9 พฤศจิกายน 2546 21:49 น.
สายรุ้ง
จะรอคอยจนกว่าปรียากลับ
จะรอคอยต้อนรับปรียานั่น
จะรอคอยจนกว่าชีวาฉัน
จะรอคอยจนฝันฉันเป็นจริง
จงรีบกลับมานะปรียาเอ๋ย
จงรีบมาเร็วเลยมีของขวัญ
จงรีบมาเพื่อเรียนในวันจันทร์
จงรีบมพบกันจันทร์นะเออ
จึงได้จับปากกามาแต่งกลอน
จึงได้แต่อ้อนวอนเทวานั่น
จึงได้ขอให้ปรียาสุขทุกคืนวัน
จึงได้ขอให้พบกันฉันและเธอ
จริงนะเจ้าคอยเฝ้าแต่การกลับ
จริงนะเจ้าคอยรอรับแต่จอมขวัญ
จริงนะเจ้ามีเพียงสองเรานั้น
จริงนะเจ้าในวันจันทร์คงได้เจอ
9 พฤศจิกายน 2546 15:38 น.
สายรุ้ง
หนาวจริงนะสาวเจ้า........พี่ทนหนาวมาหลายปี
เมื่อไหร่นะคนดี...................เห็นใจพี่ที่ทุกข์ทน
ตัวสาวหนาวหรือไม่..........แล้วทำไมไม่เคยบ่น
หรือว่าก็ทุกข์ทน....................บอกให้ยนบ้างเป็นไร
หนาวลมต้องห่มผ้า............ที่หนาหนานะแก้มใส
หนาวฟ้าต้องผิงไฟ................นะทรามวัยช่วยบรรเทา
หนาวรักปักที่อก...............เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
ทำไงดีสาวเจ้า.......................ช่วยบอกเราให้เบาใจ
โลกเรานี้มันแปลก...........เดี๋ยวมีแยกเดี๋ยวมีย้าย
รักกันแทบจะตาย.................ผลสุดท้ายแยกย้ายกัน
มีรักแล้วมีโกรธ................อย่าไปโทษใครทั้งนั้น
เป็นเพราะความยึดมั่น..........ในตัวกันมากเกินไป
หนาวแล้วน้องแก้วเอ๋ย......แม่ทรามเชยอย่างอนกัน
หนาวลมยามเหมัน................จนกายสั่นไปทั้งตัว
หนาวไรไม่ทุกข์หนัก.........เท่าหนาวรักนะทูลหัว
หนาวนี้มันน่ากลัว.................ขอทูลหัวจงเห็นใจ
8 พฤศจิกายน 2546 11:00 น.
สายรุ้ง
เป็นแค่เพื่อนแค่เพื่อนแค่เพื่อนนะ
เปลี่ยนฐานะเสียทีจะได้ไหม
เป็นแค่เพื่อนฟังแล้วยังห่างไกล
เลื่อนขึ้นไปได้ไหมจ๊ะคนดี
เป็นคนใช้ผู้ยิ่งใหญ่ได้ไหมจ๊ะ
เป็นฐานะที่ทุกคนยอมรับได้
จริงไหมหนอเพื่อนเพื่อนลูกผู้ชาย
ขอให้น้องทรามวัยรองคิดดู
นั่นก็คือเจ้าบ่าวผู้อาสา
ให้กานดาใช้ได้ทุกถิ่นที่
จะเป็นบ่าวที่จงรักและภักดี
ขอเพียงน้องคนดีมีบัญชา
ว่าอย่างไรทรามวัยคำว่าเพื่อน
พอจะเลื่อนได้หรือยังรุ้งใจร้อน
หรือต้องรอไปจนกว่าขั้นอุทร
ถึงวันนั้นแล้วงามงอนจะช้าไป
7 พฤศจิกายน 2546 20:48 น.
สายรุ้ง
อนิจจาเกิดมาอย่างโดดเดี่ยว
อยู่คนเดียวมานานมันหนาวหนา
ช่างโหดร้ายจริงหนอโชคชะตา
ยังหวังว่าปีหน้าจะโชคดี
ลอยกระทงปีนี้พอมีหวัง
คงหลงทางมาบ้างนะปีนี้
อธิษฐานบนบานสิ่งที่ดี
ขอให้มีเสียทีคนเห็นใจ
ขอแต่เพียงสมหวังในชีวิต
ทำให้จิตสดใสขึ้นบ้างหนา
จะจงรักภักดีทั้งกายา
ไปจนกว่าดินฟ้าจะมะลาย
นี่เป็นเพียงอารมณ์ที่ขมขื่น
ทุกวันคืนต้องทนเธอรู้ไหม
ต้องอาศัยปากกาช่วยระบาย
มาเป็นกลอนฝากไว้ในไทยเมล์
จะ
6 พฤศจิกายน 2546 21:02 น.
สายรุ้ง
วันที่เจ็ดพฤศจิกามาบรรจบ
เป็นวันครบรอบปีพอดีหนา
ที่หน้าฉันนั้นต้องนองน้ำตา
เพราะมารดาของข้าลาจากไป
ทั้งชีวิตท่านอุทิศทำเพื่อลูก
แต่กลับทุกข์เพราะลูกบางครั้งร้าย
ลูกเจ็ดคนแม่เลี้ยงได้สบาย
แต่สุดท้ายความตายมาพากเรา
แม่ทนทุกข์เลี้ยงลูกมาหกสิบ
ปีที่สิบแปดนั้นฉันฝันร้าย
เพราะสูญเสียพระในดวงใจ
เป็นปีที่โหดร้ายในชีวี
มัจจุราชโหดร้ายทำลายหวัง
ที่ฉันนั้นเคยตั้งใจเอาไว้
อยากเห็นท่านหลั่งน้ำตาเพราะดีใจ
ในวันที่ลูกชายได้ปริญญา
ลูกจะขอจดจำคำสั่งสอน
อันเป็นพรให้ไว้กับลูกหนา
จะขอทำตามคำที่แม่ว่า
ขอวิญญาณ์มารดาอย่าหว่งใย
ขอกุศลผลบุญที่ลูกนี้
ได้กระทำความดีอุทิศให้
ขอวิญญาณแม่นั้นจงสุขใจ
ในวิมานอันสดตลอดกาล