18 ตุลาคม 2549 11:32 น.

บนถนนสีม่วง ตอน1

สองร่าง

ลูกของแม่.....

	ฉันเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ครอบครัวของเรามีทั้งหมด 5 คน มีพ่อ แม่ พี่ชาย ฉัน และน้องสาว แต่น่าเสียดายที่น้องสาวแสนน่ารักของฉันต้องมาจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควรด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ใช่มันทำให้เราทุกคนเศร้าแต่ก็เข้าใจในสัจธรรมที่ว่าคนเราย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ และตาย เป็นเรื่องที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เฉกเช่นเดียวกับที่ฉันเกิดมาไม่เหมือนคนทั่วไป ฉันเกิดมาด้วยร่างกายที่เป็นชายแต่มีใจเบี่ยงเบนไปแบบนี้ แต่ฉันก็โชคดีที่พ่อแม่และคนในครอบครัวเข้าใจในสิ่งที่ฉันเป็น ท่านไม่เคยอายหรือกลัวเสียหน้าที่มีลูกอย่างฉัน แต่จะมีคนอย่างฉันสักกี่คนที่ครอบครัวจะเข้าใจและเห็นใจอย่างนี้
	พ่อและแม่ของฉันรับราชการครูทั้งคู่ เรียกได้ว่าค่อนข้างมีหน้าตาในจังหวัดเล็กๆ ที่ฉันเรียกว่าบ้านเกิด แต่เรื่องที่ตรึงใจฉันมาถึงทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับแม่ของฉัน ซึ่งคิดทีไร ก็อยากจะย้อนกลับไปเพื่อแก้ไขเรื่องราวนั้นซึ่งถ้าหากแก้ได้ฉันคงเรียกตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจว่าฉันเป็นลูกที่ดีของท่าน มากกว่าที่เป็นทุกวันนี้....

เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
	แปลกนะที่แม่ของฉันไม่เคยด่าว่าในเรื่องที่ฉันเป็นกะเทย แต่เรื่องอื่นๆ นั้นน่ะ ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเวลาที่คุยกับท่านทำไม๊ ทำไมถึงพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง คุยกันได้ไม่ถึง สามคำก็มีอันต้องหันหลังเดินจากกันไปเสมอ
	พ่อของฉันมักพูดเสมอว่า ฉันเหมือนแม่ ไม่ใช่หน้าตาหรอกนะแต่หมายถึงนิสัยของฉันกับแม่ต่างหาก มีคำพูดหนึ่งของพ่อที่เคยบอกไว้ว่า ฉันกับแม่ก็เหมือนแม่เหล็กขั้วเดียวกัน ที่เวลาเจอกันก็รังแต่จะดันกันออกไปเสมอ เออมันก็จริงนะ แต่ก็แปลกเหมือนกันที่ฉันกับแม่ก็ไม่เคยทะเลาะกันนานข้ามคืนเลยสักครั้งเดียว
				
18 ตุลาคม 2549 11:27 น.

บนถนนสายสีม่วง ปฐมบท

สองร่าง

ลำนำของชีวิต....

	คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ และเลือกที่จะเป็นคนดีได้ ฉันคนนึง ที่ยอมรับและมองว่าประโยคนี้คือสัจธรรม 

	ชีวิตของฉันเกิดมาไม่ค่อยปกติ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงครอบครัวฉันพิการ หรือขาดความอบอุ่น แต่ความผิดปกติที่ว่ามันเกิดขึ้นจากตัวฉันเอง เกิดจากความรู้สึก อารมณ์ หรืออาจเพราะฮอร์โมนที่ผิดปกติในร่างกายของฉันต่างหาก......

	อีตุ๊ด, อีดูด, อีกะเทย คำพวกนี้ทำฉันเจ็บปวด จนชาชินกับมันมาตั้งแต่เด็กๆ และฉันก็เชื่อนะ ว่าพวกผู้ชายหลายๆ คนต้องเคยเรียกเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีลักษณะนิสัยอย่างฉันมาบ้างเหมือนกัน แล้วเป็นไงพอโตมาไอ้พวกผู้ชายบางคน ที่เคยดูถูกเหยียดหยามฉันก็กลับกลายเป็นผัวผู้ชายด้วยกันเอง หรือบางทีก็เป็นกะเทยอย่างพวกฉันไปซะงั้น มันจะต่างกันก็ตรงที่ มาเป็น มารู้จักธาตุแท้ของตัวเองเอาตอนแก่ ซึ่งฉันว่ามันน่าสมเพศกว่าฉันที่เปิดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ ซะอีก (เห็นแล้วขำ อยากจะหัวเราะออกมาเป็นมะม่วงซะจริง...ชิ)

	แต่เอาเถอะไม่ว่าฉันจะเป็นอะไร หรือใครๆ จะตราหน้าว่าฉันเป็นกะเทยแต่ฉันมั่นใจว่า ฉันเป็นคนดีของสังคม กตัญญูต่อบุพการี และที่สำคัญ หน้าที่การงานที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้มันก็น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่า คนอย่างฉันก็ประสบความสำเร็จในชีวิต และมีความสุขอย่างพอเพียงได้เหมือนกัน
							                                                                สองร่าง
				
2 ตุลาคม 2549 14:22 น.

ฝน

สองร่าง

ฝนก็คือความชุ่มฉ่ำของชีวิต แต่ก็มีหลาย ๆ ครั้งนะที่ชีวิตต้องเจ็บช้ำเปียกปอนเพราะฝน จนอ่อนล้าและเพลีย ฉันชอบนั่งดูฝนตก สูดกลิ่นอายดินที่ระอุขึ้นมาเวลาที่หยดฝนกระทบพื้นดินที่กำลังร้อน ฟังเสียงกบเขียดที่ร้องประสานเสียงน่าฟัง เสียงสายฝนกระทบสังกะสีดังแปลกหู และถ้าโชคดีเมื่อฝนหยุดฉันก็จะได้เห็นสายรุ้งหลากสีที่เริ่มต้นจากขอบฟ้าด้านหนึ่ง ลากยาวไปยังขอบฟ้าอีกด้าน แต่ก็นั่นล่ะ บางครั้งเสียงฝนและลมเย็นที่พัดผ่านมันก็ทำให้ฉันรู้สึกเหงาจับใจได้เช่นกัน เคยมั๊ยที่เวลาเหงา เศร้าหรือรู้สึกว่าไม่มีใคร ท้อใจอย่างที่สุด พลันก็มีเสียงฟ้าร้องและฝนก็ตกตามลงมา บรรยากาศเดิมๆ กับที่เคยสุข แต่ตอนนี้มันกลับสลดสุดขีด ชีวิตคนมันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
      ความรักกับฝนเทียบกันแล้วก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลย ในความคิดของฉันความรักทำให้เราสุขใจสุดชีวิต และทำให้เศร้าโศรกเต็มที่ ฝนก็เช่นกันเมื่อแห้งแล้งก็ต้องการฝนมาประทังพอให้อยู่รอดได้ แต่เมื่อน้ำท่วม ก็คิดว่ายอมแห้งแล้งอย่างเดิมซะยังดีกว่า ที่สุดแล้วมันคือความผิดของใครกัน ฝน ความรัก หรือว่าตัวเรา คิดแล้วตรองให้ถ้วนถี่ แล้วสักวันฉันคงจะใช้ชีวิตในโลกนี้อยู่กับฝนและความรักได้อย่างเป็นสุข....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสองร่าง
Lovings  สองร่าง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสองร่าง
Lovings  สองร่าง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสองร่าง
Lovings  สองร่าง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสองร่าง