11 ธันวาคม 2550 09:45 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
เช้าขึ้นมาตีห้าเปิดรั้วเหล็ก
ตัวไม่เล็กคางคกมันรอออก
เปิดให้แล้วมันก็โดดป๊อกป๊อก
ร้องอ่อกอ่อกโดดไปทางขวามือ
พอเย็นค่ำคางคกก็กลับบ้าน
ไปทำงานกลับมาขออาศัย
มุดเข้าที่กระถางไม้คุ้มหลบภัย
ได้อาศัยร่มเย็นเป็นสุขดี
มาเย็นหนึ่งคกมันไม่โดดเข้า
ใจของเราก็ห่วงใยคำนึงถึง
คิดอะไรไปต่างต่างพรางรำพึง
ระลึกถึงเอาใจช่วย ให้รอดตาย
ตอนเช้ามืดตื่นขึ้นมาที่ไหนได้
คกตัวร้ายนั่งรอเข้าตาปริบปริบ
เปิดรั้วให้ก็โดดเข้าอย่างเร็วรีบ
คงถูกบีบจากตัวเมียเหมียนเหมียนกัน
11 ธันวาคม 2550 09:18 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
ตอนดับไฟพวกฉันก็ออกหากิน
ตามกลิ่นเศษอาหารตกหล่น
มดก็มาแข่งแย่งลุกลน
คนคนขึ้นนอนหมดแล้ว
แต่ทว่ายามดึกเงียบสงัด
แสงกลับส่องสว่างกระจ่างหน้า
ทั้งตีนมือไม้ทุบลงมา
พวกฉันหนาต้องบี้ต้องแบน
ทำประโยชน์ให้คนถึงอย่างนี้
ทำไมพี่ถึงทำพวกฉันได้
นึกถึงประโยชน์หน่อยเป็นไร
อยู่กันได้สบายสบายพอเพียง
ไม่ต้องมาปาณาฆ่าสัตว์
จ้องจะกัดจองเวรชาติหน้า
ทนทนหน่อยพอถึงเวลา
พวกฉันพากันเก็บตัวเงียบเอง
10 ธันวาคม 2550 12:12 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
จิ้งจกวิ่งเข้าหายืดหัว
ชูคอตัวตาแป๋วแจ่มใส
คนเห็นก็โยนข้าวให้ไป
มันก็ไซร้ข้าวกินอิ่มพี
นานวันเข้ากินเข้าไปมันก็อ้วน
ขาวสีนวลน่ารักกลมใส
ผิวผ่องท้องขาวนวลใย
กินเข้าไปกินได้กินดี
ยิ่งถ้าเป็นขนมเค๊กอร่อยอร่อย
มันก็ค่อยคลานเข้ามาเกือบชิดใกล้
บางครั้งก็เกาะตามขาเพื่อเตือนใจ
ว่าต้องให้อาหารแล้วนะคนดี
วันหนึ่งเปิดประตูมันวิ่งออก
อยากไปนอกบ้านมั่งแน่ฉันสงสัย
สักหลายวันก็วิ่งเข้ามาข้างใน
ไม่ไปไหนอีกแล้วจ๊ะเจ้านาย
8 ธันวาคม 2550 11:15 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
เจอหน้ากางเหงือกบานเบ่ง
รีดเร่งสีครีบสีหาง
สะบัดหางสะบัดครีบท่าทาง
ค่อยย่างค่อยเยื้องค่อยงับ
ได้ทีสะบัดหางเข้ากัด
ซ้ายฟัดหางตบฉกหัว
กัดซ้ายกัดขวาตามตัว
ซักพักอีกตัววิ่งวน
เดิมเข้มพอวิ่งตัวซีด
กระโจนดีดไล่กัดสนุกใหญ่
ตัวพ่ายก็ต้องว่ายวนหนีไป
เป็นไรชนเหลี่ยมเป๊งเป๊ง
ยามชนะก็ผยองพองขน
กางครีบตนกางหางหมั่นไส้
ยามแพ้เล่าสีนั้นซีดเซียวไป
มีตัวไหนอยู่ยั้งยืนยง
8 ธันวาคม 2550 11:04 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
หนูอุตสาหะขยันหากิน
แมวได้ยินวิ่งไล่กินจับหนู
หนูหนีแมวหนูก็วิ่งลงรู
แมวก็ดูเฝ้าหนูไม่จากไกล
โผล่หน้ามาก็เห็นแมวจ้องอยู่
ดูดู๋ตาแป๋วแสยงขน
ออกไปน่ากลัวตะปบตน
จำทนเก็บกักตัวในรู