19 ธันวาคม 2550 23:38 น.
สายน้ำสีเงิน
แม้ฟากฟ้า ฝนทะเล คอยคั่นขวาง
ภูผาวาง กางกั้น อยู่ตรงหน้า
แม้ปีศาส ยักษา อสุรา
ก็ไม่อาจ ขวางข้า ให้รักเธอ
9 ธันวาคม 2550 12:51 น.
สายน้ำสีเงิน
ดินแดนที่โดดเดี่ยว
ท่ามกลางผู้คนที่พลุกพล่าน
ขวักไขว่บนถนนยามราตรีที่เศร้าหมอง
ไร้ซึ่งความห่วงใยใดใด
เพียงมองเห็นแสงสีแดงท่ามกลางความมืด
ที่คอยโอกาสที่จะกลับสู่ดวงดาว
ดินแดนนี้ไม่มีดาวดวงใด
จะกลับได้
มีเพียงผืนดินที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
และภูเขาสูงเด่นเป็นกำแพงกั้น
ไม่มีทางผ่านพ้นไปได้
ไม่มีทาง
ไม่มีทางใดเลยที่จะปูอย่างเรียบร้อย
มีเพียงป่าหญ้าที่เงียบงัน
และก้อนหินใหญ่น้อยราวกับหนามดง
ไม่มีใครจักพ้นผ่าน
นานแสนนานเพียงใด
ก็คงจะรออยู่เบื้องหน้า
เวลาที่ดาวดับลง
จะเหลือเพียงแสงสีแดงที่ร้อนรุ่ม
หรือแสงสีเงินที่เย็นตา
สุดท้ายก็คืนสู่ดินแดนที่กำเนิด
ดินแดนที่จากมาและเดินไป
จนกว่าจะหลุดจากวังวนแห่งห้วงเหว
วงกตที่ไร้ทางออก
ใครหนอจะเปิดทางให้
9 ธันวาคม 2550 12:07 น.
สายน้ำสีเงิน
แสงแดด
ละลายความหนาวเย็นจากสายหมอก
แต่ไม่อาจละลายความเหงาจากหัวใจไปได้
ดวงตะวันที่เดียวดาย
ความเหงามิกลับกลายเป็นอื่น
ไม่ไช่อยู่คนเดียว
แต่ขาดคนรัก คนรู้ใจอยู่ข้างกาย
ยามค่ำ
มองดวงดาวเต็มฟากฟ้าสวยงาม
แต่ไม่มีดาวดวงใดเป็นเพื่อนแก้เหงาได้
ไม่มีดาวดวงใดเป็นเพื่อนฉัน
ดาวเป็นเพื่อนฉันอยู่ไกลแสนไกล
หลับตาลงนอน
เพื่อฝันถึงดาวที่แสนไกล
และตื่นมาเหงา อีกครั้งหนึ่ง
9 ธันวาคม 2550 12:03 น.
สายน้ำสีเงิน
เฝ้าเหม่อมอง ดวงดาว เต็มฟากฟ้า
ระยิบระยับ จับตา จะหาได้
เฝ้ามองหา ดาวดวงเดียว ดาวดวงใจ
ที่จะมา คลายเหงาให้ ตัวของเรา
ดาวเต็มฟ้า หาได้ มีความหมาย
แต่กลับกลาย คล้ายเพิ่ม เติมความเหงา
เมื่อไม่มี ดาวดวงใด เข้าใจเรา
ได้เพียงเท่า ดาวดวงเดียว ข้างในใจ