17 ตุลาคม 2553 11:23 น.

เตียงอบอุ่นท่ามกลางฟ้าฝน

สะพั่งสะท้านไมภพ

เสียงจากน้ำฝนเทจากฟากฟ้าเหมือนกลับหลังคาโลกรั่วอย่างมากมาย ในความเป็นจริงจากทักษะมันควรเป็นฤดูหนาวไปแล้ว แต่ทว่ามันกลับกล้ายคล้ายเพลงเมดเล่ย์ ที่ผสานกันอย่างพิสดาร โลกนี้ไม่ได้พิสดาร แต่ทว่ามันย่อมเกิดจากความผสมผสานระหว่างเหตุและผล หยินและหยาง
ความคิดที่ดีๆที่เกิดขึ้น ความตั้งใจทำงานให้เกิดประโยชน์จริงๆ มันก็ต้องใช้สติและปัญญาด้วย มิฉะนั้นก็จะเป็นแบบนี้แล ถูกทุกข้อไปเรื่อยๆ ที่จริงคำตอบไม่ใช่เช่นนั้น 
บางครั้งก็ต้องทบทวนอยู่บ่อยครั้ง ยืนมองออกไปในท่ามกลางทิวทัศน์ตึกรามบ้านช่อง ที่สูงลิบลิ่ว และแสงสีตระกาลตรายามท้องฟ้ามืดค่ำ มีแต่เพียงผู้ฉลาดกว่าจะสามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้ที่ฉลาดน้อยกว่าทำ หัวเราะนิดๆแต่ก็ให้ความเข้าใจต่อเขา รู้สึกว่ามันเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่ทุกผู้คนจะต้องผ่าน บางคนกำลังจะผ่าน บางคนก็ผ่านไปแล้ว 
นอนบนเคียงอบอุ่นในท่ามกลางฟ้าฝน กับครอบครัวย่อมประเสริฐสุดในชีวิต พัดน้อยโบกช่วย นัยว่าเป็นลีลาคล้ายกับจี้กง พระโง่งมในสายตาของคน ตำแหน่งใหม่ที่ได้รับ ก็ทำให้คิด รถใหม่ที่จะซื้อก็ทำให้คิด คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ก็ทำให้คิด ร่างกายที่เสื่อมโรคภัยเข้าแทรกก็ทำให้คิด
แต่ทว่าในยามนี้พังพอใจแล้ว
สุขกายสบายใจแล้ว
หากคิดว่าได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นได้
มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดหรอกหรือ
สะพั่ง ยิ้มแย้มให้กับสิ่งที่ได้รับ
ก็บอกแล้วว่ายามทุกข์สามารถทนได้และมีความสุขกับมัน
และยามสุขก็ระวังเภทภัยปะปนในคราสุข
การคิดที่ดีๆ ย่อมจะสร้างองค์ความรู้ดีๆให้มากขึ้นกว่าเดิม ผ่านพ้นขั้นรู้พื้นๆ
สิ่งที่ผ่านไปในหัวมิใช่ว่าจะลืม
เมื่อถึงเวลาระดมความรู้ในหัว
มันก็จะสะพรั่งฟูฝอยออกมาจนราวกับประทัดแตก
ยามเคลื่อนไหวก็รวดเร็วดุจกับปีศาจ
ยามนิ่งก็เหมือนกับแมววาดหางอย่างอ้อยอิ่ง
ผมไม่ได้มองดูหน้าตา แต่ผมมองแววตา ท่าทาง อากัปกริยา และมองลึกเข้าไปในจิตใจของคนที่ผมอยากจะมอง
ดังนั้น เมื่อเข้าใจเขาแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่ยาก
หากว่าผิดพลาดก็อาศัยการผิดพลาดนั้นให้สมคล้อยตามสถานการณ์ ขี่สถานการณ์ 
ระดับแบบนี้ จะเรียกเหยียบหิมะไร้ร่องรอยได้หรือยัง
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงานครับ
เพิ่งสร้างเว็บเสร็จหนึ่งอัน
1935.in.th
การสร้างเว็บก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง และเป็นสถานที่ฝึกฝีมือด้านศิลปะอีกที่หนึ่ง
ขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง				
6 ตุลาคม 2553 18:39 น.

ปลาเค็มหาย

สะพั่งสะท้านไมภพ

ทุกๆเช้าตอนเปิดตู้เย็น ผมจะมองไปที่มุมทางซ้ายสุด 
เอ๊ะนั่นถุงใส่อะไร
พอมองหลายๆวันเข้าเอ้านั่นมันปลาเค็มที่กินเหลือใส่ถุงนี่หว่า
อ้าวแล้วทำไมวนิดาถึงบอกว่าอร่อยจนหมดไปแล้ว
อยู่มาวันหนึ่งวนิดาซื้อผักคะน้ามา แช่น้ำแล้วใส่กระชอนตั้งไว้ในครัว
ลืมใส่ตู้เย็น
ตอนเช้าผมตื่นมาก็มองทั้งผักคะน้าและปลาเค็ม
เอาละวะตอนเย็น
กะจะใส่กระเทียมเยอะๆ น้ำมันเยอะๆให้หอมฟุ้งจรุงใจทีเดียว
เย็นวันต่อมา
ผมหั่นคะน้ำล้างน้ำ กระเทียมซอยซะบางเฉียบ และกระทะใส่น้ำมันพร้อม
เมื่อผมไปเปิดตู้เย็นจะเอาปลาเค็มในถุงพลาสติกที่มุมซ้ายออกมา
อพิโธ่อพิถังกะลามังแตก มันหายไป ปลาเค็มมันหายไป
และก็นึกขำการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างวนิดากับพันตรีปะจัก
ผมเปลี่ยนแผนทำเป็นคะน้าผัดน้ำมันหอย
ซึ่งก็อร่อยที่สุดในตอนเย็น
บางครั้งภรรยาผมก็เตรียมของไว้ว่าจะเอามาทำตอนเย็น
แต่พอมาถึงกลับปรากฏว่าผมได้จัดการนำไปทำกับข้าวอย่างอื่นเสียแล้ว
บางครั้งหากซื้อเงาะกลับมา ก็จะพบว่าซื้อมาชนกันคนละสองกิโล
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยมาก
นับว่าใจตรงกัน
ดังนั้นเวลาคิดอะไรขึ้นมา ก็ต้องคิดได้ว่าวนิดาก็ต้องคิดได้ว่าผมคิดอะไรอยู่
ในตอนเย็นได้กลับมาบ้านทำกับข้าวให้เมียและลูกกิน
มันช่างมีความสุขบรมอะไรอย่างนี้
พรุ่งนี้แหละจะหาปลาเค็มอย่างดีมาทอดให้หอมฟุ้งทั้งบ้านเลย
พรุ่งนี้พันตรีปะจักกับวนิดาจะเล็มปลาเค็มทอดหอมซอยพริกขี้หนูบีบมะนาวกับข้าวสวยร้อนๆๆๆๆแล้วมองตากันด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ 
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ