20 สิงหาคม 2554 23:57 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
ความหน้าใหญ่ใจโต มันมีอยู่ในใต้จิตสำนักของทุกคนหรือไม่ แต่หากทำแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อนมันก็พอทน การที่เราทำงานร่วมกับคนหมู่มาก มันย่อมหมายถึงการวางตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสงบโดยส่วนรวม แต่ถ้าหากจะมีใคร ที่เอาความหน้าใหญ่ใจโตของตนเองไปทำให้เสียถึงส่วนรวมแล้ว จะเรียกว่าอะไร
การยึดติดถือมั่นว่านี่คือกู โดยที่ไม่ยอมมองคนรอบข้างหรือสังคมรอบข้างว่าเป็นอย่างไร อยู่กับใคร อย่างนี้เรียกว่าอะไร การที่ไม่ยอมปรับตนเองให้เข้ากับส่วนรวม โดยยังรักษาความเป็น กู อยู่นั้น มันดีแล้วหรือสำหรับการอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก หากยังเป็นเช่นนั้นสมควรไหมที่จะอยู่คนเดียว โดยให้อยู่กับ ตัวกู ต่อไป
กาลเวลาผันร่างกายและมันสมองให้เติบใหญ่มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต มันน่าจะบ่งบอกได้ว่าสิ่งใดทำแล้วก่อให้เกิดผลดี และสิ่งใดก่อให้เกิดผลเสีย แล้วสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตนั้นมันมีเรื่องราวที่ดีมากน้อยแค่ไหน ในการเป็นแบบที่ กู เป็น หากเป็น ตัวกู อยู่แล้วทำให้ชีวิตประสบผลสำเร็จ มั่นคง หรือทำให้ตัวกูและคนรอบข้างมีความสุข มันก็น่าจะรักษาความเป็น ตัวกู เอาไว้ และดำเนินชีวิตไปในแบบที่กูเป็นไป แต่ในทางตรงกันข้าม หากสิ่งที่ตัวกูเป็นแล้วผลออกมามันตรงข้ามกัน สมควรหรือเปล่าที่ ตัวกู จะลองย้อนมองดู ตัวกู บ้าง ว่าได้คิดและปฏิบัติสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ
ลองมองดูคนอื่นบ้าง มองดูด้านดีและด้านมืดของแต่ละคน แล้วพิจารณาเอาว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วจะเจริญหรือไม่เจริญ เพราะแม้ชีวิตของ ตัวกู จะมีเพียงแค่ลมหายใจของ ตัวกู แต่อย่าลืมว่ายังมีใครบางคนที่เฝ้ามอง ตัวกู และเป็นห่วง ตัวกู อยู่ แม้ว่า ตัวกู จะทำผิดมากมายสักแค่ไหน ใครคนนั้นก็ยังให้อภัยและพร้อมที่จะยืนเคียงข้างเสมอ ฉะนั้นสิ่งที่ตัวกู คิด มอง และทำในทุกๆ วันนี้ ไม่ใช่สักแต่ว่า กูจะเป็นอย่างนี้ อย่างที่กูเป็น แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน ตัวกู ลองคิดบ้างสิ ว่าใครคนหนึ่งจะเสียใจเพียงใด หากรู้ว่าคนรอบข้างมอง ตัวกู ว่าเป็นตัวอะไรสักตัวหนึ่งที่เกิดมาโดยไม่มีใครสั่งสอน อบรม
แล้ววันหนึ่ง ตัวกู ก็จะรู้ว่าการยึดมั่นถือมั่นมากจนเกินไป ผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร