29 กันยายน 2549 23:43 น.
สายลมกับหญิงสาว
กาลเวลา ความทรงจำ และ...ความรัก
คุณว่ามั้ยว่ากาลเวลาช่วยทำให้ลืมอะไรบางอย่างในชีวิตได้ ถึงแม้จะใช้เวลานานก็ตาม อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตที่จะลืมความเจ็บปวดในช่วงเวลานั้น แต่จงเชื่อเถอะว่า...เวลาทำให้เราลืมได้จริงๆ บางคนเขารีบร้อนเหลือเกินที่จะลืม แต่ไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่เรารีบร้อนให้ลืมน่ะมันกลับยิ่งฝังรากลึกลงไปในใจ เพราะอะไรรู้มั้ย??
เพราะว่า มันเหมือนกับ ตอกย้ำ สิ่งเหล่านั้นไงละ ลองคิดูนะว่า ถ้าเราอยากจะลืมคนๆหนึ่งที่ทำเราเจ็บปวด เราบอกตัวเองให้ลืมคนๆนั้น และบอกให้ตัวเองลืมเวลาที่เจ็บปวด ไปทุกๆวัน โดยที่ชื่อและความทรงจำในช่วงนั้นตอกย้ำลงไปเรื่อยๆ และทีนี้เราจะใช้เวลาในการลืมสิ่งที่ ไม่ควรจำ นานมาก สู้เราปล่อยไว้แล้วเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆที่เราสองคนเคยทำด้วยกัน...ตอกย้ำสิ่งนั้น และช่วงเวลาที่มีความสุขลงไปในใจ แทนเวลาที่เจ็บปวดและช่วงที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นระหว่างเราไม่ดีกว่าหรือ??
อืม...ใช่ถ้าคุณอยากลืมทั้งหมดเกี่ยวกับคนๆนั้นแม้ช่วงเวลาที่ดีก็ตาม จงปล่อยมันไปพร้อมกับกาลเวลาปล่อยมันไปเรื่อยๆ หาอะไรทำเวลาที่คุณว่างจะได้ไม่ต้องคิดอะไรที่ฟุ่งซ่าน แล้วอยู่ๆวันหนึ่งคุณเกิดอยากจะนึกถึงช่วงเวลานั้น ที่บางทีคุณอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ลองเอามานึกใหม่คิดใหม่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แล้วคุณจะยิ้มและจะหัวเราะกับช่วงเวลานั้น คุณอาจจะพบว่าช่วงเวลาที่คุณคิดว่าทุกข์ที่สุดอาจจะกลายมาเป็นแค่เรื่อง จิ๊บจ้อย ที่ผ่านมาในชีวิตของคุณก็ได้
เพราะฉะนั้นกาลเวลาจะช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย ในการลืมเรื่องบางเรื่องถึงแม้จะใช้เวลานานก็ตาม...
อา...ช่วงเวลายามบ่ายบนโต๊ะไม้ขัดมันแวววาว สมุติว่าคุณกำลังนั่งจิบโกโก้ร้อนๆและนั่งกินของหวานที่เป็นเค้กช็อกโกแลต หรืออาจเป็นของหวานอย่างอื่นที่คุณชอบ มีเพลงรักหวานซึ้งเปิดคล้อไปเบาๆบรรยากาศรอบตัวร่มรื่น และเผอิญมันมีสมุดใส่รูปสีชมพูวางอยู่บนโต๊ะข้างๆโต๊ะของคุณซึ่งว่างคู่อยู่กับไดอารี่สีฟ้า แล้วมันก็ดันกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของคุณเสียด้วยว่าข้างในนั้นเขียนอะไรบ้าง และในสมุดใส่รูปนั้นมีรูปของใครอยู่
คุณจะเลือกอะไรระหว่าง...
สมุดใส่รูป...หรือ...
ไดอารี่เล่มสีฟ้าน่ารัก
แน่นอนว่าคุณต้องหยิบไดอารี่ก่อนแน่ๆ (หวังว่าเราคงเดาไม่ผิดนะ) เพราะคนส่วนใหญ่มักจะอยากรู้ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่า คุณหันซ้ายแลขวาหวังลึกๆว่าเจ้าของไดอารี่นั้นคงจะไม่มาก่อนนะ แล้วเมื่อเห็นทางสะดวกคุณก็เดินไปหยิบและเปิดมันขึ้นมาที่โต๊ะของคุณ
ตัวอักษรแรกที่ปรากฏอยู่ในสายตาคุณมันทำให้คุณแทบช็อก!
พระเจ้าช่วย นี่มันคือไดอารี่ของเพื่อนในห้องนี่(หรือที่ทำงาน) และคนที่เขียนเขาก็เขียนถึงคุณด้วย! และแล้วต่อมความเห็นของคุณก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ อยากรู้นักว่าข้างในนั้นจะเขียนว่าอย่างไร...
คุณคิดว่าในนั้นจะเขียนว่าอะไรหืม...
1. ยัยนี่ต้องเขียนด่าเราแน่ๆ =_=^
2. ไม่รู้สิ อ่านไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละแต่ถ้าด่าเรามีเฮแน่ๆ!
ซึ่งอันนี้คนส่วนใหญ่มักจะคิดไปในทางที่ไม่ดีนัก มีบางอย่างที่ทำให้คนเหล่านั้นคิด อาจจะคือ...ความหวาดระแวง...และ...อคติ...เพราะส่วนที่อยู่ลึกๆในจิตใจของคนก็คือสิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครหรอกที่ไม่มีความรู้สึกแบบนี้ เพราะคนเราไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ เป็นนางเอกหรือพระเอกในหนังน้ำเน่า แต่ที่คนเราเกิดมาไม่สมบูรณ์แบบนั้นเพราะ จะได้สร้างสีสันให้กับโลก โลกของเราต้องมีคนดี คนเลว ปะปนกันไปบ้าง ไม่มีประเทศไหนหรอกที่จะมีแต่คนดี อย่างน้อยล่ะในคน100คน ต้องมีสักสิบคนที่เป็นคนไม่ดี และคนหนึ่งแสนคนในสังคมต้องมีบ้างละที่เป็นคนไม่มีเงิน และคนตกงานปะปนไปในนั้นด้วย ไม่มีใครเป็มหาเศรษฐีหมดหรอก!
หนึ่งในสิบอาจเป็นเด็กกำพร้า ห้าในสิบอาจจะเป็นคนที่สูญเสียคนที่รักไป แต่อีกเก้าในสิบอาจจะเป็นคนที่ครอบครัวพร้อม หรือไม่บางทีสิบสองในยี่สิบอาจเป็นครอบครัวที่แตกแยกก็ได้ จงจำไว้ว่าไม่มีอะไรที่เพอร์เฟคร์ไปเสียทุกอย่างหรอกนะในโลกนี้น่ะ ถึงแม้คนเราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นได้ เราสามารถเลือกที่จะเป็นคนดีได้ เราสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้
เอาละเรามาวกเข้าเรื่องไดอารี่สีฟ้าแสนน่ารักที่คุณกำลังจะได้อ่านกันดีกว่า บังเอิญจริงๆว่าสิ่งที่คุณคิดมันผิดถนัด คนๆนั้นเขาไม่ได้เขียนด่าหรือว่าคุณเลย เขามีแต่ชื่นชมคุณในไดอารี่นั้น คำพูดที่คนๆนั้นเขียนทำให้คุณยิ้มแป้นอารมณ์ดี แล้วในที่สุดคุณก็ปิดไดอารี่ลงด้วยหัวใจที่เบิกบานสุดๆ เมื่อคุณวางไดอารี่แล้วคุณก็หันไปยิบสมุดใส่รูปสีชมพูหวานแหว คุณค่อยๆเปิดมันออก รอยยิ้มของคุณเปลี่ยนไปจากที่ยิ้มด้วยความปลื้มปิติที่มีคนมายกยอเชิดชูคุณ เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนลง
เพราะภาพที่คุณเห็นคือภาพของความทรงจำ ระหว่างคุณกับคนที่จากคุณไปแล้วคุณค่อยๆพลิกมันดูทีละหน้าอย่างเบามือ มีบางอย่างที่กาลเวลาลบมันออกไปแล้วในใจของคุณนั่นคือความเจ็บปวด คุณกำลังยิ้มหัวเราะกับภาพความทรงจำเก่าๆของคุณ ภาพเหตุการที่คุณคิดว่าคุณลืมมันไปแล้ว ภาพของความเจ็บปวดที่ดูแล้วมันไม่ได้สร้างความปวดร้าวให้คุณแม้แต่น้อย....
ถ้าเปรียบกาลเวลาเหมือนสมุดใส่รูป ความทรงจำก็เหมือนรูปที่ใส่อยู่ในสมุดบันทึกเล่มนั่นแหละ ลองหยิบมันขึ้นมาเปิดพลิกดูนะเพื่อคุณจะได้ยิ้มและมีความสุขกับมัน แม้บางรูปจะสีซีดไปหน่อยก็เถอะ
เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร และ...เราเกิดมาเพื่อใคร
P.S ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันเวลาที่ผ่านมา และกำลังจะมาถึงนะคะ