31 พฤษภาคม 2553 10:59 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
25-1 PHP infoBoard V.7 Plus
ในความคิดของเธอ
ฉันได้ยกแว่นตาขึ้นแขวนไว้บนหน้าผากและมองดูสะพั่ง สะท้านไมภพ ชายที่อยู่ตรงข้างหน้า สะพั่ง มันหน้าตาบ้องแบ๋วดี ขาวอวบอ้วน เหมือนไก่ตอนหน้าตู้ขายข้าวมันไก่ นี่มันคงคิดไปว่า ฉัน หรือ เดี๊ยน หรือ อะไรก็แล้วแต่คงจ้องมองเขาในสาระ วิทยาการสมัยใหม่ แต่ คริ คริ แต่ตัวมันฉันรู้ว่ากำลังคิดมิดีมิร้ายลามกชั่วร้ายอยู่แน่ ว่าแล้วก็แอบปลดกระดุมออกหนึ่งเม็ด แล้วก้มหยิบข้าวของเล่น บางครั้งก็เปลี่ยนขาไขว้ไปมา ใช้มุกกระบวนท่าหนึ่ง จากการสังเกตท่าทางของสะพั่ง เริ่มมีอาการเล็กๆออกมาเกือบจับสังเกตหรือพิรุธเล็กๆไม่ได้
ในความคิดของเธอ
มองเห็นเจ้าไก่ตอนขาวอวบตัวนี้ มันมีหน้าตาทะลึ่ง สายตาแวว ลักยิ้ม และฟันขาวสามสิบสองซี่ที่มันยิ้มอย่างเปิดเผยแสดงออก มันก็ทำให้นึกถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ของตัวมันว่าจะระดับขีปนาวุธข้ามทว่ป หรือเพียงแค่กระสุนปืนพก
ตามหลักการเปรียบเทียบขนาดในตำราร้อยแปดเล่มเกวียนของหญิงได้กล่าวว่า จมูกบ้าง นิ้วบ้าง แต่ทว่าจากประสบกามพอจะคาดเดาได้
เธอยิ้มในดวงตาแล้วก็คาดเดาต่อถึงลีลาสวาทของสะพั่ง น่าจะเป็นฉันใด ว่าแล้วเธอก็ตกไปในความคิดคำนึง เห็นสะพั่งโทงโทง กระโดดเข้าใส่ ฟัดเหวี่ยงกอดรัดสอดแทรก และแลกธาตหยินหยาง
เธอกลับคิดถึงเรื่องเสียวที่เธอเปิดอ่าน หรือนึกถึงประดาคลิปที่ไม่เห็นหัวแต่มีตัวคล้ายสะพั่ง ว่าแล้วเธอก็เข้าขั้นเคลิบเคลิ้มไป
หัวเข่าของเธอเบียดชิดกันโดยไม่รู้ตัว เหงื่อหนึ่งหยดไหลค่อยๆออกมาจากไม่รู้ว่าส่วนใดของศรีษะของเธอเอง
บางครั้งการเพลิดเพลินจากความคิดก็เป็นบรมสุขอย่างหนึ่ง สักวันเถิดจะต้องรู้ให้ได้
ความตั้งใจของหญิงคนหนึ่งก็เหมือนกับหยดน้ำหนึ่งหยดที่ตกลงบนผิวน้ำและก็เกิดคลื่นกระจายออกไปตามมวลและความเร็ว
แต่เนื่องจากสถานการณ์ฝ่่ายตรงข้ามยังไม่แน่ชัด ดังนั้นจะต้องส่งมุกออกไปเรื่อยๆก่อน ไม่ใช่ส่งไปเรื่อยๆก่อน จนกระทั่งแน่ใจว่าชนะร้อยทั้งร้อยแน่ค่อยอ่อยเหยื่อ
หากแม้นทำให้มันตื่นก่อนแล้วไซร้ เดี๋ยวมันกลายกลายเป็นโลว์โปรฟายส์ซะก่อน
แผล่บๆๆๆ
สะพั่ง - colthikumporn at yahoo.com
31 พฤษภาคม 2553 10:35 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
PHP infoBoard V.7 Plus
ลมหายใจของกระผม
tows มาให้เห็นแบบงงๆแต่ทว่าในแบบที่เคยผ่านตาเรื่อง swot ก็ทำให้ยิ้มได้ แถมยังง่ายในการมองเห็น นอกจากนี้แล้วการวิเคราะห์ stageholder ยังทำให้เราเข้าใจตนเองก่อนก้าวต่อไป
นักวิเคราะห์สาวยกแว่นตาขึ้นไว้บนหน้าผาก แล้วจ้องตาเป๋งมายังสะพั่งสะท้านไมภพ แต่ทว่าในสมองของสะพั่งมิได้คิดเรื่องยุทธศาสตร์แต่อย่างได แต่คิดถึงโร๊ดแม๊พหุ่นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่มอง จนเห็นแบบ estimate เอา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่นักวิชาการแต่เรื่องอื๊บๆไม่อย่างเดียวก็เป็นส่วนมาก นอกจากนี้แล้วในแวดวงนักจิตวิทยาได้ชี้แนะเรื่องท่าทีเอาไว้หลายเรื่อง
สะพั่งยังคงเคลิบเคลิ้มไปในเรื่องกามสูตรเรื่องราวของลักษณะพิเศษต่างๆของเจ้าหน้าที่ข้างหน้า นอกจากนี้แล้วกระแสคลื่นสมองที่กระจายแบบแผ่รังสีออกมาและรับได้แบบแกนๆก็ทำใหสะพั่งเริ่มวาดจินตนาการเรื่องเสียวที่น่าจะเป็นขึ้่นมาทันที
มันคงเป็นเรื่องเสียวอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาบนโลกใบนี้อีกแล้ว ภาษาที่ใช้ยังคงเป็นภาษาปกขาวแบบไทยๆ พระเอกของเรื่องคงไม่ใช่สะพั่ง เพราะสะพั่งจะไม่ทำแบบนี้แน่ๆ แต่คงเป็น stageholder ของเธอเอง
เมื่อคาดเดาอย่างนี้ก็ออกแนวคาดเดาอย่างอื่นต่อไป โดยมีสมมุติฐานว่าถ้าถูกก็ถูก แต่ถ้าผิดก็ไม่เป็นอย่างใด ขนาดด๊อกเตอร์ยังกระโดดใส่ตำแหน่งเมียน้อยได้ อย่างไม่เคอะเขิน แล้วยืนอยู่ท่ามกลางเกียรติและความเคารพอย่างไม่เข้าใจอย่างอื่น
ในความเข้มของเธอ ลึกลงไปแล้วเธอคงจะเร่าร้อนในลีลาสวาทบนเตียงใหญ่ และเป็นพวกทรราชย์ที่จะบีบบังคับข่มเหงกระทำตามใจจนสนองตัณหาของตนเองได้อย่างสมใจ
สะพั่งเป็นคนที่ชอบท้าทาย แต่ทว่าเป็นเมื่อก่อน ปัจจุบัน ในการทดสอบ สะพั่งจะกระโดดเข้าไป และกำหนดกรอบไว้ไม่เลยซึ่งจะทำให้ไม่พลาดพลั้ง และการที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากการทดสอบแนวคิด ทุกประการล้วนรอดตลอด แต่ทว่าที่ผ่านมาอาจเป็นเพียงแต่จอมยุทธหญิงปลายแถวเท่านั้น หากไปเจอจอมยุทธหญิงอันดับหนึ่งเข้า หรือ จอมมารหญิงอันดับหนึ่งเข้าก็อาจจะพลาดพลั้งได้เหมือนกัน
สะพั่ง ยักไหล่ ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะคิดทำอะไร ส่วนมากแล้วสะพั่งยิ้มเยาะก่อนแล้ว รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง และเมื่อเจอความโหดร้ายก็จะต้องโหดร้ายให้ยิ่งกว่า มุกน้ำตาหรือมุกนิ่มเนียน ไม่สามารถจะทำอย่างไรกับสะพั่งได้
สะพั่ง จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและนั่งคิดไป ขอเพียงขอให้อยากร้เท่านั้นก็จะต้องรู้ให้ได้ แต่ทว่าหากบางเรื่องรู้มากเกินไปแล้วทนทานใจไม่ไหวก็ต้องบาดเจ็บแล้ว
ลีลาท่าทางที่ได้เรียนรู้เองที่ผ่านมามันเป็นเพียงกระบวนท่าที่ใช้จัดการกับฝ่ายตรงข้ามบางประเภทเท่านั้น มิได้คิดจะใช้ส่งเดช แต่ทว่าในยามหนึ่งมันจำเป็นต้องใช้เพื่อเอาตัวรอดตามสถานการณ์ และผ่อนปรนให้มันจบลงในทุกเรืองราวที่เกิดอย่างราบรื่นไม่สะดุดและเนียน
การนั่งคิดถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวตนและตัวคนมันทำให้เราจัดใด้ตามที่เพียงพอ เพราะว่าเรื่องนี้ เรื่องกามราคะมันมิเคยมีใครจะรอดไปได้ ไม่มีใครที่จะกดข่มอารมณ์เร่าร้อนในตัวตนได้
การรวบรวมเรื่องเสียวในเว็บบอร์ดต่างๆรวมทั้งรูปภาพนางแบบเปลือยปลิ้น มันก็เหมือนกันมีหนังสือปลุกใจเสือป่าไว้กับตัว แบบที่ต้องการ อ่านๆไปมันก็มัน สนุกดี แต่ก็เริ่มสังเกตถึงผลกระทบจากการกระทำแบบนี้ต่อๆไป และเมื่อมันตกผลึกทางความคิดกลับกลายเป็นองค์ความรู้แล้วคงจะได้กระจายให้ทราบกันต่อไป ในความหวังดีต่อเพื่อนร่วมโลก
21 พฤษภาคม 2553 20:07 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
วันนี้หลังจากที่ได้รับประทานไข่เข้าไปสามใบ ทุเรียนอีกสองแถว ชาเย็นหนึ่งกระติก หมูเสต็ก ขนมปังแปดแผ่น เนยห่อสีทอง ฯลฯ ผมมองดูที่พุงขาวของผมซึ่งตอนนี้มันปกปิดทุกอย่างที่ต่ำกว่าพุง ทำให้ไม่ให้เห็นอะไรเลย หลังจากที่สวาปามของดังกล่าวไปแล้วก็ขึ้นเต๊งมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำไป นึกอยากจะดูก็ดูไป พอเมื่อยๆไหล่ก็เดินออกจากบ้านไปยืนไกลผู้คนใต้ต้นไม้มีร่มเงา ควักบุหรี่ขึ้นมาสูบปื๊ดๆเล่นไปสองตัว เสร็จแล้วกลับมาล้างหน้าแปรงฟัน นัยว่าไม่ให้เหม็นกลิ่นบุหรี่ เมื่อเบื่อหน่ายคอมพิวเตอร์ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ก่อนจะเบื่อก็คิดได้ว่าหากไม่มีคอมพิวเตอร์และสามารถท่องเน็ตได้แล้วชีวิตนี้คงจะน่าบัดซบเป็นยิ่งนัก พอเบื่อแล้วจัดแจงปิดแล้วลงไปข้างล่างไปนอนกรนให้เมียฟังสักพัก เมื่อนอนจนไม่รู้จะนอนอย่างไรแล้วก็เข้าประจำหน้าจออีก
แต่ทว่าเมื่อเช้าตอนตื่นขึ้นมารู้สึกว่ามันเอียงๆแสดงว่าเริ่มจะเสียศูนย์ ก็นั่งนิ่งสักครู่ ทำสมาธิสักนิด แล้วก็ออกไปทำธุระประจำวัน
วันนี้ออกกำลังกาย ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินโกเซ็น เสื้อยืดแขนยาวสีขาว ถุงเท้า และรองเท้าเล่นกีฬา และออกไปวิ่งๆๆๆๆ ได้เหงื่อออกมาก็กลับมาทานน้ำ และทานข้าวปิดท้ายด้วยทุเรียนอีกหนึ่งแถว
ความจริงก็น่าจะเป็นห่วงชีวิตของตนเองเหมือนกันเหมือนกับทุกคน แต่ทว่าก็มาคิดอีกทีว่า เอาเท่าที่มีก็แล้วกัน เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน ได้เท่าไหนก็เท่านั้น และดันหวนระลึกถึงพี่จานทูนที่ได้กล่าวไว้ว่า หายใจไว้พั่ง ผมจึงเริ่มหายใจเข้าและออก และท่องว่าหายใจไว้
แม้ว่าในตอนนี้จะทำอะไรไม่ได้หวังอะไร ไม่ได้คิดกระทำเพื่อหวังอะไรก็ตาม มันก็ตลกดี และดูจะมีความสุข เพราะเมื่อมีเรื่องราวใดที่ต้องคิดต้องห่วง ก็จะกลับไปคิดว่า เมื่อเจริญก้าวหน้าก็ไม่หวัง อะไรก็ไม่หวัง แล้วจะไปทุกข์สุขทำไม ช่างหัวมันเถอะ
ในโลกใบนี้ การวิ่งตามหามันยิ่งกว่าวิ่งร้อยเมตร ผมก็เผลอวิ่งเหมือนกันเพราะว่าไม่ว่าใครก็ใครรับรองว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลีกพ้นการบีบบังคับจากธรรมชาติได้ แล้วจะต้องแหกด่านหรือแหกค่าย หรือแหกจารีตออกไป เพื่อความต้องการ
ในเรื่องนี้จิตใจของผมยอมรับแล้วว่าเป็นผู้เอาเปรียบร่างกายอยู่เสมอ จะทำอะไรจิตใจก็มีความสุข แต่กลับให้ร่างกายต้องแบกรับภาระความอ่อนเพลียเจ็บป่วยตลอดมา มาเดี๋ยวนี้จิตใจกับร่างกายของผมเริ่มจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว
ปัจจุบัน ผมสะพั่ง อยากอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง แต่ทว่ามันเลิกไปนานแล้ว ดังนั้น เมื่อเซริจเอ็นจิ้น ใช้คีย์เวิร์ดว่าเรื่องเสียวแล้ว มาบานเลย
ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ ก็กำลังรวบรวมเรื่องเสียวใส่เวิร์ดตอนนี้ได้ไปแล้วสี่ร้อยกว่าหน้าแล้ว คาดว่าจะประมาณถึงหมื่นหน้าแน่ และแต่ละเรื่องล้วนมันหยดเยิ้มกระฉูดทั้งสิ้น และถ้าเป็นไปอย่างที่ผมคิด ผมก็จะสร้างหนังสือนวลนางขึ้นมาเอง ใส่หน้าปกเอง เรื่องลอกเขามา แล้วเขียนเองอ่านเองไม่เผยแพร่เพราะว่าแค่เรื่องจริงนี้ก็สุดๆจะโรคจิตทีเดียว แต่จะต้องตั้งชื่อว่า หนังสือโป๊ คงจะเป็นเล่ม 1 ทำให้สวยเลย และจะเอาออกไปให้ผู้ที่มีสหชาติกันได้อ่านบ้าง หนังสือเล่มนี้หากตกไปอยู่ในมือของฝ่ายธรรมะแล้วคงจะทำให้ไฟธาตุแตกตาย แต่ทว่าขณะที่กำลังทำอย่างหนึ่ง ก็ดันคิดจะทำคาราโอเกะเพลงรักและภาพสุดวาบหวิวที่ชอบ นอกจากนี้แล้วยังคิดเตรียมอุปกรณ์ในการเสพสมที่จะประดิษฐ์ขึ้นมาอีกหลายรายการ
โอ้โอ๊ะโอ๋ เยอะมากเลย สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยากทำทั้งสิ้น ถ้าหากไม่ไปเดือดร้อนใครแล้ว กระผมสะพั่ง ลุย บางท่านอ่านไปแล้วอาจเห็นว่าไร้สาระ ซึ่งผมก็ว่าอย่างนั้น แต่ทว่ากับคนที่ไม่มีความคิดบ้าๆในการได้มาซึ่งลาภยศแล้ว คงไม่เป็นไร
นึกถึงเรื่องราวยามค่ำคืนในอดีต มันทำให้เกิดความเร่าร้อนต่อชีวิต แต่ทว่ามันกลับเป็นการเปรียบเทียบได้ว่าอะไรเป็นความสุขเย็นๆสบายใจ และอะไรเป็นความสุขที่ปนยาพิษ
ในความคิดของผมอาจจะไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ทว่าในความใจดีของผม ก็บางครั้งทำตัวเหมือนเป็นตัวแทนของเทพยาคอยดูแลคนที่ด้อยโอกาสกว่าให้ได้รับความสุขเท่าที่พอให้ได้
ผมมองเรื่องราวที่ผมทำด้วยรอยยิ้ม และหมุนติ้วด้วยการคิดปานจักรผันในระดับปัญญา ทุกอย่างที่ทำล้วนแล้วแต่ไร้สาระ แต่ทว่า จากคำกล่าวของ จานทูน ที่กล่าวว่า พั่ง ไม่มีอะไรบังเอิญหรอกพั่ง มีแต่ความเป็นเหตุและผล
ผมถึงมองออกว่าหากไม่คิดชั่วๆแล้วหรือคิดจะปล้ำใครหรือคิดจะล่วงเกินใคร หรือคิดจะเอาเปรียบใครแล้ว แม้น้ำลายจะไหล แม้หน้าจะมืดนิดๆ แม้จะเกิดกิเลสตัณหาจนมันหยด แต่ทว่าเมื่อเห็นภาพที่เกิดแล้ว ก็ใช้สติปัญญาในการหาทางรอด และความกล้าหาญที่ต้องมีและไม่กลัวเกรง
สุดท้ายก็เป็นอีกหนึ่งที่ไม่มีเสียดายตังค์ แม้จะไม่ได้แอ้มอะไรเลย หรือเป็นไปแบบโง่ๆ แต่ทว่ามันทำให้ผมทราบว่าเวรกรรมที่ผ่านมาได้หมดไปอีกหนึ่งแล้ว
ยังมีเรื่องราวที่ต้องทำอีกเยอะ
หายใจเข้าออกเอาไว้นะครับ
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน
19 พฤษภาคม 2553 20:02 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ ใฝ่ฝันที่อยากจะเขียนเรื่องแนวสิบแปดบวกมานานแล้ว ก็มีครั้งนี้แหละที่อุตส่าห์จัดสร้างเว็บบอร์ดด้วยตนเอง แล้วบันทึกลงเว็บบอร์ดของตนเองก่อนแล้วค่อยก๊อปไปแปะที่เว็บเพจอื่น บรรเจิดอย่างยิ่งจริงๆ (ชมตัวเอง)
นวดแผนโบราณ บางท่านก็นวดดีบางท่านก็นวดไม่ได้เรื่อง แต่ที่ล้วนแล้วเรียกว่าพี่สามารถที่จะนวดกษัยหรือรูดกษัยได้อย่างไม่เคอะเขิน เสียตังค์เพิ่มนิดหน่อย
นวดน้ำมัน ผมมองดูชื่อนี้แล้วก็แปลกดี เคยแต่ อาบ อบ นาบ นวดแผนโบราณ นวดไปล้วงไปปล้ำไปเมาไป แต่ไอ้นวดน้ำมันเนี้ยไม่เคย ว่าแล้วก็ต้องลอง
หลังจากนอนแก้ผ้าบนเตียงพลาสติกมีรูเอาไว้ให้หน้าใส่ลงไปได้ แล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของด๊อกเตอร์ ลื่นดีจังและสนุกในความแปลกใหม่
หลังจากนั้นก็ได้มาค้นคว้าจากคลิปในเน็ตเรื่องการนวดของญุ่นปี่ อุบ๊ะ อยากไปเรียนนวดจังเลย
ผมจึงไปขอคำปรึกษาหมดนวดเจ้าของร้านคนหนึ่ง แต่ก็ได้ให้คำแย้งว่าหมอผู้ชายคงจะหากินลำบาก แต่ต่อมาด้วยความที่ใช้วิชาเดิม ครูพักลักจำ ผมก็เทียวไปนวดน้ำมัน เสร็จแล้วจำ ซื้อน้ำมันกลับมาบ้าน ออกแนวความคิดให้เมียทราบ
เจ้าประคูนเมียกลับชอบ
การนวดน้ำมันเนี่ยมันทำให้เหงื่อแตกพลั่กๆเลย (คนนวด) แต่คนถูกนวด(นอนยิ้มแฉ่ง)ด้วยความสำลักความสุข
แต่ต่อมา นวดกระปู๋ มันรบกวนจิตใจของผมมากเหลือเกินว่าคืออะไร ได้รับทราบจากตัวหนังสือแล้วและแล้วก็ไปลอง มันทำให้เราได้เห็นอะไรแปลก ได้ทำอะไรแปลกตามความหนักเบาของโรคจิตของแต่ละบุคคล
หลังจากจบภารกิจ ผมกลับนั่งใจลอยคิดไปเรื่อยๆถึงเรื่องราวในอดีต และเรื่องราวในปัจจุบันที่ไม่เคยไปสัมผัสหรือเห็นด้วยตาหรือลิ้มด้วยลิ้น หรือสูดดมด้วยจมูก และหรือสัมผัสด้วยผิวกาย และสุดท้ายด้วยจิต
และก็คิดได้ว่ามันไม่มีอะไรแตกต่าง ที่แท้แล้ว แต่ทว่าหากเป็นการให้รางวัลแก่ชีวิตบ้างสักครั้งแล้วจะเป็นไรหนักหนาเชียว
อย่าลืมให้รางวัลชีวิตให้กับตัวเองบ้างนะครับ
เรื่องราวต่อไปของสะพั่ง สะท้านไมภพจะออกแนวอีโรติคส์ครับ โปรดติดตาม ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน
11 พฤษภาคม 2553 08:38 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
เสเพล
ผมสะพั่งสะท้านไมภพ ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมกอล์ฟก๊วน ไปก็ไป การที่ไม่ได้ตีมานานราวสามปี ก็ต้องมีการเตรียมการซักซ้อม
ใกล้บ้านมีสนามซ้อม จึงได้ขับสามสองสามจีแอลเอ็กมาสด้าสีเทาออกปฏิบัติการ
เมื่อถึงสนาม เก้าถาด เมื่อผ่านไปสองถาด ตีไปส่ายหน้าไป แต่ทว่าไม่ได้รอดไปจากสายตาของเจ้าของสนาม บุรุษวัยหกสิบ ผิวหน้าเปล่งปลั่ง เหมือนเฒ่าทารก เข้ามาขอโทษ และชี้แนะให้เรื่อง แขนซ้ายไม่เหยียดตรง ลำตัวไม่ยกขึ้น และก็การบิดมือขวาตามการฟอลโล่วทรู
สี่ถาดหลังดูเหมือนว่าจะไปได้ไกลและสวยงาม และท่านเจ้าสำนักยังบอกกล่าวอีกว่า ไม่มีทางที่ลูกจะไปตรงทุกครั้ง และแนะนำให้ผมไปฝึกกับโปรกอล์ฟเพื่อความก้าวหน้า
ผมสะพั่งสะท้านไมภพ หัวเราะ กล่าวขอบคุณและพูดกับเจ้าของว่า ผมเพียงแต่หวังเคาะลูกเล่นแล้วก็คุยเท่านั้น
เจ้าของสนามเตือนว่าหากจะไปเล่นตอนบ่ายอย่าไดร์ฟมากไปเดี๋ยวจะหมดแรงซะก่อน ผมขอบคุณพี่อีกครั้งหนึ่ง(ผมมักจะไม่เรียกใครว่าลุง เพราะมันกระเทือนใจคนที่ถูกเรียก)
ในสนามกอล์ฟ
แป๊ก ลูกกอล์ฟกลิ้งโค่โร่ออกไปแบบไร้ทิศทางและไร้เรี่ยวแรง แต่อย่างไรก็ตามด้วยความพยายามอยู่ที่ไหนความพยายามก็อยู่ที่นั่น
หลุมแรก สิบ หลุมสอง เก้า หลุมสาม แปด หลุมสี่ หก แค๊ดดี้ให้ข้อแนะนำว่า ยังงี้ไม่ต้องบอกลายน์ก็ได้ แต่ผมสะพั่ง กลับติงว่า หากไม่ให้ไลน์แล้วละก็ จะกลายเป็นยี่สิบครั้งต่อหลุมไป
การตีกอล์ฟครั้งนี้ ได้เช่ารถกอล์ฟ ขับฉวัดเฉวียนในแฟร์เวย์อย่างเมามัน
อากาศที่ร้อนขนาดหนัก เบียร์เย็นจนเบียร์ร้อน น้ำ เป๊บซี่ ล้วนถูกกรอกไหลลงลำคอ จนกระทั่งจบหลุมสิบแปด ผมสะพั่งสะท้านไมภพร้องไชโยออกมาด้วยความดีใจ
ระหว่างการเล่นได้ใช้เงินเลี้ยงน้ำไปหลายตังค์ แต่ทว่ากลับเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ได้ใช้เงินให้กับความทุกข์กายของบรรดามนุษย์ที่ร่วมก๊วน
การต่อรองไม่เอา เพราะไม่อยากนับ และไม่อยากนับผิด และอยากจะเป็นเพียงการตีเล่นๆไปเรื่อยๆเท่านั้น
นับว่ามีความสุขสนุกแบบไฮโซ
ในยามค่ำคืนในห้องคาราโอเค ผมนั่งจิบเหล้าทีละเล็กละน้อย เฝ้ามองสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ และคิดไตร่ตรองไปเรื่อยๆกับสิ่งที่ผมเผลอปากชวน
แค๊ดดี้สามคนกับเด็กหนึ่งคนสนุกสนานกันอยู่ ต่างคนต่างก็ดื่มฮันเดร็ด ร้องเพลง พูดจากันในสำเนียงและสาระที่ซื่อๆออกแนวชาวบ้าน บ้างก็แปลกๆในความเข้าใจ และสู้ต่อชีวิตในแบบที่แปลกแตกต่างอย่างอดทน ที่เรียกได้ว่าอย่างเหลือเชื่อ ผมนั่งมองแล้วก็ยิ้มๆ ไม่ได้เสียดายเงิน เพราะเรื่องราวอย่างนี้จะมีสักกี่คนที่ได้เห็น
ผมสะพั่ง ไม่ได้ต้องการการร่วมประเวณีหรือล่วงเกินทางเพศแต่ประการใด เพราะเมื่อนึกแล้วก็ถือว่าคงเป็นเวรกรรมที่ต้องชดใช้ และเมื่อไม่ได้สร้างเวรเพิ่มก็คงจะค่อยๆหมดไปเอง
เด็กเสริฟเวียตนามมองผมตาแป๋ว
ผมก็เลยอำไปว่าพาเมียสามลูกหนึ่งมากินข้าว
เธอบอกว่าเลี้ยงไหวหรือ
ผมหัวเราะ
สักพักเธอบอกว่าอยากเป็นคนที่สี่บ้าง
ปิ๊งๆๆๆ
การที่ทำอะไรแล้วมีสติยั้งคิดเนี่ยมันดียังงี้นั่นเอง และรับสภาพที่เกิด พิจารณา ไตร่ตรอง เห็นความบ้า และไม่มีใครรู้ว่าในความคิดของผม
บ้านของเราที่อบอุ่น ผิวกายเนื้อเมียที่เรียบรื่นอบอุ่น ช่างมีคุณค่ามากที่สุดในโลกนี้จริงๆ
สะพั่ง สะท้านไมภพ - satanmipop at 1935.in.th
11/05/2010 - 08:20 - 125.24.110.