3 กุมภาพันธ์ 2549 21:59 น.
สบัดปลาย
เสียงคลื่นซัด หาดทราย ที่ชายหาด
เสียงคลื่นสาด ซัดซอน หมู่ก้อนหิน
เสียงสนสู่ ลู่ลม ข่มวาริน
เสียงไม่สิ้น ตามหาดทราย ชายหาดเดิม
วันปีเดือน เคลื่อนคล้อย อย่างอ้อยอิ่ง
วันคืนทิ้ง ความรู้สึก ให้ฮึกเหิม
วันวานเศร้า ความชอกช้ำ ยังซ้ำเติม
วันนี้เริ่ม พบทาง สว่างตา
ตามพื้นทราย รอยช้ำ ยังซ้ำซาก
ตามรอยฝาก แผลพิษ ปริศนา
ตามรอยเดิม รอยนี้ ที่มีมา
ตามรอยหา สัจจะธรรม มาคำจุน
หาดทรายเดิม ที่เริ่มต้น กับคนหนึ่ง
ได้เพียงครึ่ง ของหัวใจ ในไออุ่น
รักที่มี อ่อนไหว เหมือนใยนุ่น
นิ่มละมุน หมุนไหว ไปตามลม
เก็บภาพรัก และความหลัง ลงฝังกลบ
ตามรอยลบ รอยรสหวาน อันขื่นขม
ขุดหลุมลึก ฝังรัก ที่สุดตรม
ฝังให้จม ผืนทราย ชาดหาดเดิม
28 มกราคม 2549 17:47 น.
สบัดปลาย
มองฟ้าสางตามทางเปลี่ยวที่เลี้ยวลด
เส้นทางคดลดเลี้ยวแสนเปลี่ยวเหงา
เดินคนเดียวเหลียวหาเห็นแต่เงา
เป็นเพื่อนเก่าก้าวย่างตามย่ำเหยียบไป
มองฟ้าหม่นคนหมองท่องเที่ยวหา
ตามทางมาสุดไกลเกินจะเดินไหว
เดินตามทางหว่างวิถีที่แสนไกล
เดินย่ำไปในทางเถื่อนเพื่อนไม่มี
ขาดคนคลอเคล้าคู่เป็นผู้แพ้
ความผันแปรคนข้างเคียงมาเหลี่ยงหนี
ไม่เหลือแม้สายสัมพันธ์ที่เคยมี
ต่อจากนี้ต้องโดดเดี่ยวละเดียวดาย
ความทุกข์ท้อต่อหนทางที่ขวางหน้า
วันเวลาที่เหลือล้วนไร้ความหมาย
มีชีวิตที่ผิดหวังและวุ่นวาย
มีความตายเป็นจุดหมายแห่งปลายทาง
เส้นทางเปลี่ยวที่เดียวดายใกล้สิ้นสุด
เตรียมตัวขุดหลุมลึกเพื่อฝังร่าง
จบสิ้นสุดชีวิตที่อับปาง
จบเส้นทางที่ท้อทนคนเดินทาง
เส้นทางเปลี่ยวที่เลี้ยวลดคงหมดทุกข์
ไร้คนบุกเดินเดี่ยวเที่ยวถากถาง
เส้นทางนี้ไม่มีใครมาใช้ทาง
ปล่อยให้มันรกร้างอยู่อย่างเดิม
19 มกราคม 2549 22:18 น.
สบัดปลาย
*.....มีหลายคนที่โชคดีมีแม่พ่อ
นั่งเฝ้ารอวันลูกรักสำเร็จผล
กับความสุขที่มีให้ลูกทุกคน
ถึงแม้จนแต่น้ำใจไม่มีจาง
**....ยังจำภาพแม่ที่ใบหน้าน้ำตาอาบ
ยังจำภาพนั่งกอดแม่อยู่ข้างข้าง
มือลูบหัวพร่ำรำพันเสียงสั่นคราง
ยามลูกห่างแม่แสนห่วงดวงฤดี
***..เฝ้าปลอบโยนยามลูกเจ็บและก้าวพลาด
ให้โอกาสลูกทุกครั้งไม่หน่ายหนี
ให้กำลังและแรงใจร่วมยินดี
ทุกครั้งที่ลูกสมหวังดังตั้งใจ
****...แต่วันนี้ไม่มีแล้วไม่มีเหลือ
ความเอื้อเฟื้อกับความรักที่เคยให้
ในวันนี้ที่เหลืออยู่และเก็บไว้
เป็นภาพถ่ายและอัฐิที่บูชา
สำหรับแม่ ของลูก
17 มกราคม 2549 23:45 น.
สบัดปลาย
* ไทย...นี้รักสงบ แต่ที่พบนั้นไม่ใช่
วันนี้มีปวงภัย เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา
* ระเบิด ปืน กึกก้อง ปนเสียงร้องดิ้นเล่าเล่า
เลือดนองทุกเย็นเช้า แล้วใครเล่าจะคุ้มครอง
* ทหารที่ไปช่วย ต้องมอดม้วยอยู่ก่ายกอง
รวมหมู่ชนชั้นสอง ต่างหวีดร้องแหละล้มตาย
* เดินทางอยู่กลางเมือง ขับรถเครื่องก็ไม่วาย
อยู่อยู่ก็ล้มหาย ชีวาวายอยู่กลางดิน
* นักเรียนไปเรียนเช้า ตอนบ่ายข่าวถูกยิงดิ้น
พ่อแม่หลายคนสิ้น หมดความหวัง พังทลาย
* หลายเหตุที่ได้รู้ ผู้นำกู้ให้กลับกลาย
ขจัดความเลวร้าย ขจัดภัยให้ผองชน
* บ้างว่ารัฐเอาเปรียบ ชอบย่ำเหยียบทุกแห่งหน
กดขี่กำมาชน คนรากหญ้าผวากลัว
* อำนาจใช้ทางผิด กำจัดสิทธิ์เขาไปทั่ว
ละเลงความน่ากลัว ต่างกดหัวประชน
* บ้างว่าเพราะลัทธิ มวลหมู่มิตรนิกายตน
พงศ์เผ่าผลาผล รวมผองชนกลุ่มกลมเกลียว
* รักพวกและพงศ์เผ่า รวมตัวเข้าอย่างแน่นเหนียว
ต่อต้านอย่างโดเดี่ยว เพื่อโน้มเหนี่ยวและมุ่งนำ
* บ้างว่าเป็นกลุ่มโจร ที่โชกโชนและลึกล้ำ
ตั้งตัวเป็นผู้นำ เรียกค่าไถ่ไว้คุ้มครอง
* จดหมายมาข่มขู่ กับมวลหมู่ชนชั้นสอง
ปล้นฆ่าอย่างคะนอง ลำพองเพลินเกินป้องกัน
* บ้างว่าเป็นกลุ่มแยก ดินแดนแตกออกจากกัน
ขวานไทยจะโดนหั่น ขาดสะบั้นขวานทองไทย
* เป็นกลุ่มอยากแยกตัว จะทำรั้วปกครองใหม่
ปลดออกจากชื่อไทย ตั้งตัวใหม่ปกครองเอง
* บ้างว่าก่อการร้าย ที่ยอมตายเลือดละเลง
เป็นคนไม่มีเพลง ชาติตัวเองร้องลำนำ
* สร้างความวุ่นวายทั่ว โลกหวาดกลัวทุกข์ระกำ
หลายคลาที่ต้องช้ำ ถูกพลีชีพระเบิดดัง
* วันนี้ไทยที่เห็น ก็มิเว้นต้องระวัง
หลายคนตั้งใจหวัง เห็นไทยยังสุขดังเดิม
* วอนไทยทั้งประเทศ ที่ร่วมเหตุชะตาเติม
รวมใจมาสร้างเสริม เพิ่มพลังรักเมืองไทย
* มาร่วมร้องเพลงชาติ ราษฎร์ รัฐ ศาสน์ มาร่วมใจ
มุ่งมั่นเพื่อวันใหม่ ยังมีไทยครบแผ่นดิน
* เลือดไทยพี่น้องไทย ที่เคยไหลละเลงดิน
วันนี้คงไม่สิ้น เลือดเนื้อรินจมสุธา
* พ่อไทยองค์ราชัน สิ่งยึดมั่นอันสง่า
ลูกไทยใต้บาทา เป็นข้าบาทองค์ภูมินทร์
* อย่าให้ระคายบาท แม้เลือดสาดชีวิตสิ้น
น้ำตาต้องไหลริน สละสิ้นบนดินไทย
* ส่งใจให้พี่น้อง หมู่เผ่าผองเผ่าพงศ์ไทย
ทั้งสามจังหวัดใต้ ให้ปลอดภัยกันทุกคน
* ขอพรศาสดา ที่เมตตาทุกแห่งหน
ศาสนาที่ทุกคน เคารพรักและสักการ
* จงดลให้คนคิด วิปริตไร้แก่นสาร
เลิกคิด เลิกประหาร เลิกเข่นฆ่าทำลายเผ่า
* ให้ ไทย...นี้สงบ เหมือนที่พบมานานเนา
ให้ไทยทุกหมู่เหล่า มารักกัน......และมั่นคง......ตลอดกาลเมืองไทย...ที่รัก
14 มกราคม 2549 11:34 น.
สบัดปลาย
มองฟ้าที่ปลายฟ้า
สุดสายตาระยิบไกล
ปลายฟ้ายังสดใส
เพราะตะวันยังยืนยง
มองฟ้าคราฟ้าเปลี่ยน
ตะวันเวียนจะดับลง
ผ่านผันอย่างเที่ยงตรง
ทุกทิวาและราตรี
.วันคืนที่ผันผ่าน
มาเนิ่นนานนับแรมปี
ไม่หยุดหรือรอรี
ยังเที่ยงตรงตลอดกาล
มองฟ้าที่ปลายฟ้า
หมู่นกกาต่างขับขาน
โบยบินกลับสู่บ้าน
รัตติกาลจะมาเยือน
.ความมืดทั่วทิศา
ตะวันลาจะคล้อยเคลื่อน
ความหวังที่ลางเลือน
เหมือนย้ำเตือนความปราชัย
ตะวันที่ผันเปลี่ยน
ยังวนเวียนมิหลับใหล
ยังคงหมุนต่อไป
ไม่เหลวไหลเหมือนใจคน
มองฟ้าที่ปลายฟ้า
เหมือนชีวาที่สับสน
ผืนฟ้าครามืดมน
เหมือนเมฆหม่นมาบดบัง
บังใจให้ใจมืด
เย็นชาชืดด้วยชิงชัง
หมดรักและสิ้นหวัง
ฝังชีพยังปลายฟ้าไกล