30 มีนาคม 2549 21:29 น.
สนสามใบ
๐๐๐ อันผู้ดีมีทองมาทำถ้วย
แสนสุดสวยเหลืองอร่ามงามลูกตา
จะมาใช้ใส่ข้าวและใส่ปลา
ก็ไม่กล้ากลัวหมองทองหมดเหลือง
๐๐๐ เก็บอย่างดีมีตู้ใส่ใสสง่า
อวดพาราว่าสวยรวยความเปลือง
มีถ้วยทองมองหรูดูประเทือง
คนทั้งเมืองว่าดีมีไฉไล
๐๐๐ คนจนนำถ้วยดำทำจากกะลา
แล้วนำมาใส่ข้าวได้หลากหลาย
ไม่กลัวเปื้อนกลัวหมองให้ข้องใจ
ประโยชน์ใช้คุ้มค่ามากกว่ากัน
๐๐๐ ซึ่งจุดหมายใช่ว่าอยู่ที่ถ้วย
หรือความสวยเป็นทองของใส่ทาน
อยู่ที่ประโยชน์และคุณค่าของอาหาร
เป็นพลังงานให้สมองส่องปัญญา
๐๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐๐
29 มีนาคม 2549 23:32 น.
สนสามใบ
๐๐๐ ชาวประชาแบ่งชั้น.................................................เป็นสอง
เชียร์ทักษิณกึกก้อง........................................................หมอชิต
เชียร์สนธิร่ำร้อง.............................................................เนืองนอง สนามหลวง
ต่างฝ่ายต่างว่าผิด............................................................สาดน้ำ ใส่โคลน
๐๐๐ แล้วใครเล่าจักห้าม.................................................สองทัพ ยิ่งใหญ่
ชาวประชาย้อนกลับ........................................................รักใคร่
หรือเราเข้าที่อับ...............................................................หมดทาง จะแก้
รอให้เกิดเรื่องใหญ่..........................................................จึงให้เลิกรา
๐๐๐ รอประชาดั่งดิ้น........................................................สิ้นชีพ
ให้เดือดร้อนทั่วทีป..........................................................หย่อมหญ้า
เจ้านายใหญ่ให้รีบ...........................................................เจรจา
เพื่อความสุขทั่วหล้า..........................................................ประชา ชาวไทย
๐๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐๐
26 มีนาคม 2549 10:47 น.
สนสามใบ
๐๐๐คลื่นทะเลมากมายทั้งใหญ่น้อย
ต่างทยอยสาดซัดอัดชายฝั่ง
อยู่ไม่นานตลิ่งนั้นก็เริ่มพัง
เป็นพลังซ้ำซ้ำตอกย้ำเสมอ
๐๐๐ฉันจึงเพียรพยายามตามลูกคลื่น
ทุกวันคืนเฝ้าฟูมฟักบอกรักเธอ
หวังจะให้ใจอ่อนนอนละเมอ
หรือพร่ำเพ้อถึงฉันบ้างก็ยังดี
๐๐๐แต่ไม่มีวี่แววว่าใจอ่อน
ถึงออดอ้อนมากมายมาหลายปี
ใจเธอหนอจะสึกหลอก็ไม่มี
ซัดทุกทีฉันสะท้อนกระดอนเด็น
๐๐๐มาวันนี้พี่เริ่มท้อรอจนช้ำ
โหมกระหน่ำพัดนุชสุดรำเข็ญ
สาดรุนแรงแล้วผ่อนทั้งร้อนเย็น
ก็ไม่เห็นกำแพงใจสลายลง
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
22 มีนาคม 2549 23:40 น.
สนสามใบ
....ปัจจุบันอายุฉันนั้นสี่สิบ
เรื่องเตะปี๊บยังดังปึ๋งปั๋งอยู่
ใจชอบสาววัยรุ่นหุ่นงามหรู
ชอบอีหนูหุ่นอ้อนแอ้นเป็นแฟนเรา
....เจอสาวหนึ่งซึ่งงามหรูดูคมกริบ
ย่างยี่สิบอายุน้อยคอยแก้เหงา
ได้เป็นแฟนควงแขนโก้ไม่เบา
เลยมัวเมาหลงเธอเพ้อทุกวัน
....เธออยากได้อะไรหาให้หมด
ไม่กลัวอดหาให้ตามใฝ่ฝัน
อยากได้ทองก็หามากำนัล
จนครบครันของดีมีราคา
....ยามมั่งมีเธอนี้มาชิดใกล้
คอยเอาใจไม่ห่างช่างเจรจา
แต่ยามนี้เราอดหมดเงินตรา
เธอจากลาไม่เหลือซึ่งเยื่อใย
......สนสามใบ.....
21 มีนาคม 2549 14:58 น.
สนสามใบ
ณ. ยามดึกหน้าหนาวราวห้าทุ่ม
เสียงสาวหนุ่มออดอ้อนเว้าวอนกัน
ในที่มืดหน้าระเบียงเสียงสั่นสั่น
เธอช่วยฉันแหย่รูดูไม่เห็น
…เร็วเร็วพี่น้องนี้ทนไม่ไหว
ใกล้จะตายใจจะขาดอนาถเข็ญ
ใช้มือคลำหารูดูยากเย็น
ต้องคอยเทรนเรื่องการแทงแยงตรงรู
…มองไม่เห็นน้องยาอย่ามาบ่น
เดี๋ยวผู้คนเขาจะตื่นขึ้นมาดู
ทำเสียงดังเอ็ดไปให้หนวกหู
พวกหมาหมูจะเห่าเราเสียงดัง
…เราถ้ำมองต้องเข้าไปใกล้ใกล้เสียง
เฝ้ามองเมียงมองเห็นเป็นรางราง
เห็นสาวยืนอีกฟากปากร้องคราง
อูย..หนาวจังยังไม่ได้ไหวไหมพี่
…หนุ่มหน้าบางพรางคลำดูรูกุญแจ…
ใช้ลูกแหย่ไม่ตรงโพรงซักที
แหย่อยู่นานก็ไขได้โดยดี
เกือบจะมีน้ำโหโถหนุ่มน้อย
…เมื่อรู้แจ้งแถลงไขได้ถ่องแท้
ค่อยค่อยแลซ้ายขวาหันหน้าถอย
หนามก็ข่วนยุงก็กัดจนเป็นรอย
ถึงกับหงอยกลับมานอนแล้วถอนใจ
......สนสามใบ.....