11 มิถุนายน 2553 01:56 น.
ศุุภนาคราช
คำว่าครูนั้นมีค่าคณานับ
ศิษย์ยอมรับว่าครูผู้ยิ่งใหญ่
ในดวงจิตศิษย์นอบนพเคารบไว้
เหนือเศียรเกล้าเราร่วมใจใคร่บูชา
ครูผู้ให้มีน้ำใจเสียสละ
เป็นดั่งพระสั่งสอนศิษย์คิดสรรหา
ให้ศิษย์เป็นคนดีมีวิชา
และเชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล
ครูแสนเหนื่อยเมื่อยล้าต้องมาสอน
ยามพักผ่อนเพียงนิดน้อยต้องพลอยสูญ
แม้เหนื่อยยากตรากตรำคอยค้ำคูณ
หวังเพิ่มพูนวิชาพร้อมน้อมความดี
เมื่อศิษย์ดีมีเก่งด้วยช่วยให้สุข
ประชาชาตินิราศทุกข์เป็นสุขศรี
ขอยอกรกราบคุณครูผู้อารี
สร้างศิษย์ดีช่วยให้ไทยเจริญ
10 มิถุนายน 2553 15:45 น.
ศุุภนาคราช
หยาดฝนโปรย ลมโพยพัด สะบัดสาด
สิ่งประหลาด ขาดแรง แกว่งไหวไหว
ลอยละลิ่ว ปลิวลม ล้มลงไป
ขั้วหัวใจ ไหวหวั่น แทบขาดรอน
พายุซ้ำ กระหน่ำซัด ฟ้าฟาดเปรี้ยง
บ้างดายเดี้ยง เสียงระงม บ่มจิตหลอน
พร่ำเสียงอ่อน วอนฟ้าลม พนมกร
โปรดจงผ่อน หย่อนหยุด สมุทรปรวน
10 มิถุนายน 2553 15:07 น.
ศุุภนาคราช
บุปผาปลิว ลิ่วลง ตรงเบื้องหน้า
เยื้องกายา คว้าไขว่ ลุ่มไหลหลง
ตะปบขวับ จับแย่ง แรงทะนง
ดอกไม้ปลง โล่งไร้ ใบกลีบลา
เหกายก้ม ล้มลิ่ว ปลิวตามกลีบ
ฉุดกายรีบ ถีบถอง ต้องบุปผา
กลีบเจ้าหม่น ระคนดิน สิ้นราคา
นองน้ำตา บุปผาไซร้ ไร้เชยชม
5 มิถุนายน 2553 13:28 น.
ศุุภนาคราช
ขอกราบกราน ท่านครูกลอน สุนทรภู่
บารมี คุ้มคู่ อยู่เหนือเศียร
ศิษย์ลำบาก ตรากตรำ คอยพร่ำเรียน
มิเท่าเทียบ เปรียบความเพียร ท่านเขียนนำ
5 มิถุนายน 2553 13:19 น.
ศุุภนาคราช
เสียงลมเล เห่กล่อม ประนอมประณีต
ดุจสังคีต ดีดก้อง ต้องลมหวน
ตะวันย้อย คล้อยบ่าย ได้คราวควร
ลมเลชวน ป่วนระโหย โดยยินยอม
บรรจงนั่ง ตั่งแคร่ แลเลกว้าง
กลิ่นเลสร่าง จางกลิ่น ไม่สิ้นหอม
ลมเลหวน ชวนฤทัย ใฝ่ดมดอม
พริ้มตาพร้อม ยอมหลับไหล ใกล้ชายเล