11 มีนาคม 2550 17:43 น.
สวรรค์อักษรฯ
สักวาหน้าร้อนซ่อนความเหงา
พาใจเราร้อนรุ่มกลุ้มหนักหนา
หวนคำนึงถึงถิ่นที่จากมา
โอ้เวลาแปรไปไม่ใยดี
ลมกระทบผิวกายใจหวั่นหวั่น
ในชีวันก็รำพึงถึงน้องพี่
ดวงหน้าเจ้าพี่เฝ้าคิดทุกราตรี
ยามคนดีมีรอยยิ้มยิ้มช่างพริ้มพราย
เปรียบเสมือนดวงจันทร์ครั้นทรงกลด
ดูสวยสดคมขำตามแสงฉาย
ไม่มีเมฆาใดเข้ากล้ำกราย
เจ้าส่องแสงพร่างพรายในนภา
ตัวพี่นั้นเปรียบเป็นเช่นกระต่าย
คิดจะหมายเมียงมองจันทร์ส่องหล้า
ได้สัมผัสเพียงแสงแห่งจันทรา
อยากจะเอื้อมมือคว้า....ก็ไกลเอย
วันนี้คิดไม่ออกแล้วครับ เอาแค่ ๒ บทละกันนะครับ
วันหน้าจะมาแต่งต่อนะครับ ยังไงก็เข้ามาติชมกันบ้างนะ
26 กุมภาพันธ์ 2550 19:47 น.
สวรรค์อักษรฯ
กลอนบทนี้ผมแต่งขึ้นเมื่อวันวาเลนไทน์ปี 2546 นะครับ
เมฆาน้อยลอยคว้างกลางเวหา
เปรียบใจฉันลอยมาสู่จอมขวัญ
จะต้องรออีกนานเท่าใดกัน
เธอจะได้รับรักฉันนิรันดร
****ปล. ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษานะครับ ภาษาที่ได่ออกมาก็เลยยังไม่สละสลวยมากนัก แบบว่ายังอ่อนประสบการณ์อยู่ แต่ตอนนั้นถือว่าดีที่สุดของผมแล้ว เป็นกลอนบทที่ผมจำได้แม่นทีเดียว อ้อ ผมแต่งคู่ไว้กับภาษาอังกฤษนะครับไว้ว่างว่างจะเอาฉบับภาษาอังกฤษมาให้เปรียบเทียบกันดูนะครับ****