17 ตุลาคม 2549 22:14 น.
สาบนรสิงห์
..ฟ้าเจ้าเอย ทำไม ใจร้ายนัก
ฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ใจปี้ป่น
คร่าทรัพย์สิน ไร่นา แลผู้คน
น้ำตานอง กว่าสายชล ในนที
น้ำเชี่ยวกราก ถาโถม ลงพื้นล่าง
ผู้คนต่าง สับสน บ้างหลบหนี
ชั่วพริบตา เจิ่งนอง ปฐพี
เหมือนชีวี อับจน สิ้นหนทาง
ไหนจะทรัพย์ ไหนจะญาติ ไหนจะไร่
ต้องเสียหาย สูญสิ้น ใจหม่นหมาง
เหมือนชีวิต เรือล่อง ต้องอับปาง
ต้องอ้างว้าง ท่ามกลาง สายธารา
..เจ้ามนุษย์เอ๋ย
ที่ฝนฟ้า กระหน่ำ ซ้ำผืนโลก
ให้ต้องโศก โศกา กว่าแต่ก่อน
สายเสียแล้ว ที่มา เฝ้าเว้าวอน
แต่ปางก่อน ทำอะไร ไม่เคยจำ
ข้ามีผืน ป่าคลุม ให้อุ้มน้ำ
ให้ชุ่มฉ่ำ ให้อาหาร ได้อิ่มหนำ
แต่ดูซิ ดูสิ่ง ที่เจ้าทำ
ตัดป่าไม้ ให้ข้าช้ำ ระกำใจ
ขาดผืนป่า ฝนฟ้า หนักคราวนี้
หลายชีวี สิ้นตาม สายน้ำไหล
ก็เพราะกรรม ของเจ้า นั่นอย่างไร
ก็เป็นไป ตามกรรม เจ้าทำมา
..แต่โธ่เอ๋ย
ข้าไม่เคย ตัดไม้ ทลายป่า
แต่ทำไม ข้าต้องพลอย เศร้าโศกา
เสียไร่นา บ้านเรือน ทั้งวัวควาย
..ทำไมเล่า พวกเจ้า จะไม่ผิด
เจ้าไม่คิด ใส่ใจ หรือขัดขวาง
ก็ต้องพลอย เดือดร้อน กันทั้งบาง
เพราะประโยชน์ บางอย่าง คนกลุ่มเดียว
ทีนี้เห็น หรือยัง ล่ะพวกเจ้า
ที่ต้องเศร้า เพราะเจ้า ไม่แลเหลียว
จงตระหนัก สอนลูกหลาน ให้หนักเชียว
ว่าอย่าเที่ยว ทำลาย ทรัพยากร
เป็นกำลังให้พี่น้อง ผู้ประสบภัยครับ สู้กันต่อไปครับ
( ถ้าบทกลอนไม่ถูกใจใคร ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ นะครับ )