26 พฤษภาคม 2552 08:01 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมนั่งมองดูแมวใต้ท้องรถ มันมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรเลย ขนของมันลุกซู่และแยกเขี้ยว ลูกแมวสีลายพรางเขียวเทา สภาพของมันย่ำแย่ทีเดียว ข้างบ้านของผมและบ้สนถึดๆไปล้วนแต่เลี้ยงหมา
ผมไล่มันให้ออกไปจากใต้ท้องรถแต่มันดูเหมือนว่าจะไม่มีแรงไป จะจับหรือมันก็ขู่ ผมจึงกลับไปหาไม้มาเขี่ยมัน แต่ทว่ามันกลับหายไปแล้ว
พอผมดูอีกทีมันได้ไปแอบอยู่ตรงกระถางต้นไม้หน้ารถ ดีละ ตรงนั้นก็เหมาะสมที่จะให้มันได้พักผ่อนให้หายบาดเจ็บ
ผมก็ชี้ให้ลูกและภรรยาของผมดู ต่างคนต่างก็ตื่นเต้น
และเมื่อภรรยาของผมขับรถออกไปแล้ว ผมก็คิดจะจับมัน
ผมใช้ตะกร้าผ้าครอบ เอากระดาษแข็งแผ่นใหญ่เสียบและพลิกตระกล้า แมวน้อยมันไม่มีแรง มันก็กลิ้งโค่โร่ไปอยู่ในตะกร้า ผมจัดแจงหาภาชนะใส่นมให้มันกิน และในตอนเย็นก็เอาปลาทูวางไว้เผื่อมันจะกิน
ตื่นเช้าขึ้นมา มีร่องรอยการกิน และอุจาระแมวเหม็นหึ่ง ผมจัดแจงเปลี่ยนกระดาษที่รอง และเอากระเช้าของขวัญปีใหม่รองหนังสือพิมพ์มาปูใหม่ ที่กระเช้ามีโบว์สีแดงผูกไว้ด้วย
สะพั่ง คิด มันเป็นสัญญานที่ดีที่ลูกแมวน้อยจะมีชีวิตอีกต่อไป ถ้ามันมีเก้าชีวิตจริงๆอย่างที่เขาว่า
ในตอนนี้ ผมลองลูบหัวมันดู มันกลับหลับตาพริ้มด้วยความพึงพอใจและอ่อนน้อมยอมมอบตัวแล้ว ผมดีใจที่มันเชื่องแล้ว ผมก็หาข้าว ปลาทู และใช้หลอดหยอดนมหยอดน้ำให้กับมัน ตลอดเวลา
เมื่อจับดูหงายขึ้นปรากฏว่าที่คอของมันมีรอยหนองเป็นรู และตัวมันไม่มีแรงจะเคลื่อนไปไหน ก็หวังว่าจากการที่ผมหยอดนมและหยอดน้ำให้มันจะทำให้มันสามารถรักษาชีวิตที่หนึ่งของมันไว้ได้
วันต่อมา ผมหยอดน้ำและนมอีก พร้อมกับเนื้อปลาทูบนข้าวสวย
มันมองผมด้วยสายตาที่เป็นมิตร
แต่ทว่ามันไม่ยอมขยับปากกินน้ำและนมที่ผมป้อน
ผมลูบหัว ลูบตัว มันมันก็พริ้มตาอย่างเป็นสุขและอบอุ่น
เสร็จแล้วผมก็ไปทำงาน
เมื่อกลับมา ผมเห็นตะกร้าหงาย และไม่มีแมวที่น่าสงสารตัวนั้น
ใจหนึ่งก็อยากให้มันหายดีและกลับไปหาญาติของมัน
แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงว่ามันจะตาย
เมื่อลูกชายผมกลับมา เขาก็รายงานว่า ตอนเช้าลูกชายผมก็ป้อนนมให้มันแต่มันไม่ยอมกิน
และเมื่อตกตอนบ่าย มันก็แข็งเสียแล้ว
และเขาได้นำซากของมันไปฝังที่สวนแล้ว
ผมนึกในใจในเรื่องราวเหล่านี้
และก็ได้แต่ขอให้มันไปดีมีความสุขต่อไป
ผมและครอบครัวดูแลมันได้เท่านี้
26 พฤษภาคม 2552 07:42 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
วันหนึ่ง สะพั่ง สะท้านไมภพ ได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงภรรยา ดูด้านหลังซองแล้ว ฟันธงเลยว่าจะต้องเป็นใบสั่งของตำรวจจราจร สะพั่ง หัวร่องอหาย ที่เห็นภรรยาของตนเองโดนใบสั่ง
เมื่อภรรยาของผมเปิดจดหมายออกมา รูปที่ปรากฏสามรูปกลับกลายเป็นมาสด้าจีแอลเอ็กซ์สามสองสามของผม
สะพั่ง มองดูแล้วแทบไม่เชื่อสายตา จะจะเลย เลขทะเบียนชัดแจ๋ว เหงื่อกาฬแตกพลั่กๆ นึกไม่ถึงว่าจะโอละพ่อกลับกลายแปรเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นยังงี้
สะพั่ง นึกย้อนอดีตไปหลายๆวัน มีหลายครั้งที่สะพั่ง ขับรถคล้ายๆแบบนี้ หัวใจของผมเต้นตุ๊มๆต่อมๆ ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้มาอีกหรือเปล่า
ปัญหาชีวิต ไม่ใช่มีเฉพาะแค่ค่าน้ำมันเสียแล้ว แต่ทว่าจะมีรายการคุณขอมาแบบนี้อีกหลายครั้ง
ผมกลับนั่งนึกและคิด พร้อมกับหวาดระแวงระคนกันไปแต่ทว่า ก็ยังทะลึ่งคิดเปลี่ยนวิกฤต เป็นโอกาส
ผมต้องนั่งศึกษาว่าจะต้องทำอย่างไรในการเสียค่าปรับ อ้อ ถ่ายสำเนา และไปจ่ายค่าปรับ ห้าร้อย บาทที่ไปรษณีย์ ที่ไปรษณีย์ โดนเล่นไปอีก เจ็ดสิบกว่าบาท นับว่าโดนรุมทึ้งได้อย่างไม่ยากเย็น
หลังจากวันที่จ่ายค่าปรับไปแล้ว การขับรถของผมก็ดูนุ่มนวลขึ้น สายตามองที่ไฟเขียว และแต่ละไฟเขียวทุกแยกล้วนแล้วแต่น่าลุ้นทั้งนั้น บ้างก็เลขบอกวินาทีดับวูบเดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ เรียกว่าเสียวทุกแยก
สะพั่ง หัวเราะโดนซะบ้างก็เป็นการตักเตือนตนเอง หากต่อไปในอนาคตตำรวจดันติดกล้องแบบนี้เพิ่มขึ้นละก็ เละแน่
ผมเองขับเกินไปวินาทีกว่า ๆ แต่มมีบางท่านโดนแค่เสี้ยววินาที
สะพั่งหัวเราะ ต่อไปก็ต้องระวัง และเลือกเอาระหว่างตูดรถที่จะบุบหากกลัวเสียเงินห้าร้อย
แต่ทว่าเหตุการณ์ใดที่ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่คิด
ชีวิตในตอนนี้ มันช่างมันสุดๆ ดูเหมือนอะไรจะแย่ๆตามๆกัน
แต่ทว่ามีแต่หัวใจที่ใจสู้แบบสุดๆเท่านั้น ที่จะรื่นเริงได้
ขอประทานโทษที่หายไปนาน
คงจะกลับมาแล้วครับ
และจะละเลงให้สนุกสนานต่อไป
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน