17 กรกฎาคม 2549 22:27 น.
สนสามใบ
๐๐๐ ภาณุมาศสาดแสงแดงระยับ
ก่อนลาลับหนีหายปลายยอดสน
ใจดวงหนึ่งแทบสลายกระวายวน
นฤมลหนีหายไกลลับตา
๐๐๐ เจ้าจากไกลหนีหายไปไหนหนอ
พี่เฝ้ารอสาวกลับนับเวลา
อยู่แห่งไหนหนีไกลไม่คืนมา
แล้วกานดาไม่สงสารฉันหรือไร
๐๐๐ ด้วยความผิดเพียงน้อยนิดคิดลาจาก
หรือลำบากที่จะอยู่เป็นคู่ใจ
เลยหลบหน้าลาหนีทิ้งพี่ไป
ไม่อาลัยลาจากพรากชั่วกาล
๐๐๐ พี่ยังคอยกลอยใจในที่เดิม
ที่เราเริ่มปลูกรักปักใจสาน
รอคนดีอยู่ที่เดิมแม้เริ่มนาน
จนถึงวันฉันลาลับดับสิ้นลง
๐๐๐สนสามใบ๐๐๐
15 กรกฎาคม 2549 11:48 น.
สนสามใบ
๐๐๐ถึงคนดีที่ไม่รักคอยผลักไส
คอยเอาใจทุกอย่างยังหมางเมิน
อยากเข้าใกล้เธอก็ไล่เป็นส่วนเกิน
ไม่อาจเดินร่วมทางอย่างคู่ครอง
๐๐๐ ฉันทำใจได้แล้วน้องแก้วจ๋า
พี่ไม่ว่าอะไรให้เธอหมอง
มันเป็นสิทธิ์ของคนงามตามครรลอง
ขอสมปองดั่งใจเธอหมายมั่น
๐๐๐ พี่จากไปใช่ว่าพี่ลาจาก
จำต้องพรากอยู่ไกลใจไหวหวั่น
จะคอยดูถึงจะอยู่ห่างไกลกัน
เผื่อสักวันเธอขมขื่นอาจคืนมา
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
11 กรกฎาคม 2549 20:09 น.
สนสามใบ
๐๐๐ภูกระดึงถึงกาลอวสานแล้ว
ถ้าถางแผ้วตั้งเสากระเช้าใหญ่
หากสำเร็จเสร็จสิ้นในวันใด
ความบรรลัยจะมาสู่ภูแห่งนี้
๐๐๐ประชากรล้นหลากมากเกินไป
คนหลั่งไหลเกินอัตรามาทั้งปี
เพราะขึ้นง่ายลงง่ายใช่เรื่องดี
คนมากมีสร้างปัญหาป่าสมดุล
๐๐๐เหล่าสัตว์ป่าหายากต้องจากหนี
ขาดเสรีหากินถิ่นเป็นจุล
แหล่งอาหารการกินหมดสิ้นสูญ
เพราะพวกคุณเหยียบย่ำและทำลาย
๐๐๐มวลดอกไม้ดอกหญ้าตามหน้าดิน
ตามซอกหินที่บานอันอ่อนไหว
ต้องโดนจับโดนถูอยู่ร่ำไป
ไม่ทันไรก็ลาลับดับชีพลง
๐๐๐ทั้งขยะมากมายมหาศาล
ที่เหลือทานทิ้งไว้ในป่าดง
สิ่งสลายย่อยยากมากในพง
ที่ยังคงเป็นปัญหามานานนม
๐๐๐หากวันใดภูย่อยยับดับสิ้นสูญ
เต็มด้วยมูลขยะฝอยกลิ่นลอยลม
ไม่มีสัตว์ดอกไม้จะให้ชม
คนระทมจะขึ้นภูดูอะไร
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
7 กรกฎาคม 2549 13:34 น.
สนสามใบ
๐๐๐ ถึงเวลางดเหล้าเข้าพรรษา
เชิญประชาช่วยกันหันทำดี
ละให้หมดลดให้สิ้นกลิ่นดีกรี
อย่าให้มีสุรามากล้ำกาย
๐๐๐ หากทำดีหนีเหล้าเข้าพรรษา
ทั่วพาราจะสุขล้นพ้นอบาย
ในสังคมจะอบอุ่นไม่วุ่นวาย
คนมากมายจะสรรเสริญและเยินยอ
๐๐๐ ไม่กินเหล้าไม่เมาไม่หมดตังค์
เงินเหลือยังซื้ออาหารทานอีกหนอ
เมียอยู่หลังกับลูกน้อยพลอยอิ่มคอ
ที่เฝ้ารอพ่อกับลูกผูกสัมพันธ์
๐๐๐ หากงดเหล้าเข้าพรรษาพากุศล
ช่วยกันดลนำพาองค์ราชัน
ให้ยืนยงยั่งยืนยิ่งยาวนาน
กุศลทานที่เราทำจงค้ำจุน
๐๐๐ สนสามใบ๐๐๐
30 มิถุนายน 2549 10:14 น.
สนสามใบ
๐๐๐ ยามพบหน้าส่งรอยยิ้มพริ้มละมัย
ความจริงใจใส่ลงนิดไม่ผิดหวัง
หากจะยิ้มทั้งทีให้มีพลัง
ยิ้มให้ดังจากข้างในของใจตน
๐๐๐ อันรอยยิ้มสร้างมิตรวิจิตรเลิศ
สุดประเสริฐส่งให้ดั่งสายฝน
จะไหลกลับมากมายดุจสายชล
สุขกมลไม่จืดจางให้ลางหาย
๐๐๐ หากยิ้มส่งท่านคงได้ยิ้มตอบ
ทุกคนชอบรอยยิ้มที่อิ่มใจ
แล้วค่อยเปลี่ยนรอยยิ้มอิ่มละมัย
ให้กลับกลายเป็นความรักจักอยู่นาน
๐๐๐ ไม่มีใครที่ยิ้มให้แล้วด่าตอบ
ทุกคนชอบแต่รอยยิ้มที่พริ้มหวาน
ทำให้โลกประเสริฐสุดดุจวิมาน
แล้วพวกท่านจะหน้ายู่อยู่ทำไม
......สนสามใบ.....