15 มิถุนายน 2551 17:16 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
เมฆครึ้มมืดมัวหมองหม่น
คนทนรับแดดแผดเผา
เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนทนเอา
ใครเล่าทำคนลงคอ
ฟ้าร้องผ่าเปรี้ยงฝนซัด
กลับจัดสะบัดร้อนเหลือขอ
ครั่นเนื้อตะครอตัวแสบคอ
โอ้แม่พ่อเพน้าพนอลูบกาย
แม้นอกจะบ้าพายุโหม
น้ำจู่โจมท่วมเรือนนาหาย
แผ่นดินไหวซึนามิจอมทำลาย
แต่มิอาจจะทลายสายใยครัว
เฝ้าปลอบลูกเอ๋ยอย่าห่วง
ต้องลุล่วงปลอดโปร่งแน่นะทูนหัว
แม้กายป่วยจิตยังใสไม่ควรกลัว
ไม่หม่นมั่วด้วยจิตใจในคิดดี
8 มิถุนายน 2551 14:37 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
สุนัขเก่ารีบวิ่งนำเดินหน้า
ไอ้หมาช่างรู้ช่างขบขัน
เอ๊ะนี่มันรู้ได้อย่างไรกัน
ว่าฉันจะเดินไปไหน
ตัวเก่าตายตัวใหม่มาเอะแปลก
ทำไมมันทำตามกันได้
เอ๊ะหรือมันสอนกันไว้
เก่งจังเก่งจริงเก่งจัง
เวลาเป่าแตรมันก็เห่า
หกโมงเช้าและเย็นมันดันหอน
หรือว่าเห็นคนอื่นเขาก็ร้อง
เลยหอนตามเขาเอามัน
ผ่านไปยี่สิบเก้าปีเผลอแป๊บ
ไม่มีสุนัขตัวเก่า
ไม่มีขบวนเดินแม้แต่เงา
กลับเข้าสู่วังวนโลกธรรม
8 มิถุนายน 2551 04:38 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
เธอเดินเธอมองเธอวิ่ง
ฉันนิ่งฉันทนฉันเฉย
เธอลูบเธอไล้เธอเสบย
ฉันก็เฉยฉันมั่นคงฉันคงทน
รอยเลือดเก่ายังไม่ทันจาง
ลบล้างไม่ออกบนถนน
นี่เจ้ายังพามวลชน
ออกมาชนมาม้วยมรณา
กี่ครั้งที่เจ้าทำแบบนี้
ใช้ชีวีรากหญ้าอนาถา
สร้างลาภผลชื่อเสียงสร้างราคา
แก่พวกแก่หมู่แก่ตน
สพานเก่าสะอื้นกลืนกล้ำ
คลองน้ำเทเวศร์กำศรวล
นกกาเฝ้าร้องคร่ำครวญ
โหยหวนเยือกเย็นกายใจ,,,,
,,,,,ขอให้รากหญ้าทุกคนจงรอดจากวิกฤตครั้งนี้ด้วยเถิด
.....ขอให้พวกที่ชอบทำร้ายรากหญ้าเพียงเพื่อผลประโยชน์ของมันเองจงมีอันเป็นไป.....สาธุ