้ำใจรวมท่วมถั่งต่างหลั่งไหล
สารทิศทั่วฟ้าทุกถิ่นไทย
ปันน้ำใจดับทุกข์..ฝากกันมา
เช้าเมฆดำพรำฝนจนหดหู่
คำสั่งด่วนเคาะประตูดั่งคนบ้า
ไปเตรียมบินเดี๋ยวนี้ ไม่มีเวลา
หาดใหญ่จมน้ำตา แต่เมื่อวาน
ลพบุรีกำแพงแสนแล้วประจวบ
ข้าวเช้าเที่ยงรัดรวบกินผ่านผ่าน
ผ่านชุมพรดูท่าไม่ได้การ
ฝนรอบด้านปะพบเกินหลบเลี้ยว
..เช้าที่สุด เท่าที่ จะบินได้
..ต่ำพอพ้น ยอดไม้ ชวนหวาดเสียว
สูงกว่ารางรถไฟ แค่นิดเดียว
นั่นคือผืนดินเดียว ในสายตา
ห้าสิบฟุตข้างหน้า..มองไม่เห็น
หลังคารั่ว อากาศเย็น..คนแทบบ้า
หกสิบไมล์ มีแต่น้ำกับหลังคา
ไฟแดงหราน้ำมันหมดยี่สิบนาที
เย็นสะท้าน แต่ทว่าเหงื่อแตกพลั่ก
ไวเปอร์ด้านกัปตันหักยิ่งขวัญหนี
กัปตันบอกผลัดกันบินสองนาที
ยิ้มอารีย์มีให้กัน..ขวัญจึงมา
ก่อนน้ำมันหมดเกลี้ยงขีดสุดท้าย
ก็ยิ้มได้แผ่นดินสุราษฏร์อยู่ข้างหน้า
เติมน้ำมันจะไปต่อ อนิจจา
ฝนกลับท่วมเหมือนเทฟ้า เกินฝ่าไป
ภารกิจล่าไปเป็นวันพรุ่ง
พอถึงรุ่งฟ้าสั่ง ต้องบินไหว
เจ็ดชีวิตพยักหน้า ไปก็ไป
ถึงหาดใหญ่เหมือนฟ้าแกล้ง กลับพลิกฟ้า
ฟ้าสว่าง กลิ่นดินหอมเข้าจมูก
ข้าวสารผูกมัดถุงพร้อมเสื้อผ้า
ซีร้อยสามสิบลำเลียงถึง ก่อนเรามา
ฮ.ทัพฟ้าถึงเวลาได้ออกโรง
ถุงยังชีพ มากที่สุด..เท่าขนได้
หนักพอกะบินไหว ช้างหนึ่งโขลง
เชือกฟางตัดสั้นยาว พอยึดโยง
ลอยตัวโล่งหย่อนถุงลงบนหลังคา
บ้างไม่ทันคนโจนโดดคว้าหมับ
ศูนย์ขยับสมดุลเคลื่อน ฮ.ถลา
รีบตัดเชือก ถุงคน ร่วงตกมา
ยังยิ้มร่า โบกมือ..ขอบอกขอบใจ
เที่ยวสุดท้ายลงที่ดอนเกาะกลางน้ำ
ชาวบ้านข้ามมารับ สักร้อยได้
พอแจกหมด วิ่งขึ้น เกือบตกตาย
เชือกเรือผูก ฮ.ไว้ ไม่ให้ไป
ภารกิจปิดทอง มองไม่เห็น
เช้าจดเย็นเหงื่อหยด หมดจะไหล
ข่าวไม่ออก ผู้ใหญ่ไม่เห็น..ไม่เป็นไร
ทำด้วยใจ..ทำเพื่อราษฎร์..ชาติของเรา
10 ตุลาคม 2548 20:19 น.
..สายลมทะเล..
ปิดตา ปิดใจ ไว้แน่นหนา
ยังถือดีตบหน้าเปิดตาได้
ขังใจเหงาอ้างว้างไว้ข้างใน
ก็ยังแหวะหัวใจเอาออกมา
ล้างเลือด เกรอะกรัง ที่กุมเกาะ
ชวนทะเลาะตบตีจนแทบบ้า
เซ้าซี้ ทั้งวัน จำนรรจา
ไม่ตอบแม่ลุกขึ้นมา เป็นฟืนเป็นไฟ
ด้วยเหตุผลร้อยแปดจิ้งจกทัก
ด้วยความรักไหนควรมอบใจให้
สติเอ๋ย ไฉนลืม ระวังระไว
เขามาปล้นหัวใจ ยังไม่รู้
ปัญญา ไหนว่า ชั้นกะทิ
แล้วถูกใครอัปเปหิ จึงไม่อยู่
ตำรวจจ๋าสืบถามตามให้รู้
โจรเจ้าชู้แอบลัก..ไปเมื่อใด
2 กันยายน 2548 21:14 น.
..สายลมทะเล..
เช้าหนึ่งชาม เย็นหนึ่งชาม ตามประสา
ตื่นก็สาย มาก็ช้า ลาก็บ่อย
ทำไปสิบหยิบมือ ถือว่าร้อย
เงินกระจ้อย บ่นพร่ำ ย้ำทุกวัน
ป่วยเข้าโรงบาลรัฐ เบิกทุกบาท
ค่าเทอมลูก ไม่เคยขาด หลวงจัดสรร
แก่เกษียณ บำนาญได้ ตายจากกัน
สวัสดิการ ร้อยพัน...ทำไม่รู้
ขั้นก็เพิ่ม ทุกปี ไม่มีลด
ตีหน้าเศร้า โศกสลด ให้หดหู่
ขั้นพิเศษ เสนอหน้า กูซิกู
สารพัด นกรู้ ตามหลังนาย
อนิจจัง อนิจจา น่าอนาถ
ข้าของราษฎร์ ขาดสำนึก น่าใจหาย
คนดีนิ่ง เงียบรับ เหมือนอับอาย
ปล่อยมะเร็ง เนื้อร้าย กินองค์กร
1 กันยายน 2548 15:49 น.
..สายลมทะเล..
ยิงกรอกปากจ่อตาฆ่าตัดหัว
ตัดแขนขาสับตัวผัวเมียลูก
เด็กรุ่นสาวขึงถ่างมัดร่างผูก
ปฏิบัติการทำลูกจ่อเรียงคิว
กี่คน วนไปไม่ได้นับ
กี่ทับ คับร่างหมุนติ้วติ้ว
กี่รอย กี่หยาดสาดเลือดปลิว
กี่หิว ราคะถ่มทำลาย
ยากไร้ ไม่มีกินทั้งประเทศ
สงครามเหตุล้างเผ่าเศร้าฉิบหาย
เด็กหญิงขอข้าวกินพอกันตาย
ผมละอายเธอแก้ผ้า..บอกแลกกัน
กลิ่นตัวเธอแสบจมูกเหม็นบัดซบ
ผมรีบทบผ้านุ่งยึดถุงมั่น
ล้วงเศษเงินติดตัวเหลือพอปัน
ก็มันเหลือเท่านั้น..โดนปล้นมา
เป็นประเทศอยู่บนแผนที่โลก
เกิดเป็นคนเศร้าโศกกว่าเป็นหมา
ไม่มีฝันใดใดแต่เกิดมา
อนิจจาประเทศเช่นนี้..มีจริง
ประเทศไทยมีกินสุขสบาย
อยากมีอยากได้ได้ทุกสิ่ง
กลับเบื่อหน่ายความสุขเคยพักพิง
ลุกขึ้นมาจับปืนยิงฆ่ากันเอง
30 สิงหาคม 2548 03:24 น.
..สายลมทะเล..
มีตัวตนอยู่ในเงามืด
ใช้ชีวิตเหมือนจืดชืดแต่เข้มข้น
อ่อนแอไม่กล้าสู้หน้าคน
ผู้คนเรียกเขา..สายลับ
จุดจบเดียวของความผิดพลาด
ใสสะอาดเหมือนดาวดับ
เลือกที่จะตายไปกับความลับ
หรือเลือกจะรับซัดทอดองค์การ