16 กรกฎาคม 2548 11:55 น.
สลักเสลา
ยามอ่อนล้าสิ้นแสงแห่งตะวัน
ยังมีจันทร์คืนรอยไว้คอยหา
ได้หลับฝันเคียงคู่สู่นิทรา
พาติดตาซาบซึ้งถึงทรวงใน
ล่องลอยตามความฝันวิมานแก้ว
ช่างเพริศแพร้วนำพาฟ้าสดใส
เส้นสายรุ้งพาดผ่านเปิดม่านใจ
หลงอยู่ในห้วงภวังค์ดังต้องมนต์
แสงสีทองทาทาบอาบทั่วฟ้า
ท้องนภาสว่างไสวไร้เมฆฝน
สุดขอบฟ้าแม้ไกลยังได้ยล
แสนสุขล้นหทัยปานใดเทียม
ขอติดตามหาฝันทุกวันคืน
เก็บรักชื่นล้นใจไว้เต็มเปี่ยม
เป็นความหวังก้าวไกลหัวใจเจียม
แม้ต้องเตรียมพลาดพลั้งไม่รั้งรอ
30 มิถุนายน 2548 10:32 น.
สลักเสลา
หอมจริงเอยเจ้าดอกมะลิซ้อน
กลิ่นขจรหอมซึ้งไปถึงไหน
ขาวสะอาดน่าชมภิรมย์ใจ
วางลงในอ่างแก้วแล้วชื่นบาน
หอมจริงเอยเจ้าดอกกระดังงา
เปรียบเหมือนว่าสาวน้อยร้อยความฝัน
ผิวบังอรเหลืองอร่ามงามดั่งจันทร์
ทุกคืนวันหอมกระจ่างช่างเย้ายวน
หอมจริงเอยเจ้าดอกกุหลาบขาว
มีก้านยาวดอกใหญ่อยู่ในสวน
ใช้เป็นสื่อความรักเพื่อชักชวน
บอกเนื้อนวลรักพิสุทธิ์ดุจดวงแด
หอมจริงเอยเจ้าดอกลีลาวดี
กลิ่นเจ้านี้ชื่นชวนรัญจวนแท้
ผ่านสัมผัสผิวกายผ่อนคลายแน่
ได้นอนแช่สดชื่นรื่นอารมณ์
หากหัวใจดวงนี้เปรียบดอกไม้
มีบ้างไหมนิยามความเหมาะสม
เป็นไม้หอมกลิ่นใดให้ชื่นชม
มีรื่นรมย์เหงาเศร้าคละเคล้ากัน
15 มิถุนายน 2548 11:33 น.
สลักเสลา
โชคชะตาบันดาลมาพานพบ
ให้ประสบรสหวานจากลานฝัน
มีโอกาสชื่นบานในวานวัน
ได้มีกันและกันปันดวงใจ
วาดภาพรักฝากใจคนในฝัน
สร้างผูกพันครั้งก่อนให้อ่อนไหว
พาตราตรึงซาบซึ้งถึงทรวงใน
ขอเก็บไว้ข้างใจให้ทุกข์คลาย
หากวันใดชะตามาพลัดพราก
จำต้องจากลาร้างและห่างหาย
สุดเหนี่ยวรั้งเคียงคู่อยู่ข้างกาย
ต้องเดียวดายเก็บกดหยดน้ำตา
ขอเพียงช่วงเวลามาหยิบยื่น
เก็บวันคืนร่วมกันใฝ่ฝันหา
นำความรักจริงใจมอบให้มา
มีดวงตาห่วงใยใส่ใจกัน
6 มิถุนายน 2548 10:52 น.
สลักเสลา
เพราะว่าเห็นเป็นเพื่อนเลื่อนมารัก
ได้รู้จักห้วงใจจึงไหวหวั่น
แม้เวลาผันผ่านเนิ่นนานวัน
ยิ่งผูกพันสนิทแนบอิงแอบใจ
หากวันนี้ภาพฝันพลันกลับกลาย
มาห่างหายลาลับและดับสูญ
ความในใจมิเหลือเคยเกื้อกูล
สุดอาดูรรันทดเก็บกดใน
แม้ตัวใกล้แต่ใจนั้นไกลห่าง
หมดหนทางสานฝันวันสดใส
ความมืดมิดเกาะกุมสุมภายใน
เพียงเพราะใจดื้อด้นค้นไม่เจอ
อาจเป็นเพราะน้ำคำย้ำสำนึก
ความรู้สึกหมดใจไร้รอยต่อ
สิ่งมีค่านับพันเพียรถักทอ
ยังไม่ก่อเยื่อใยสายสัมพันธ์