21 มกราคม 2547 16:39 น.
สายน้ำสีเงิน
ปากกาด้ามน้อย ค่อยค่อยคอยเขียน
ค่อยค่อยพากเพียร ค่อยค่อยเรียนไป
ปากกาด้ามนี้ ยังมีหัวใจ
มีความสดใส มีอะไรอีกมาก
ปากกาเรียงร้อย จารึกรอยให้ฝาก
จารึกไม่ยาก จารึกจากหัวใจ
ปากกาหนึ่งเล่ม ยังเปรมหัวใจ
คอยสิ่งสวยใส คอยไปคอยมา
ปากกาความคิด ยึดตืดสรรหา
ยึดความศรัทธา ยึดเวลาดำเนิน
ปากกาเปิดเผย ไม่ละเลยเก้อเขิน
ไม่ยอมให้หมางเมิน สรรเสริญสิ่งดี
ปากกาของเรา คอยเฝ้าศักดิ์ศรี
คอยทุกนาที ทุกที่ทุกยาม
ปากกาบทกลอน ทุกตอนติดตาม
ทุกอย่างไถ่ถาม เรียงร้อยตามหัวใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
18 มกราคม 2547 16:55 น.
สายน้ำสีเงิน
คราวตะวันลับฟ้า คือเวลาที่มืดมิด
คราวปลดปล่อยดวงจิต ตามลิขิตชีวิตใคร
ท้องฟ้าที่อับแสง หวาดระแวงทุกเภทภัย
ดวงดาราที่อาศัย ยังคงไร้ซึ่งดวงดาว
มืดฟ้านภาดับ มิอาจลับใจว่างปล่าว
ถึงเวลาถึงคราว ความมัวเมาเข้าถึงตัว
แฝงความอันตราย ที่จะหมายเข้ายวนยั่ว
ให้เกิดความมืดมัว ระเริงตัวกับสิ่งเลว
ความมืดกลายเป็นทุกข์ ที่คอยปลุกสู่หุบเหว
ดำเนินทางคนเลว คอยฉุดรั้งให้อับจน
ความมืดมิมองเห็น หนทางเป็นสิ่งมืดมน
หมอกมัวเข้าปะปน ให้ทุกข์ทนนิรันดร์กาล
ดาราค่อยทอแสง สว่างแจ้งแสงงามปาน
ปานดั่งทิพย์วิมาน พระจันทร์บานสว่างทั่ว
หนทางที่มืดมิด มิอาจปิดแสงสลัว
สว่างมิอาจกลัว ความมืดมัวมิทนทาน
ฉุดรั้งกระชากขึ้น จากหุบชื้นที่กล่าวขาน
ดึงจากเหววิมาน สู่แสงแห่งคุณธรรม
คอยเปิดอู่ความคิด มืวิปริตลึกถลำ
เปิดสู่การกระทำ ที่สุดของคุณความดี
สู่ฟ้าของวันใหม่ ที่สดใสไร้หมองศรี
ตะวันขึ้นทันที สาดส่องมาจากแดนไกล
เปรียบดั่งชีวิตคน มีปะปนระคนไป
ดีชั่วมั่วกันไกล ปิดกั้นไว้เปิดออกมา
18 มกราคม 2547 12:18 น.
สายน้ำสีเงิน
มิตรภาพไม่เคยจางหาย
ความรักเราไม่มีวันมลาย
ความรู้สึกไม่มีวันกลับกลาย
ยังไม่สายถ้าเรายังคิดถึงกัน