28 เมษายน 2547 10:33 น.

สายเลือดของคนลุ่มน้ำ กับความเชื่อเรื่องต้นไทร

สานฝันตะวันเย็น

 
                        สายเลือดของคนลุ่มน้ำ กับความเชื่อเรื่องต้นไทร
							 เรื่องโดย พันธุ์ทิพย์ ทิพย์กองลาศ
	
	แปลก! หรืออัศจรรย์ ตามที่ใครๆเขาโจทก์จันกันหนาหู ทำให้อดสงสัยไม่ได้ ว่าเพราะอะไร จึงมีคนไปขูดขีดต้นไทร เพื่อให้ปรากฏเลขขึ้นมา  มีบางคนหาหมอไปทรงและแห่กันไปเพื่อขอลาภมากมาย ความเชื่อ ! เรื่องพ่อปูเทพพรหมสุข และแม่ย่าไทรทอง  สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางกระแสความศรัทธารักษาน้ำ และป่าให้คงอยู่  เป็นสายเลือดของคนลุ่มน้ำ
	ครั้นเมื่อมีโอกาสเดินทางไปที่ต้นไทร ซึ่งอยู่ในบริเวณการทำโครงการพระราชดำริลุ่มน้ำปากพนังอยู่ติดเขตอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช บนทางถนนดินแดง สลับกับถนนลาดยาง พื้นที่ป่าบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าเสม็ด และป่าพรุ  ถนนสายนี้แทบจะไม่มีรถยนต์ผ่านเลย สังเกตเห็นได้ว่าบ้านคนอยู่ห่างกัน จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าแถวนี้จะเป็นที่กบดานของพวกผู้ร้าย ก่อนไปถึงต้นไทรที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้น ฉันก็แวะเข้าไปบ้านผู้เฒ่าคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้าน เพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆรวมถึงประวัติความเป็นมาและความเชื่อที่ชาวบ้านมีต่อต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ 
ผู้เฒ่าเล่าว่า ก่อนนั้นเมื่อ 50ปีที่แล้วพื้นที่นี้ เป็นป่าพรุ ป่าเสม็ด มีต้นไม้ขึ้นปกหนาพื้นที่ มีทั้งสัตว์ป่า หมูป่า กวาง มากมาย ชาวบ้านบางคนเข้าไปหาของป่า รวมทั้งยาสมุนไพรมากมาย บริเวณที่ต้นไทรขึ้นเมื่อก่อนนั้นยังไม่มีต้นไทรแต่มีต้นข่อย ต้นนมหว้า ขึ้นเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อปี 2538 ทางการเข้ามาสำรวจพื้นที่ เพื่อขุดคลองส่งน้ำตามโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้น 1 ปี โครงการตามพระราชดำริก็ถูกดำเนินการขุดโดยกรมชลประทาน ซึ่งต้องขุดตามแนวยาวตลอด มีการเวนคืนที่ดินซึ่งเป็นป่าสงวน บริเวณดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่ราบลุ่มซึ่งมีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน สาเหตุที่ต้องมีการขุดคลองลุ่มน้ำแห่งนี้ก็เพื่อใช้ระบายน้ำในช่วงที่น้ำท่วม และในช่วงปกติก็ให้ประชาชนได้ใช้น้ำเพื่อทำการเกษตร ซึ่งพื้นที่ขุดกว้าง180 เมตร ยาว 27 กิโลเมตร ตลอดสาย จุดเริ่มอยู่ที่บ้านท้ายเล อำเภอเชียรใหญ่ ไปสุดที่บ้านแพรกเมือง อำเภอหัวไทร แต่กระนั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณ ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ ที่มีต้นไทรขึ้นอยู่นั้นไม่สามารถเอารถหรือเรือขุดลงไปได้ คนงานที่ทำงานที่นั่น เล่าว่าเมื่อจะขุดเครื่องยนต์ที่ใช้ขุดนั้นก็ดับ หรือไม่ก็เสีย ทดลองอยู่หลายครั้งโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อเอาเรือขุดออกจากบริเวณนั้น หรือขุดบริเวณอื่นก็สามารถขุดได้เป็นปกติ บ้างก็เจอภาพหลอน บริเวณพังกานผุด(ที่เนินสูง)บริเวณต้นไทร มีคนงานคนหนึ่งเขาอธิฐานกับต้นไทรศักดิ์สิทธิ์ ให้เขาถูกหวย แล้วเขาจะลาออกและจะไม่ขุดคลองที่นี่อีกต่อไป ... ด้วยความบังเอิญที่เขาถูกหวย จากนั้นมาก็มีคนเข้ามาถูต้นไทร ขอหวย เข้าทรง ไม่ว่าจะกลางวัน-กลางคืน จนเป็นข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้คนใกล้ไกลหลั่งไหลกันมาดู เป็นจำนวนมาก ข่าวทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถทำการขุดได้ จึงส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจดู อีกทั้งมีพระราชดำรัสให้ตั้งศาลหลวง ในบริเวณพื้นที่เนินที่ต้นไทรขึ้น และเมื่อวันที่ 19 มีนาคม2547 ที่ผ่านมา พระเทพฯเสด็จมาดูพื้นที่ขุดโครงการเพื่อดูความคืบหน้า พังกานผุดที่ชาวบ้านเรียกกันนี้ มีการขุดพบโครงกระดูกคน อยู่ในสภาพดี และกระดูกสัตว์มากมาย รวมทั้งเปลือกหอยมุก หอยกาบ หินปะการัง หิน มากมาย และชั้นดินที่ขุดพบระยะลึก 5เมตรจะเป็นดินทราย สันนิษฐานกันว่าบริเวณนี้อาจจะเคยเป็นทะเลมาก่อน  ผู้เฒ่าเล่าว่ามีคนมาทรงเพื่อถามความเป็นมาของที่นี่ ว่าบริเวณนี้เมื่อก่อนเป็นทะเล และมีคนนำทรัพย์สิน ล่องมากับเรือสำเภา เพื่อเอาผ้ามาขึ้นธาตุ ที่วัดพระธาตุ แต่เรือเกิดล่มกลางทาง สมัยเดียวกับที่มีประวัติหาดทรายแก้ว และเขียนเป็นตำนานไว้ที่วัดพระมหาธาตุในปัจจุบัน 
	ในบริเวณต้นไทร มีคนมากราบไว้บูชาอยู่เป็นระยะ อีกทั้งมีคนงานคอยดูแลและจัดสถานที่บริเวณนี้ เพื่อเตรียมวางศิลาฤกษ์ และตั้งศาลหลวงในอนาคต ฉันเหลือบหันไปเห็นข้อความหนึ่งที่เขียนบนป้ายไม้ติดอยู่ที่ต้นไทร ว่าเรารักในหลวง เราห่วงต้นไทร และห้ามขูดขีดต้นไทรเหมือนดั่งก่อน เพราะว่าจะทำให้ต้นไม้ตาย อีกทั้งยังมีผ้าหลากสีมาผูกรอบต้นไทร รวมทั้งชุดไทย ที่คนนำมาไว้ สอบถาม ทราบว่ามีคนนำมาบูชาเนื่องจากไปให้ลาภเขา บริเวณนั้นมีทั้งต้นยอ ต้นหมัน ต้นข่อยแดง ต้นน็อล ต้นหอแห้ง จันทร์ขาว-จันทร์แดง ต้นเขียด ต้นหว้า เดินรอบดูต้นไม้อยู่เพลิน ต้นไม้ที่ร่มเงาใหญ่ที่ขึ้นริมน้ำ ทำให้อากาศบริเวณนั้นน่านั่ง น่านอนเล่นจนไม่อยากลุกไปไหน ... พ่อพูดให้ฉันฟังว่า ที่นี่เป็นสายเลือดของคนลุ่มน้ำ เป็นสายน้ำที่จะนำพาความอุดมสมบูรณ์มาให้เกษตรกร ได้มีน้ำใช้ตลอดปี ทำการเกษตร ไร่นาสวนผสม ซึ่งแม่น้ำสายนี้ จะไหลผ่าน อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร จะสร้างเขื่อนกั้นน้ำเพื่อระบายน้ำไปยังลำคลองเล็กๆ และให้ประชาชนสามารถดูดน้ำมาใช้ในไร่นา และแปลงเกษตร 
	ความเชื่อของคนลุ่มน้ำ กับเรื่องราวของต้นไทรก็เป็นเรื่องเล่าต่อกัน แต่อย่างไรที่ตรงนี้ก็อยู่เป็นความสวยงามในใจฉัน เสียดายนะที่ไม่ได้เอากล้องไปด้วย จะได้บันทึกไว้เป็นที่ระลึก 
เรื่องของความเชื่อทำให้อดไม่ได้ที่จะนึกถึง คราวไปทำโครงการเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้างชุมชน ของรัฐบาลในช่วงเดือนเมษายน ของปีที่แล้ว ฉันอยู่กลุ่มศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้องออกเดินสำรวจ สอบถามชาวบ้าน ไม่ว่าประวัติความเป็นมา ประเพณี ความเชื่อต่างๆที่สำคัญๆทำรายงานส่งให้กับรัฐบาลท่านนายกทักษิณ ชินวัตร และได้เงินตอบแทนแลกค่าเหนื่อยมา 1 หมื่นบาท ในช่วงเวลา 2 เดือน ฉันพึงเรียนรู้ว่า ความเชื่อเป็นสิ่งที่ทำให้คนในชุมชนมีที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ความเชื่อทำให้คนรักธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ ไม่ทำลายธรรมชาติ รู้สึกหวงแหน คงไว้ซึ่งความเป็นชุมชนที่อบอุ่น บนความแตกต่างของวัฒนธรรม ประเพณี เป็นความสวยงามที่ดึงดูดใจให้ใครๆเข้ามาสัมผัสความเป็นชุมชนอย่างแท้จริง อย่างที่ชุมชนเมืองไม่มี แสงไฟที่ระย้าเสาไฟฟ้า คงไม่งดงามเท่าแสงจันทร์ แสงหิ่งห้อย ในทุ่งหญ้าและภูสูง เย็นลมธรรมชาติ กลิ่นดอกไม้ป่า คงบริสุทธิ์กว่าแอร์ในห้องแคบ ที่ต้องแย่งกันหายใจ
ปลาสวยในสายน้ำใส แหวกว่ายเพื่อจับเหยื่อ คงน่าดูกว่าปลาทองในตู้ ที่ว่ายชนกระจกแล้วกินอาหารเม็ดซากูระ เราเติมชีวิตที่เป็นธรรมชาติ ให้กับชีวิตที่ขาดธรรมชาติ เพื่อให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ชีวิตค้นหา 
	สายเลือดของคนลุ่มน้ำ กับความเชื่อเรื่องต้นไทรศักดิ์สิทธิ์ ก็แสดงถึงวิถีชีวิตอีกแบบหนึ่งของคนลุ่มน้ำ ที่อยู่กับความเชื่อ อยู่กับธรรมชาติ อยู่อย่างเรียบง่าย ทำไร่ ทำสวน หาปลา ไม่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนไปทำงานในเมือง ไม่ต้องใช้จ่ายเปลือง ไม่ต้องตามค่านิยมและวัฒนธรรมต่างชาติ บนความเรียบง่าย จึงเกิดเป็นเรื่องราว ต่างๆมากมายเกิดขึ้น ริมแม่น้ำที่เรียกกันว่าเป็น สายเลือดของคนลุ่มน้ำ 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสานฝันตะวันเย็น
Lovings  สานฝันตะวันเย็น เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสานฝันตะวันเย็น
Lovings  สานฝันตะวันเย็น เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสานฝันตะวันเย็น
Lovings  สานฝันตะวันเย็น เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสานฝันตะวันเย็น