30 มีนาคม 2551 22:38 น.

ไร้สาระ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ไม่มีสาระอะไรเลยหรือนี่
   ผม สะพั่ง ก็รู้ตัวดีว่าการที่ได้เปิดเว็บโป๊ดูเนี่ยมันไม่ได้สาระอะไร แต่นึกๆไปอีกทีถ้ามีอินเตอร์เน็ตแล้วไม่เปิดรูปโป๊ หรือ คลิปโป๊ ดู เนี่ย แล้วมันจะลงทุนเสียตังค์ซื้อมาทำพระแสงอะไร สะพั่งยักไหล่แล้วหัวเราะเคี๊ยกๆ ยังคงหมกมุ่นวุ่นวายกับภาพลามกจกเปรตอยู่ 
   ในช่วงแวบหนึ่งของความอยากรู้ เขาได้ลองใช้เซริจเอ็นจิ้น หลายๆตัวลองค้นหาเรื่องราวที่สะพั่งสนใจ ยกตัวอย่างเช่น พลนิกรกิมหงวน ก็เจอข้อมูลเป็นแผ่นๆ จะเรียกเป็นเข่งๆแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วเพราะว่าสมัยนี้อะไรๆก็อยู่ในดีวีดีขนาดสี่จุดห้าจิ๊กกะไบท์ได้แล้ว ในห้วงแวบเดียวของความอยากรู้เราสามารถหาได้มาง่ายกว่าในอดีตที่ต้องไปห้องสมุดไปคัดลอก หรือ จ้างเขาโรเนียวกลับบ้านมาอ่านมาตัดต่อ มาตัดแล้วเอาแป้งเปียกมาแปะ สบายกว่ากันเยอะเลย
   แต่ปัญหาของสะพั่งก็มีเนื่องจากว่า ผมได้เก็บข้อมูลต่างๆที่ตนสนใจไว้เยอะมากด้วยความโลภและยังยึดติดว่าเป็นของกู ยังมีอัตตาสูง จึงทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้เก็บไว้ รวมทั้งรูปโป๊ หรือคลิปโป๊ ด้วยกลายเป็นขยะในโลกสมัยนิวเวฟไปซะแล้วและที่แน่ๆมันจะปวดหัวมากขึ้นเวลาที่ต้องการจะใช้ข้อมูลตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมาหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา เพราะมันจะไม่รู้อยู่ว่าที่เราต้องการมันจะอยู่ที่แผ่นไหน และอยู่ในโฟลเดอร์ชื่ออะไร แต่แล้วก็ต้องมาเซริจเอาใหม่ ก็เป็นอันว่าไอ้ที่เก็บไว้เก่าๆก็เลยเป็นของเก็บมีไว้เพื่อเก็บ แค่นั้น
   สะพั่งเอ๋ยสะพั่ง นึกแล้วโลกนี้มันก็บ้าพอสมควร ในสังคม ในทีวี ต่อหน้าคน ทุกคนจะกรีดกรายเฉิดฉาย ดัดเสียงพูด ประดับประดา ฉาบแต่งโรยผักชีเสียซะเต็มประดา เพื่อเพียงให้เขารู้ว่า เป็นคนมีเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ร่ำรวย เลิศหรู มาตรฐานการครองชีพสูง ความรู้สูง มีเงิน เป็นคนดี หลายร้อยแปดพันประการ จะไปว่าพวกเขามากก็ไม่ได้ เขาก็จะต่อว่าเราเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว หรือพวกอิจฉาตาร้อน ไปๆมาๆก็อาจจะเยาะเราเล่นว่า เราเป็นพวกหนอนในเวจ ที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปกระมัง แล้วทำไมเวลาเราจะต่อล้อต่อเถียงเราก็ไม่เคยจะชนะคะคานเขาได้สักที แม้แต่เมียและลูกของตน หรือเพื่อนบ้านข้างบ้านเวลาที่ทะเลาะกันทีไรผมก็ไม่เคยจะชนะเขาได้สักที
   ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่สอนให้คนอดทนอดกลั้น ยอมรับในความพ่ายแพ้และปลงใจให้สงบทนอยู่ได้อย่างสันติ และจะเหมาะสมแน่ละหรือหากต้องเสียเปรียบอยู่เรื่อยๆไป โดยคิดว่าเป็นเวรกรรมที่ต้องชดใช้ในชาตินี้เพื่อใช้หนี้ในชาติที่แล้ว 
   ผมเห็นการทำงานของข้าราชการยกตัวอย่างเช่น หน้าที่ต้องไปรบ แต่ก็กลับไม่ได้ไปรบ แต่ดันไปทำอย่างอื่น เป็นต้น อันนี้เป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด หรือการบริหารงานที่ละเลยคนมุ่งมั่นในการทำงานขึ้นมาคุมงาน แต่ก็ทำไปแล้ว ผม สะพั่งนั่งคิดไปเครียดไป สมองที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่ล้วนไร้สาระทั้งสิ้น เมื่อเครียดทีก็จะลุกไปหาน้ำเย็นๆดื่มให้ชื่นใจพักผ่อนสักพักเมื่อพร้อมแล้วก็มานั่งประจำหน้าจอต่อ 
  วันเวลาจากไปอย่างโบยบินในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี  มันช่างปรู๊ดปร๊าดว่องไวยิ่งกว่าลมพายุทอนาโดเสียอีก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือความอยาก หรือ กามฉันทะ ที่เป็นเรื่องที่ละเอียดยิ่งที่จะเข้าใจ แต่เมื่อใดที่หากเข้าใจได้อย่างถ่องแท้แล้วเมื่อนั้นแหละก็จะสามารถละได้อย่างแท้จริงเมื่อนั้น คิดได้แค่นี้ ก็หัวเราะเคี๊ยกๆอีก ทำเป็นเก่งอีกแล้ว นึกไปนึกมาก็เหมือนกับการเชียร์ฟุตบอลไทย คนเชียร์ตะโกนลั่นให้นักฟุตบอลทำอย่างโน้นอย่างนี้ หากลองให้คนเชียร์ลงไปวิ่งหน้าบานบ้าง วิ่งไปกลับมารอบเดียวคงยกมือขอให้เปลี่ยนตัวมาเล่นแทนซะมากกว่า 
   สะพั่งย้อนนึกไปถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่มีดีกรีเป็นถึงด๊อกเตอร์ ซึ่งมีคำนิยมว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่มีสาระ มีแต่สัพเพกับเหระ คือบางทีที่ประเทศเราเป็นแบบนี้บางทีนะครับ ในแง่คิดของพั่งคิดว่า อาจเนื่องมาจากการที่พยายามจะกระทำให้ทุกเรื่องมีสาระก็เป็นได้ ยกตัวอย่างการเซ็นเซ่อในหนัง แค่ยกแก้วเหล้าดื่มก็ไม่เห็นอะไรแล้ว จุดนี้เองครับ ในแง่ของผู้ที่มักใหญ่ใฝ่สูงและใฝ่ชื่อเสียงลาภยศ มักจะเสแสร้งแกล้งดัดให้คนอื่นเห็นของดี ดี และปกปิดความไม่ดี ชื่อเสียงชั่วร้ายเอาไว้ หรือความละโมภคดโกงหรือขยะแขยงโสมาป่าเถื่อนเอาไว้อย่างสุดๆ 
   ยอมรับครับว่า ผมมีความสุขกับเรื่องราวที่ไร้สาระอย่างบ้าคลั่ง สะพั่งสะดุ้ง ลืมตัวอีกแล้วนึกไปอีกแล้วว่าตนเองเก่ง ตนเองดีเลิศ ตัวเองเป็นคนชั้นสูง ตนเองสูงส่ง ถึงบรรทัดสุดท้ายอีกแล้ว ว่าถ้าตัวอย่างที่คิดว่าดียังทำตัวแบบที่ไม่เห็นลับหลัง และยังหน้าไหว้แบบนี้ คนที่มีสาระทั้งวันอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเนี่ย จะเรียกว่าเป็นตัวอะไรดี สำหรับผม ผมไม่มีสาระอยูแล้วครับทุกๆวัน				
30 มีนาคม 2551 22:36 น.

ไม่มีสาระคือแก่นแท้ของเรื่องนี้

สะพั่งสะท้านไมภพ

ไม่มีสาระอะไรเลยหรือนี่
   ผม สะพั่ง ก็รู้ตัวดีว่าการที่ได้เปิดเว็บโป๊ดูเนี่ยมันไม่ได้สาระอะไร แต่นึกๆไปอีกทีถ้ามีอินเตอร์เน็ตแล้วไม่เปิดรูปโป๊ หรือ คลิปโป๊ ดู เนี่ย แล้วมันจะลงทุนเสียตังค์ซื้อมาทำพระแสงอะไร สะพั่งยักไหล่แล้วหัวเราะเคี๊ยกๆ ยังคงหมกมุ่นวุ่นวายกับภาพลามกจกเปรตอยู่ 
   ในช่วงแวบหนึ่งของความอยากรู้ เขาได้ลองใช้เซริจเอ็นจิ้น หลายๆตัวลองค้นหาเรื่องราวที่สะพั่งสนใจ ยกตัวอย่างเช่น พลนิกรกิมหงวน ก็เจอข้อมูลเป็นแผ่นๆ จะเรียกเป็นเข่งๆแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วเพราะว่าสมัยนี้อะไรๆก็อยู่ในดีวีดีขนาดสี่จุดห้าจิ๊กกะไบท์ได้แล้ว ในห้วงแวบเดียวของความอยากรู้เราสามารถหาได้มาง่ายกว่าในอดีตที่ต้องไปห้องสมุดไปคัดลอก หรือ จ้างเขาโรเนียวกลับบ้านมาอ่านมาตัดต่อ มาตัดแล้วเอาแป้งเปียกมาแปะ สบายกว่ากันเยอะเลย
   แต่ปัญหาของสะพั่งก็มีเนื่องจากว่า ผมได้เก็บข้อมูลต่างๆที่ตนสนใจไว้เยอะมากด้วยความโลภและยังยึดติดว่าเป็นของกู ยังมีอัตตาสูง จึงทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้เก็บไว้ รวมทั้งรูปโป๊ หรือคลิปโป๊ ด้วยกลายเป็นขยะในโลกสมัยนิวเวฟไปซะแล้วและที่แน่ๆมันจะปวดหัวมากขึ้นเวลาที่ต้องการจะใช้ข้อมูลตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมาหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา เพราะมันจะไม่รู้อยู่ว่าที่เราต้องการมันจะอยู่ที่แผ่นไหน และอยู่ในโฟลเดอร์ชื่ออะไร แต่แล้วก็ต้องมาเซริจเอาใหม่ ก็เป็นอันว่าไอ้ที่เก็บไว้เก่าๆก็เลยเป็นของเก็บมีไว้เพื่อเก็บ แค่นั้น
   สะพั่งเอ๋ยสะพั่ง นึกแล้วโลกนี้มันก็บ้าพอสมควร ในสังคม ในทีวี ต่อหน้าคน ทุกคนจะกรีดกรายเฉิดฉาย ดัดเสียงพูด ประดับประดา ฉาบแต่งโรยผักชีเสียซะเต็มประดา เพื่อเพียงให้เขารู้ว่า เป็นคนมีเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ร่ำรวย เลิศหรู มาตรฐานการครองชีพสูง ความรู้สูง มีเงิน เป็นคนดี หลายร้อยแปดพันประการ จะไปว่าพวกเขามากก็ไม่ได้ เขาก็จะต่อว่าเราเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว หรือพวกอิจฉาตาร้อน ไปๆมาๆก็อาจจะเยาะเราเล่นว่า เราเป็นพวกหนอนในเวจ ที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปกระมัง แล้วทำไมเวลาเราจะต่อล้อต่อเถียงเราก็ไม่เคยจะชนะคะคานเขาได้สักที แม้แต่เมียและลูกของตน หรือเพื่อนบ้านข้างบ้านเวลาที่ทะเลาะกันทีไรผมก็ไม่เคยจะชนะเขาได้สักที
   ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่สอนให้คนอดทนอดกลั้น ยอมรับในความพ่ายแพ้และปลงใจให้สงบทนอยู่ได้อย่างสันติ และจะเหมาะสมแน่ละหรือหากต้องเสียเปรียบอยู่เรื่อยๆไป โดยคิดว่าเป็นเวรกรรมที่ต้องชดใช้ในชาตินี้เพื่อใช้หนี้ในชาติที่แล้ว 
   ผมเห็นการทำงานของข้าราชการยกตัวอย่างเช่น หน้าที่ต้องไปรบ แต่ก็กลับไม่ได้ไปรบ แต่ดันไปทำอย่างอื่น เป็นต้น อันนี้เป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด หรือการบริหารงานที่ละเลยคนมุ่งมั่นในการทำงานขึ้นมาคุมงาน แต่ก็ทำไปแล้ว ผม สะพั่งนั่งคิดไปเครียดไป สมองที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่ล้วนไร้สาระทั้งสิ้น เมื่อเครียดทีก็จะลุกไปหาน้ำเย็นๆดื่มให้ชื่นใจพักผ่อนสักพักเมื่อพร้อมแล้วก็มานั่งประจำหน้าจอต่อ 
  วันเวลาจากไปอย่างโบยบินในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี  มันช่างปรู๊ดปร๊าดว่องไวยิ่งกว่าลมพายุทอนาโดเสียอีก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือความอยาก หรือ กามฉันทะ ที่เป็นเรื่องที่ละเอียดยิ่งที่จะเข้าใจ แต่เมื่อใดที่หากเข้าใจได้อย่างถ่องแท้แล้วเมื่อนั้นแหละก็จะสามารถละได้อย่างแท้จริงเมื่อนั้น คิดได้แค่นี้ ก็หัวเราะเคี๊ยกๆอีก ทำเป็นเก่งอีกแล้ว นึกไปนึกมาก็เหมือนกับการเชียร์ฟุตบอลไทย คนเชียร์ตะโกนลั่นให้นักฟุตบอลทำอย่างโน้นอย่างนี้ หากลองให้คนเชียร์ลงไปวิ่งหน้าบานบ้าง วิ่งไปกลับมารอบเดียวคงยกมือขอให้เปลี่ยนตัวมาเล่นแทนซะมากกว่า 
   สะพั่งย้อนนึกไปถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่มีดีกรีเป็นถึงด๊อกเตอร์ ซึ่งมีคำนิยมว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่มีสาระ มีแต่สัพเพกับเหระ คือบางทีที่ประเทศเราเป็นแบบนี้บางทีนะครับ ในแง่คิดของพั่งคิดว่า อาจเนื่องมาจากการที่พยายามจะกระทำให้ทุกเรื่องมีสาระก็เป็นได้ ยกตัวอย่างการเซ็นเซ่อในหนัง แค่ยกแก้วเหล้าดื่มก็ไม่เห็นอะไรแล้ว จุดนี้เองครับ ในแง่ของผู้ที่มักใหญ่ใฝ่สูงและใฝ่ชื่อเสียงลาภยศ มักจะเสแสร้งแกล้งดัดให้คนอื่นเห็นของดี ดี และปกปิดความไม่ดี ชื่อเสียงชั่วร้ายเอาไว้ หรือความละโมภคดโกงหรือขยะแขยงโสมาป่าเถื่อนเอาไว้อย่างสุดๆ 
   ยอมรับครับว่า ผมมีความสุขกับเรื่องราวที่ไร้สาระอย่างบ้าคลั่ง สะพั่งสะดุ้ง ลืมตัวอีกแล้วนึกไปอีกแล้วว่าตนเองเก่ง ตนเองดีเลิศ ตัวเองเป็นคนชั้นสูง ตนเองสูงส่ง ถึงบรรทัดสุดท้ายอีกแล้ว ว่าถ้าตัวอย่างที่คิดว่าดียังทำตัวแบบที่ไม่เห็นลับหลัง และยังหน้าไหว้แบบนี้ คนที่มีสาระทั้งวันอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเนี่ย จะเรียกว่าเป็นตัวอะไรดี สำหรับผม ผมไม่มีสาระอยูแล้วครับทุกๆวัน				
30 มีนาคม 2551 22:35 น.

แววตาจ้องสมองแล่น

สะพั่งสะท้านไมภพ

ไม่มีสาระอะไรเลยหรือนี่
   ผม สะพั่ง ก็รู้ตัวดีว่าการที่ได้เปิดเว็บโป๊ดูเนี่ยมันไม่ได้สาระอะไร แต่นึกๆไปอีกทีถ้ามีอินเตอร์เน็ตแล้วไม่เปิดรูปโป๊ หรือ คลิปโป๊ ดู เนี่ย แล้วมันจะลงทุนเสียตังค์ซื้อมาทำพระแสงอะไร สะพั่งยักไหล่แล้วหัวเราะเคี๊ยกๆ ยังคงหมกมุ่นวุ่นวายกับภาพลามกจกเปรตอยู่ 
   ในช่วงแวบหนึ่งของความอยากรู้ เขาได้ลองใช้เซริจเอ็นจิ้น หลายๆตัวลองค้นหาเรื่องราวที่สะพั่งสนใจ ยกตัวอย่างเช่น พลนิกรกิมหงวน ก็เจอข้อมูลเป็นแผ่นๆ จะเรียกเป็นเข่งๆแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วเพราะว่าสมัยนี้อะไรๆก็อยู่ในดีวีดีขนาดสี่จุดห้าจิ๊กกะไบท์ได้แล้ว ในห้วงแวบเดียวของความอยากรู้เราสามารถหาได้มาง่ายกว่าในอดีตที่ต้องไปห้องสมุดไปคัดลอก หรือ จ้างเขาโรเนียวกลับบ้านมาอ่านมาตัดต่อ มาตัดแล้วเอาแป้งเปียกมาแปะ สบายกว่ากันเยอะเลย
   แต่ปัญหาของสะพั่งก็มีเนื่องจากว่า ผมได้เก็บข้อมูลต่างๆที่ตนสนใจไว้เยอะมากด้วยความโลภและยังยึดติดว่าเป็นของกู ยังมีอัตตาสูง จึงทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้เก็บไว้ รวมทั้งรูปโป๊ หรือคลิปโป๊ ด้วยกลายเป็นขยะในโลกสมัยนิวเวฟไปซะแล้วและที่แน่ๆมันจะปวดหัวมากขึ้นเวลาที่ต้องการจะใช้ข้อมูลตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมาหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา เพราะมันจะไม่รู้อยู่ว่าที่เราต้องการมันจะอยู่ที่แผ่นไหน และอยู่ในโฟลเดอร์ชื่ออะไร แต่แล้วก็ต้องมาเซริจเอาใหม่ ก็เป็นอันว่าไอ้ที่เก็บไว้เก่าๆก็เลยเป็นของเก็บมีไว้เพื่อเก็บ แค่นั้น
   สะพั่งเอ๋ยสะพั่ง นึกแล้วโลกนี้มันก็บ้าพอสมควร ในสังคม ในทีวี ต่อหน้าคน ทุกคนจะกรีดกรายเฉิดฉาย ดัดเสียงพูด ประดับประดา ฉาบแต่งโรยผักชีเสียซะเต็มประดา เพื่อเพียงให้เขารู้ว่า เป็นคนมีเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ร่ำรวย เลิศหรู มาตรฐานการครองชีพสูง ความรู้สูง มีเงิน เป็นคนดี หลายร้อยแปดพันประการ จะไปว่าพวกเขามากก็ไม่ได้ เขาก็จะต่อว่าเราเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว หรือพวกอิจฉาตาร้อน ไปๆมาๆก็อาจจะเยาะเราเล่นว่า เราเป็นพวกหนอนในเวจ ที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปกระมัง แล้วทำไมเวลาเราจะต่อล้อต่อเถียงเราก็ไม่เคยจะชนะคะคานเขาได้สักที แม้แต่เมียและลูกของตน หรือเพื่อนบ้านข้างบ้านเวลาที่ทะเลาะกันทีไรผมก็ไม่เคยจะชนะเขาได้สักที
   ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่สอนให้คนอดทนอดกลั้น ยอมรับในความพ่ายแพ้และปลงใจให้สงบทนอยู่ได้อย่างสันติ และจะเหมาะสมแน่ละหรือหากต้องเสียเปรียบอยู่เรื่อยๆไป โดยคิดว่าเป็นเวรกรรมที่ต้องชดใช้ในชาตินี้เพื่อใช้หนี้ในชาติที่แล้ว 
   ผมเห็นการทำงานของข้าราชการยกตัวอย่างเช่น หน้าที่ต้องไปรบ แต่ก็กลับไม่ได้ไปรบ แต่ดันไปทำอย่างอื่น เป็นต้น อันนี้เป็นตัวอย่างที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด หรือการบริหารงานที่ละเลยคนมุ่งมั่นในการทำงานขึ้นมาคุมงาน แต่ก็ทำไปแล้ว ผม สะพั่งนั่งคิดไปเครียดไป สมองที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่ล้วนไร้สาระทั้งสิ้น เมื่อเครียดทีก็จะลุกไปหาน้ำเย็นๆดื่มให้ชื่นใจพักผ่อนสักพักเมื่อพร้อมแล้วก็มานั่งประจำหน้าจอต่อ 
  วันเวลาจากไปอย่างโบยบินในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี  มันช่างปรู๊ดปร๊าดว่องไวยิ่งกว่าลมพายุทอนาโดเสียอีก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือความอยาก หรือ กามฉันทะ ที่เป็นเรื่องที่ละเอียดยิ่งที่จะเข้าใจ แต่เมื่อใดที่หากเข้าใจได้อย่างถ่องแท้แล้วเมื่อนั้นแหละก็จะสามารถละได้อย่างแท้จริงเมื่อนั้น คิดได้แค่นี้ ก็หัวเราะเคี๊ยกๆอีก ทำเป็นเก่งอีกแล้ว นึกไปนึกมาก็เหมือนกับการเชียร์ฟุตบอลไทย คนเชียร์ตะโกนลั่นให้นักฟุตบอลทำอย่างโน้นอย่างนี้ หากลองให้คนเชียร์ลงไปวิ่งหน้าบานบ้าง วิ่งไปกลับมารอบเดียวคงยกมือขอให้เปลี่ยนตัวมาเล่นแทนซะมากกว่า 
   สะพั่งย้อนนึกไปถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่มีดีกรีเป็นถึงด๊อกเตอร์ ซึ่งมีคำนิยมว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่มีสาระ มีแต่สัพเพกับเหระ คือบางทีที่ประเทศเราเป็นแบบนี้บางทีนะครับ ในแง่คิดของพั่งคิดว่า อาจเนื่องมาจากการที่พยายามจะกระทำให้ทุกเรื่องมีสาระก็เป็นได้ ยกตัวอย่างการเซ็นเซ่อในหนัง แค่ยกแก้วเหล้าดื่มก็ไม่เห็นอะไรแล้ว จุดนี้เองครับ ในแง่ของผู้ที่มักใหญ่ใฝ่สูงและใฝ่ชื่อเสียงลาภยศ มักจะเสแสร้งแกล้งดัดให้คนอื่นเห็นของดี ดี และปกปิดความไม่ดี ชื่อเสียงชั่วร้ายเอาไว้ หรือความละโมภคดโกงหรือขยะแขยงโสมาป่าเถื่อนเอาไว้อย่างสุดๆ 
   ยอมรับครับว่า ผมมีความสุขกับเรื่องราวที่ไร้สาระอย่างบ้าคลั่ง สะพั่งสะดุ้ง ลืมตัวอีกแล้วนึกไปอีกแล้วว่าตนเองเก่ง ตนเองดีเลิศ ตัวเองเป็นคนชั้นสูง ตนเองสูงส่ง ถึงบรรทัดสุดท้ายอีกแล้ว ว่าถ้าตัวอย่างที่คิดว่าดียังทำตัวแบบที่ไม่เห็นลับหลัง และยังหน้าไหว้แบบนี้ คนที่มีสาระทั้งวันอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเนี่ย จะเรียกว่าเป็นตัวอะไรดี สำหรับผม ผมไม่มีสาระอยูแล้วครับทุกๆวัน				
28 มีนาคม 2551 21:33 น.

ความแตกต่างจากความแปรเปลี่ยน

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมก้มลงมองดูเสื้อตาไอ้เข้อ้าปากราคาแพงลิบลิ่ว กับ กางเกงจับหมูที่สำหรับใส่ตอนนอน ผมยักไหล่ บางครั้งความแปลกของผมเองมันก็มักจะปรากฏให้เห็นภายนอกได้เสมอ หากใครสักคนจะสะกิดคิดเห็นถึงความแปลกแตกต่างนี้ได้ แต่ทว่าคงจะยากสักหน่อย เพราะบ้านเมืองในปัจจุบันมันทุรยศมากยิ่งกว่ายุคใดๆที่ผ่านมา บางครั้งผมสะพั่งก็อดคิดไม่ได้ว่ามันก็เหมือนแบบเดิม แต่กระผมยิ่งคิดแล้วยิ่งมั่นใจว่าไม่ใช่แน่นอน
   การออกไปนอกบ้าน บางครั้งก็เห็นแววตาหน้าตาโรยหมองๆและเหี่ยวแห้งของเพื่อนพี่น้องประชาชนชาวบ้านตามที่ต่างๆ เห็นการเอารัดเอาเปรียบกันเล็กๆน้อยๆ หากไม่พิจารณาก็บ่นด่ากันไปตามอารมณ์ที่ต่างคนต่างไม่ดีอยู่แล้วของแต่ละฝ่าย
   ผมอดไม่ได้ที่จะกระทำการช่วยเหลือ ช่วยซื้อ แต่ทว่าผลที่ได้รับกลับมากลับไม่ใช่ความปลาบปลื้มประโลมใจแต่กลับเห็นความเอารัดเอาเปรียบทุกท่าที่มีโอกาส
ไม่เว้นแม้แต่นางหมอนวดแผนโบราณ ที่เห็นว่าโอกาสย่อมมีคุณค่ากว่าน้ำใจ สายตาและปากของผมอาจจะไม่นำพา แต่ว่าสมองและวิญญานของผมได้บันทึกการกระทำตอบสนองให้แก่ผมไว้แล้ว 
   ผมหัวเราะตัวเองที่ยังโง่งมเหมือนเดิม  แต่พอผมจะทำไม่โง่บ้างก็จะโดนกล่าวหาอีกว่า เขี้ยว หรือ โกง หรือ เจ้าเล่ห์ หรือถ้าไม่กล้าพอก็ต้องโง่ซื่อเซ่อตามเดิม
   ผมมัวแต่มองดูหน้าตาชาวบ้านที่อิดโรยฉายแววเศร้าสร้อย แต่ฉับพลันทันใดนั้นก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า หน้าตาผมเองก็เหี่ยวแห้งสายตาไร้แววแห่งความหวังที่ไกลแสนไกลเหลือเกินและไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอกันหรือเปล่า แต่ทว่าสิ่งที่ไม่มีมานานก็คือรอยยิ้ม และจิตใจที่เมตตาปราณี
   ผมเห็นพี่บางคนกำลังร้อนรนในเรื่องความก้าวหน้าในชีวิตรับราชการ ผมก็ได้เรียนชี้แจงพี่ท่านไปว่า ผมเองก็คงเป็นแบบพี่ในอนาคต ไม่รู้ว่าจิตใจจะทนรับไหวไหมกับการเห็นคนอื่นเขาเจริญก้าวหน้าไปไกล 
   ผมในตอนนี้ไม่อยากคิดเรื่องใดๆนอกจากเรื่องปากท้องของกระผมเอง ที่ผ่านมาผมได้รับใช้ชาติมากจนเกินไปแล้ว หากในเรื่องของยศฐาบรรดาศักดิ์ หากตนเองไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะหามาได้ด้วยตนเองแล้ว ก็ช่างหัวมันก็รับไว้เท่าที่มี แต่ถ้าหากดึงดื้อถือดีว่าตนเองมีสติปัญญาดีจริงแล้วก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ในทุกเรื่อง ในเรื่องราวของพงศาวดารจีน มีมากไปที่คนมีสติปัญญาแต่ว่าไม่มีวาสนาบารมีพอที่จะได้ความเจริญก้าวหน้าทางราชการ 
    อากาศช่างแปรปรวนนัก มืดคลื้มทุกวันเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวฝนตก หากเป็นในสมัยโบราณเขาก็จะกล่าวกันว่าน่าจะมีเรื่องที่ไม่เป็นมงคลเกิดขึ้นกับแผ่นดิน  ผมนึกถึงคนเชียร์มวยกับคนเชียร์ฟุตบอล ลองถ้าให้เล่นเองละก็แป๊บเดียวคงเจ๊ง แต่ถ้าเชียร์ละก็รู้ดีเก่งจนลืมตัวทีเดียว
   ในวันหนึ่งผมนึกอยากจะดื่มเบียร์และสูบบุหรี่ ก็ได้เข้าไปในสถานที่ที่ไม่พึงโคจร สามขวดเบียร์ สาวสองคน หมดไปหลายเงิน หลังจากกลับบ้าน ทรมานกับการเมา ทรมานกับการเสียสตังค์ เครียดกับเรื่องเงินๆทองๆ ด้วยความยั้งคิดขาดหายไป 
   ผมตั้งใจว่าต่อไปจะไม่ดื่มเบียร์และเหล้าอีกต่อไป แต่ก็ยังอยากๆอยู่
   ความเปลี่ยนแปลงของจิตใจคนในระดับรากแก้วหรือรากหญ้า การเห็นแก่ได้ของคนละโมภโลภมาก ความหยิ่งผยองของคนที่ใส้เน่า ความเชิดหยิ่งหรูเริดที่ไม่ได้เกิดจากของดีจริงๆแต่เกิดจากการแสร้งกระทำให้คนดู ดูละครกันมากเกินไปหรือเปล่า แต่ทว่าในชีวิตจริงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมันพิลึกกว่าที่จะนำมาตีแผ่ออกมาเป็นละครได้เพราะว่ามันโหดสุดๆ มันเลวร้ายสุดๆ มันบ้าสุดๆ และมันลามกจกเปรตสุดๆ สิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่ผิวๆเท่านั้น
   คนก็ยังจ้องฟังราคาน้ามัน ราคาทอง ราคาหมู ราคาผัดพืช แต่ทว่า เคยมองไหมว่าราคาของจิตใจของเรามันเป็นอย่างไร
   สำหรับของผมมีทั้งตกและมีทั้งขึ้นมีทั้งเลวและมีทั้งดี 
   เรื่องสั้นบางเรื่องอาจจะโรแมนติกส์ แต่สำหรับผมแล้วติกส์ไม่ออกเพราะว่า ยังมีความลำบากตรากตรำยืนยิ้มต้อนรับอยู่ข้างหน้า 
    การก้าวไปข้างหน้า อดทนตรากตรำ ทำใจ ยังคงต้องใช้อยู่ นึกถึงคำพูดตอนเด็กๆได้ประโยคหนึ่งว่า มีกลางวันต้องมีกลางคืน มีมืดก็ต้องมีสว่าง แต่ในปัจจุบันหากเมื่อใดมีแต่กลางวันไม่มีกลางคืนเมื่อนั้นก็คงจบ
   โปรดติดตามต่อในโลกอื่น				
21 มีนาคม 2551 21:42 น.

นึกถึงบรรพบุรุษ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมนั่งบนรถเมล์ที่ควบมุ่งหน้าไปทางยูเนียนมอลตรงข้ามห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ทว่าพอถึงแยกรถเมล์คันนั้นก็เลี้ยวซ้ายออกไปทางวิภาวดี ผมนั่งหัวเราะในใจเอาอีกแล้วสะพั่งเอาอีกแล้วนั่งรถหลงอีกแล้ว นี่ขนาดป้ายเดียวนะนี่ ออกนอกวงโคจรอีกแล้ว ผม สะพั่ง ยักไหล่ด้วยความเคยชิน หากจะว่าไปชีวิตของผมมันก็พยายามจะมีสาระให้มาก แต่ทว่าทุกสิ่งที่ผ่านมาที่ดูเหมือนว่าจะมีสาระแต่จริงๆแล้วล้วนมีแต่สัพเพกับเหระ มักไม่ค่อยมีสาระ ดังนั้นหากวันนี้จะไม่มีสาระอีกวันหนึ่งในหลายๆหมื่นวันของชีวิต มันก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดแต่ประการใด 
   เมื่อมาถึงตอนนี้เป้าหมายต่อไป แม้ว่าจะไปยูเนียนมอลเพื่อไปดูหาซื้อดีวีดีภาพยนตร์ แต่เมื่อต้องไปทางนี้แล้วก็ไปไอทีสแคว์ก็แล้วกัน มีทุกๆอย่างเหมือนกัน นี่ก็เป็นสถานที่ในจำนวนหลายๆที่ๆผมจะพยายามไม่ไป คือจะพยายามจะไปที่อื่นบ้าง แต่ก็ไปไม่รอดต้องมาโดยไม่ตั้งใจเสมอ 
   ในใจของผมตอนนี้นึกไปถึงตอนที่เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ถามผมว่ายังคงทำงานที่เดิมอยู่หรือเปล่า ผมในตอนนี้ไม่ได้นึกอย่างอื่นแต่ตอบไปด้วยความรื่นเริงอย่างแท้จริง 
    คือในตอนนี้ผมมีธุรกิจเด็กๆในชีวิตประจำวัน และสร้างความก้าวหน้าด้วยปัญญาความคิดในแต่ละวัน ถึงจะประสบความสำเร็จๆของผมไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ได้เงินมาสักสามร้อยบาทต่อวัน ซึ่งในตอนนี้ผมได้นั่งรถผ่านทั้งคนซื้อและคนขาย และที่น่าตกใจก็คือ นัยน์ตาของคนขายมีแววหรือฉายแววมีความสุขมากกว่าคนซื้อ 
    ผมหันกลับมานั่งคิดถึงตัวตนของผม ผมเองเพียงแต่เห็นพ่อผมเป็นข้าราชการแล้วตนเองก็อยากจะเป็นเหมือนพ่อ ๆที่ทำงานเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพียงเพื่อคำว่าหน้าที่และวินัย และก็ไม่เคยเลยจะมีเงินพอที่จะมีชีวิตที่สะดวกสะบาย ตรงกับข้ามกับเต็มไปด้วยหนี้สินที่เกิดขึ้นเฉพาะกับการแก้ปัญหาของครอบครัวเท่านั้นยังไม่นับหนี้สินที่เกิดจากการสังคม กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือเที่ยวผู้หญิง หรือเล่นการพนัน
   เมื่อผมมาเป็นข้าราชการแบบพ่อผม ผมก็ตั้งใจจะทำงานด้วยความตั้งใจ แต่ทว่าแม้จะทำดีอย่างไร แม้จะคิดทำเพื่อประโยชน์อย่างใดแต่การทำความดีก็คงได้แต่ความดีอย่างเป็นสัจธรรม
   ผมไม่เคยเลยที่จะตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ของธนาคารได้อย่างมีความสุขเหมือนดังในปัจจุบัน ในเรื่องของสมุดบัญชี ที่มีตัวเลขเงินเข้าจากการทำการค้าขายของผมแบบส่วนตัวทุกวัน
   ผมนึกได้มาเลยว่า อันที่จริงตระกูลของผมก็เป็นพ่อค้ามาก่อน จะมีพ่อและลุงอีกคนเท่านั้นที่ดันทะลึ่งมาเป็นข้าราชการ ที่ถูกประชาชนตราหน้าว่ากินเงินภาษีของเขา ผมก็เข้าใจอีกว่าทำไมพวกข้าราชการถึงต้องเช้าชามเย็นชาม
   ผมสงสารประชาชนที่แต่ละคนหน้าตาซีดเซียว สายตาส่อแววประกายตาแบบไร้ความหวัง และรอยเส้นต่างๆบนใบหน้าที่ปรากฏ ผมพยายามช่วยเหลือเล็กน้อยช่วยซื้อ ช่วยให้กำลังใจเท่าที่ทำได้เพื่อให้เขามีกำลังใจ แต่ผมเองก็กำลังจะแย่กว่าเขาเหมือนกัน
    สิ่งที่พบเห็นน่าตกใจยิ่งกว่า สภาพในปัจจุบันนี้ได้บีบคั้นให้คนระดับรากหญ้าอย่าเรียกว่ารากแก้วเลยมันทุเรศ นั้นต่างก็ชิงความได้เปรียบหรือเอารัดเอาเปรียบในทุกเรื่อง เพื่อเพียงแค่อย่างน้อยได้สิ่งที่ตนเองต้องการได้ ที่ได้มาอย่างง่าย เพราะอย่างอื่นที่อยากได้เช่น การถูกหวย การมีเงิน หรืออะไรต่างๆที่ชอบมันมักจะได้มาได้ยาก แต่สิ่งที่ไม่อยากได้มันมักจะได้มาได้อย่างง่ายๆแบบไม่ต้องร้องขอ หรือไม่กล้าเพียงแต่จะนึก
   ผมช่วยแล้ว อย่างน้อยจิตใจก็ผมก็พยายามจะช่วยเหลือทุกคนเท่าที่จะทำได้ และสิ่งที่อยากจะได้ ผมได้สรุปออกมาแล้วว่า จะได้มาอย่างไร คือถ้าเรามั่นใจในสติปัญญาของเราว่าสามารถจริง เราก็ต้องใช้สติปัญญาของเราให้สามารถได้จริงๆ เช่น การหาเงินเป็นต้น หรือการรับราชการให้ก้าวหน้าเป็นต้น แต่ต้องเข้าใจว่าการรับราชการนั้นแม้ว่าจะมีสติปัญญาเพียงใดก็ใช่ว่าจะเป็นตัวชี้ว่าจะทำให้รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า แต่ว่าต้องขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีด้วย 
   นึกย้อนไปในเรื่องพงศาวดารจีนทุกๆเรื่องที่ได้อ่านผ่านมา มาถึงวันนี้เพิ่งได้คิดว่าจริงตามนั้นทุกประการ 
   เป็นพ่อค้าน่าจะแฮปปี้ที่สุดในขณะนี้ บรรพบุรุษของผมที่ตอนนี้อยู่สรวงสวรรค์เป็นส่วนมากในตอนนี้คงปรบมือชอบใจเป็นการใหญ่ ผมนึกเอาเอง และคาดว่าผมคงคาดเดาไม่ผิด				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ