25 มีนาคม 2545 19:40 น.
สายรุ้ง
ลูกของข้าแต่หน้ากลับไปเหมือน
คนข้างเรือนนั้นหนาน่าหมั่นไส้
ลูกของข้าแต่หน้าไปเหมือนใคร
รู้ถึงไหนอับอายทั้งธานี
นี่แหละหนาที่เขาว่าคนหลายรัก
ไม่รู้จักห้ามใจตนบ้างนี่
เลยต้องทนชีช้ำกะหล่ำปลี
กับเจ้าลูกแสนดีตลอดไป
ไม่เป็นไรแม่ต้องใช้เวรกรรมเก่า
ที่ตัวเราทำไว้แต่หนหลัง
ถึงจะทุกข์ปานใดถ้ากายยัง
ไม่ผุพังถูกฝังสู่ภูมิน
21 มีนาคม 2545 17:45 น.
สายรุ้ง
โลกมายาพาไปใช่มั้ยนี่
ใครช่วยบอกรุ้งทีจะได้มั้ย
ไม่ทำตัวทำตนให้พ้นไป
จากอบายภูมิที่ทุกข์ทน
15 มีนาคม 2545 22:04 น.
สายรุ้ง
หากโลกนี้มีเพียงเธอและฉัน
วันทั้งวันพี่คงไม่สงสัย
ว่าเธอนั้นเที่ยวปันใจให้ใคร
ไปหรือไม่เพราะใจมันรักเธอ
แต่โลกนี้มิมีแค่เราสอง
พี่จึงต้องทุกข์ทนอยู่นี่หนา
เพราใจเธอมิได้มีเพียงข้า
ทำชีวาของข้าร้าวระบม
สักวันหนึ่งเจ้าคงซึ้งใจพี่
ที่คงที่เพียงเธอไม่แปรผัน
ขอเพียงเธอรับรู้ยอดชีวัน
เท่านี้นั้นใจฉันมันก็พอ
12 มีนาคม 2545 11:02 น.
สายรุ้ง
อย่ายิ้มมากนะแม่แลไม่สวย
แลบลิ้นด้วยไม่งามตามวิสัย
เดี๋ยวฝรั่งเขามาเห็นจะแปลกใจ
ที่เขาว่าเมืองไทยยิ้มสวยงาม
ยิ้มสยามลือนามไปทั่วโลก
มรดกที่ปู่ย่าสร้างมานั่น
เราจะต้องรักษาเท่าชีวัน
ให้ยิ้มอยู่คู่ฟันตลอดไป
ยิ้มสยามยิ้มอย่างไรใครช่วยบอก
ยิ้มแบบแลบลิ้นออกใช่หรือไม่
ถ้าอย่างนั้นตัวฉันต้องเสียใจ
เพราะลูกทำไม่ได้เสียใจจริง
11 มีนาคม 2545 12:43 น.
สายรุ้ง
แก้มใสใสทรามวัยลูกใครหนา
ดูหน้าตาไฉไลคล้ายเอ๋นี่
ถ้าเป็นจริงอย่างนั้นนะณธีร์
สายรุ้งนี้เห็นทีต้องขอบาย
เพราะชีวิตคิดคิดแล้วเป็นทุกข์
ที่เป็นสุขเพราะทุกข์ลดลงหนา
ไม่มีสุขมีแต่ทุกข์ในอุรา
รองหันมาพิจารณากายาตน
สาวแก้มใสวัยหวานสำราญสุข
อยู่กับลูกฟองน้ำชุ่มฉ่ำหนา
แต่ตังเธอไม่รู้ว่ากายา
ของตัวข้าเกิดมาก็ดับไป
เปรียบกายนี้เหมือนฟองน้ำที่เธอเล่น
ชีวิตเรานี้เป็นแล้วสลาย
เหมือนฟองน้ำที่เธอเป่าแล้วกระจาย
ผลสุดท้ายก็สลายในพริบตา
นี่แหละหนาชีวาของข้านี้
คงเหลือเพียงความดีนี้แหละหนา
ที่ดำรงค์คงอยู่คู่โลกา
ผมหวังว่าเพื่อนข้าคงเข้าใจ