1 มิถุนายน 2552 19:53 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมยืนมองยอดตึกระฟ้า บนดาดฟ้าชั้นสี่อาคารใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ผมพ่นควันบุหรี่ออกไปเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า
สายตามองออกไปยังตึกและครุ่นคิด
แม้ในยามกลางคืนเล่า
แบล๊คกราวน์สีมืดเป็นฉากหลังให้ตึกระฟ้าและแสงไฟหลากหลายระลานตาระยิบระยับยิ่งกว่าดวงดาว สวยเหลือเกิน
สักพัก ก็ระลึกได้ถึงตนเอง ที่ไม่เคยกร้ำกรายไปในแนวตึกระฟ้าอย่างนั้น
ความจริงไม่เคยคิดที่จะเงยหน้าดู หรือมอง หรือฟัง ของสวยงาม
ใช่แล้วไม่มีเวลาเลย ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
แต่ทว่า สะพั่ง สะท้านไมภพ ระลึกได้อีกว่า
เมื่อก่อนผม คิดว่าเป็นลูกผู้ชาย จะต้องรู้ทุกเรื่องให้เจนจบจนสิ้น
แต่ทว่าเมื่อถึงวันนี้ เริ่มคิดได้แล้วว่า ที่ผ่านมามีบางเรื่องที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนกลับเป็นสิ่งที่ดีกับตนเอง
ในบริบทที่แตกต่าง พฤติกรรมก็เปลี่ยนแปลงไป
ผมมองเห็นความชั่วร้ายที่ยิ่งกว่าที่ผมชั่วร้ายหลายๆเท่า
บางทีผมก็นึกขยะแขยงและเบื่อหน่ายเกินกว่าจะด่าบ่นก่นซ้ำซากอีกแล้ว
ได้แต่มองดูไปเรื่อยๆ
วันนี้ก็หมดแรงที่จะทำงาน หมดกำลังใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะอ่านหนังสือเรื่องราวที่จะปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ
มันหมดแรง
ควักบุหรี่ที่ราคาแพงแต่คุณภาพไทยมาดูดอีกมวลหนึ่ง
พอนึกได้ว่าตอนเย็นนี้ต้องกลับไปทำกับข้าวอร่อยๆให้ลูกเมียกิน
ฉับพลันอาการอ่อนเปลี้ยเพลียใจมอดมลายหายไป
มันกลับกลายเป็นความสนุก และรอผลเมื่อลูกเมียกินดื่มเสร็จแล้ว
อร่อย
หากคำๆนี้ได้ออกมาจากปากเมียและลูก
และนอกเหนือจากการทำงาน ตอนเช้า ก่อนไป และตอนเย็นหลังกลับมาแล้ว
การทำกับข้าวให้กับลูกเมียกิน มันเป็นการบอกรักอย่างจริงใจอย่างหนึ่ง
บางที คำว่าลูกผู้ชายที่ผ่านมามันไม่ค่อยจะมีค่าเสียแล้วในตอนนี้
ยามกินเหล้าก็ดูมีความสุขดี
แต่ทว่ายามนอนกอดเมียเนี่ยกลับมีความสุข เย็น สดชื่น ไม่ทรมาน และไม่มีเรื่องราว
ธรรมชาติย่อมพลั้งเผลอได้
แต่สาบาน ผมจะไม่ให้โอกาสมันอีก
นับแต่นี้ไป
ผมจะทำในสิ่งที่ซู๊ดยอดกับครอบครัว
ผมจะไม่สนใจอนาคตอันไร้สาระของการทำงาน
ผมจะไม่ใฝ่หาความรู้ที่แปลกประหลาดใดๆอีก
ผมจะทำกับข้าวเช้า ทำงาน ทำกับข้าวตอนเย็น หากมีเวลาว่างก็จะค้าขายผ่านอินเตอร์เน็ต
สิ่งที่ผ่านไปแล้วปล่อยให้ผ่านไป
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่นี่ย่อมยากเย็นยิ่งกว่าที่จะให้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
ผมมีความรู้สึกว่า คำว่าลูกผู้ชายของตัวผม รู้สึกว่ามันจะมีอย่างจริงจังก็ตอนนี้เอง
ขอบคุณที่ติดตามผลงาน
1 มิถุนายน 2552 07:53 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ความตั้งใจของคนๆหนึ่ง
ฤาจะต่อต้านกับความบ้าคลั่งของจิตใต้สำนึกได้
เพราะความโง่บ้าหลงเพ้อเจ้อของเรานี่เองที่หากไม่สามารถคุมได้มันก็จะทำให้เกิดเรื่องราวในพิภพขึ้น
ความหมุยวนเวียนแห่งความทุกข์ยากทั้งมวลก็เริ่มจากที่นี้เอง
มองเห็นความสุขสดชื่น ตัวละครในซีรีเกาหลี
น้ำตาไหลปลื้มกับสิ่งที่เธอได้รับ
มันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อเรียกน้ำตาจากคนชม
ในโลกแห่งความเป็นจริง
คนแสดงทีเขียนบทจากอารมณ์ในส่วนลึกของตน
ย่อมทำให้เกิดโศกนาฏกรรมชีวิตที่ยิ่งใหญ่
แม้แต่คนเขียนยังต้องน้ำตาซึม
ขีดเส้นแบ่งนั้นย่อมพลาดพลั้งเลยเกินออกไปได้เสมอ
ชีวิตเริ่มเบื่อหน่ายต่อสิ่งที่ได้เผลอกระทำอีกแล้ว
แต่ทว่า มันก็เกิดความรู้ขึ้น ในระดับนี้
และหยั่งรู้ได้ว่าที่ผ่านมาในอดีตก็เป็นเพราะเหตุนี้
สะพั่ง สะท้านไมภพ แม้จะยิ้มไม่ออก แต่ก็จะจดจำ
เมื่อเห็นเหตุผลของเรื่องราวความผิดแล้ว
สะพั่ง ก็จะต้องหาหนทางที่จะตัดรอนมิให้มีแม้แต่ประกาย
การที่จะรักษาตัวให้เป็นเรื่องราวที่มีแต่ประพฤติปฏิบัติดี
ก็คงจะเริ่มอย่างจริงจังเสียที
และหากรู้ความไม่ดีอย่างละเอียดอ่อนแล้ว
การคิดจะทำคงไม่ยากอีกต่อไป
สิ่งที่ผ่านมาสรุปได้ว่าไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาหรือเวรกรรม
แต่หากเป็นจิตสำนึกที่ซ้อนเร้นคุประทุออกมาเสียมากกว่า
หวังว่า สักวันคงจะสำเร็จ
และหวังว่าคงจะไม่มีคำว่า
ลืมอีกแล้ว
อีกต่อไป
26 พฤษภาคม 2552 08:01 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ผมนั่งมองดูแมวใต้ท้องรถ มันมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรเลย ขนของมันลุกซู่และแยกเขี้ยว ลูกแมวสีลายพรางเขียวเทา สภาพของมันย่ำแย่ทีเดียว ข้างบ้านของผมและบ้สนถึดๆไปล้วนแต่เลี้ยงหมา
ผมไล่มันให้ออกไปจากใต้ท้องรถแต่มันดูเหมือนว่าจะไม่มีแรงไป จะจับหรือมันก็ขู่ ผมจึงกลับไปหาไม้มาเขี่ยมัน แต่ทว่ามันกลับหายไปแล้ว
พอผมดูอีกทีมันได้ไปแอบอยู่ตรงกระถางต้นไม้หน้ารถ ดีละ ตรงนั้นก็เหมาะสมที่จะให้มันได้พักผ่อนให้หายบาดเจ็บ
ผมก็ชี้ให้ลูกและภรรยาของผมดู ต่างคนต่างก็ตื่นเต้น
และเมื่อภรรยาของผมขับรถออกไปแล้ว ผมก็คิดจะจับมัน
ผมใช้ตะกร้าผ้าครอบ เอากระดาษแข็งแผ่นใหญ่เสียบและพลิกตระกล้า แมวน้อยมันไม่มีแรง มันก็กลิ้งโค่โร่ไปอยู่ในตะกร้า ผมจัดแจงหาภาชนะใส่นมให้มันกิน และในตอนเย็นก็เอาปลาทูวางไว้เผื่อมันจะกิน
ตื่นเช้าขึ้นมา มีร่องรอยการกิน และอุจาระแมวเหม็นหึ่ง ผมจัดแจงเปลี่ยนกระดาษที่รอง และเอากระเช้าของขวัญปีใหม่รองหนังสือพิมพ์มาปูใหม่ ที่กระเช้ามีโบว์สีแดงผูกไว้ด้วย
สะพั่ง คิด มันเป็นสัญญานที่ดีที่ลูกแมวน้อยจะมีชีวิตอีกต่อไป ถ้ามันมีเก้าชีวิตจริงๆอย่างที่เขาว่า
ในตอนนี้ ผมลองลูบหัวมันดู มันกลับหลับตาพริ้มด้วยความพึงพอใจและอ่อนน้อมยอมมอบตัวแล้ว ผมดีใจที่มันเชื่องแล้ว ผมก็หาข้าว ปลาทู และใช้หลอดหยอดนมหยอดน้ำให้กับมัน ตลอดเวลา
เมื่อจับดูหงายขึ้นปรากฏว่าที่คอของมันมีรอยหนองเป็นรู และตัวมันไม่มีแรงจะเคลื่อนไปไหน ก็หวังว่าจากการที่ผมหยอดนมและหยอดน้ำให้มันจะทำให้มันสามารถรักษาชีวิตที่หนึ่งของมันไว้ได้
วันต่อมา ผมหยอดน้ำและนมอีก พร้อมกับเนื้อปลาทูบนข้าวสวย
มันมองผมด้วยสายตาที่เป็นมิตร
แต่ทว่ามันไม่ยอมขยับปากกินน้ำและนมที่ผมป้อน
ผมลูบหัว ลูบตัว มันมันก็พริ้มตาอย่างเป็นสุขและอบอุ่น
เสร็จแล้วผมก็ไปทำงาน
เมื่อกลับมา ผมเห็นตะกร้าหงาย และไม่มีแมวที่น่าสงสารตัวนั้น
ใจหนึ่งก็อยากให้มันหายดีและกลับไปหาญาติของมัน
แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงว่ามันจะตาย
เมื่อลูกชายผมกลับมา เขาก็รายงานว่า ตอนเช้าลูกชายผมก็ป้อนนมให้มันแต่มันไม่ยอมกิน
และเมื่อตกตอนบ่าย มันก็แข็งเสียแล้ว
และเขาได้นำซากของมันไปฝังที่สวนแล้ว
ผมนึกในใจในเรื่องราวเหล่านี้
และก็ได้แต่ขอให้มันไปดีมีความสุขต่อไป
ผมและครอบครัวดูแลมันได้เท่านี้
26 พฤษภาคม 2552 07:42 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
วันหนึ่ง สะพั่ง สะท้านไมภพ ได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงภรรยา ดูด้านหลังซองแล้ว ฟันธงเลยว่าจะต้องเป็นใบสั่งของตำรวจจราจร สะพั่ง หัวร่องอหาย ที่เห็นภรรยาของตนเองโดนใบสั่ง
เมื่อภรรยาของผมเปิดจดหมายออกมา รูปที่ปรากฏสามรูปกลับกลายเป็นมาสด้าจีแอลเอ็กซ์สามสองสามของผม
สะพั่ง มองดูแล้วแทบไม่เชื่อสายตา จะจะเลย เลขทะเบียนชัดแจ๋ว เหงื่อกาฬแตกพลั่กๆ นึกไม่ถึงว่าจะโอละพ่อกลับกลายแปรเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นยังงี้
สะพั่ง นึกย้อนอดีตไปหลายๆวัน มีหลายครั้งที่สะพั่ง ขับรถคล้ายๆแบบนี้ หัวใจของผมเต้นตุ๊มๆต่อมๆ ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้มาอีกหรือเปล่า
ปัญหาชีวิต ไม่ใช่มีเฉพาะแค่ค่าน้ำมันเสียแล้ว แต่ทว่าจะมีรายการคุณขอมาแบบนี้อีกหลายครั้ง
ผมกลับนั่งนึกและคิด พร้อมกับหวาดระแวงระคนกันไปแต่ทว่า ก็ยังทะลึ่งคิดเปลี่ยนวิกฤต เป็นโอกาส
ผมต้องนั่งศึกษาว่าจะต้องทำอย่างไรในการเสียค่าปรับ อ้อ ถ่ายสำเนา และไปจ่ายค่าปรับ ห้าร้อย บาทที่ไปรษณีย์ ที่ไปรษณีย์ โดนเล่นไปอีก เจ็ดสิบกว่าบาท นับว่าโดนรุมทึ้งได้อย่างไม่ยากเย็น
หลังจากวันที่จ่ายค่าปรับไปแล้ว การขับรถของผมก็ดูนุ่มนวลขึ้น สายตามองที่ไฟเขียว และแต่ละไฟเขียวทุกแยกล้วนแล้วแต่น่าลุ้นทั้งนั้น บ้างก็เลขบอกวินาทีดับวูบเดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ เรียกว่าเสียวทุกแยก
สะพั่ง หัวเราะโดนซะบ้างก็เป็นการตักเตือนตนเอง หากต่อไปในอนาคตตำรวจดันติดกล้องแบบนี้เพิ่มขึ้นละก็ เละแน่
ผมเองขับเกินไปวินาทีกว่า ๆ แต่มมีบางท่านโดนแค่เสี้ยววินาที
สะพั่งหัวเราะ ต่อไปก็ต้องระวัง และเลือกเอาระหว่างตูดรถที่จะบุบหากกลัวเสียเงินห้าร้อย
แต่ทว่าเหตุการณ์ใดที่ยังไม่เจอ ก็จะยังไม่คิด
ชีวิตในตอนนี้ มันช่างมันสุดๆ ดูเหมือนอะไรจะแย่ๆตามๆกัน
แต่ทว่ามีแต่หัวใจที่ใจสู้แบบสุดๆเท่านั้น ที่จะรื่นเริงได้
ขอประทานโทษที่หายไปนาน
คงจะกลับมาแล้วครับ
และจะละเลงให้สนุกสนานต่อไป
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน
7 มกราคม 2552 21:24 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ในค่ำคืนที่ไม่อาจจะบอกได้ว่าจะหนาวหรือไม่หนาว นอกจากจะได้เห็นเส้นโครงร่างของความกดดันอากาศในจอทีวีบางช่อง แต่ทว่าในจอทีวีที่ใช้สายอินเตอร์เน็ตมันสามารถเห็นเมฆ เห็นความร้อนเป็นสีส้ม และยังมีเส้นแสดงค่าของบารอมิเตอร์และตัวเลขประกอบเส้นให้เห็นเด่นชัด โอ้ ไอซี ผมบ่นออกมาเป็นภาษาปะกิด และดัดจริต ร้องอุทานบ่อย ๆว่า โอ๊ มายก๊อด....สสสส
เสียงปืนดังปุปะปุปะในที่ห่างไกล พวกที่ทนไม่ไหวได้ลุกออกมาต่อต้านขัดขืน โดยการปิดหน้า และใช้อาวุธที่รุนแรงที่สุด เพื่อจะจบภารกิจให้รวดเร็วที่สุด ต่อพวกที่กุมอำนาจโดยไร้มนุษยธรรมและความปราณี
เสียงต๊อดๆดังขึ้นทางทีวี และ ผู้ชายใส่เสื้อเชิ๊ตขาว อายุประมาณสี่สิบ ขาว หวีผมเรียบแปล้ ใส่เสื้อแบบที่เด็กอังกฤษใส่กัน มองมาที่ผม ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหน ผมมองหน้าแล้วรอรับฟังคำสั่ง
เป้าหมาย นายก ที่หน้าโรงเรียนวินิต วันนี้ เวลาเก้าโมงเช้าเก้านาที
มีอะไรสงสัยไหม
ผมมองดูแกพูดสั่งผม สั่งเสร็จแกจะไม่มีเวลาฟังคำตอบจากที่แกถาม แกก็จะหายไป จอทีวีก็กลับกลายเป็นจอหนังละครข่าวตามปกติ
ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ นั่งคิดในใจอีกสามวันเท่านั้น หมูจะเข้าเล้า คนจะเข้าโรงแรม งานของผมเริ่มอีกแล้ว
จากการที่ใช้ระเบิดพลีชีพไปครั้งที่แล้ว ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนใจในการต่อว่า เรื่องการใช้ไข่ และให้กลับมาใช้ไข่ได้แบบเดิม และอย่างเดียวเท่านั้น ที่ยืนยันว่าแม้จะเห็นหน้า ทราบชื่อ ทราบตำแหน่ง ก็จะไม่ทำไร๊
ผมนั่งคิดดูแล้วก็ขำๆ ในปัจจุบันนี้จริงจังกันมากเลย สงครามก่อการร้ายด้วยไข่ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศนี้ เรื่องนี้ออกข่าวไปทั่วโลก ทีแรกก็ขำๆ แต่ทว่ากลับเห็นความจริงที่ว่าการใช้ไข่เนี่ยก็สามารถแก้ปัญหาชีวิตจนกระทั่งถึงประเทศชาติหรือรัฐได้จริง
มิพักต้องให้เลขาธิการสหประชาติชาวโลก มาทำท่าทำทางรักคนทั้งโลกและห่วงใยมากกว่าคนชาติตนเอง
แม้แต่ตะวันออกกลาง ก็เลิกใช้แล้วระเบิดพลีชีพแบบนั้น และหันกลับมาใช้แบบนี้ แบบไข่ไข่ ซึ่งคลาสสสสสิกมากที่ซู๊ดเลย
ผมต้องทำการเซอร์เวย์ถนนหนทาง มุมที่จะเป็นจุดบอดสำหรับการรักษาความปลอดภัย และจุดที่ผมจะยืน และก็ได้ลองซักซ้อมจนกระทั่งมั่นใจแล้ว
และแล้ววันนั้นก็มาถึง
ผมแต่งตัวเสียเรียบร้อย สวมแว่นตาดำ หวีผมเรียบแปล้ไปทางขวา ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีฟ้า รีดซะกรีบโง้งเลย และถือไข่ร้อนๆที่อยู่ในภาชนะผ้าบุอลูมิเนียมที่สามารถเก็บความร้อนและความเย็นอย่างใดก็ได้เอาไว้
พอได้เวลา รถมอซีเดสสีดำ ติดฟิมล์ซะมีดเชียวแล่นเข้ามาและต้องมาชะลอช้าตรงประตูเข้า ตรงจุดที่ผมรอพอดี
ผมส่งยิ้มเข้าไปผ่านกระจก และชูไข่ร้อนๆขึ้น
กระจกรถได้เปิดลงมา ทำให้เห็นคนในรถที่สวมสูทและสวมแว่นดำเหมือนกัน ต่างคนต่างมองมา และรู้สึกได้ว่ายังมืดอยู่ทั้งคู่
เอาหกใบครับ
คนในรถตะโกนออกมา
เอ้านี่ครับ เรียบร้อยแล้วครับ
คนในรถส่งแบ๊งพันเรียบๆออกมาให้หนึ่งใบ
ผมพลิกไปพลิกมาเอามือลูบและมองส่องลายน้ำ
แล้วยิ้มให้ และก็โบกมือจากไป คนในรถก็โบกมือให้และกระจกก็ปิดขึ้นดังเดิม
พ่อค้าขายไข่ปิ้งที่แต่งตัวเรียบร้อยคนหนึ่ง ขายไข่ปิ้งได้ราคาดีเท่านั้นเอง
ที่บ้าน
สะพั่ง เปิดทีวีและกดปุ่มสีแดงมีขีดน้ำเงิน ปรากฏภาพของเจ้านายขึ้นมาหน้าจอ
เรียบร้อยแล้วครับท่าน
เออดีมาก
แล้วทีวีก็กลายเป็นข่าวหนังละครไป
สะพั่ง ผิวปากด้วยความสบายใจ
อีกภารกิจหนึ่งที่ดูเหมือนง่ายแต่ยากสุด
การส่งของให้กับคนโดยคนอื่นไม่มีทางรู้และต้องปลอดภัยอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เนี่ยมันยากจริงๆ
แต่อย่างไรก็ตามภารกิจนี้สำเร็จไปแล้ว
สำหรับ ผม แล้ว สะพั่ง สะท้านไมภพ ทำอะไรต้องประสบความสำเร็จ
ละแล้วผมก็เอนตัวหลับตาฝันถึงอนาคตที่ไกลกว่าต่อไป