27 มีนาคม 2545 12:43 น.
ศาลาไทย
ถะถั่งหลั่งไหลฤาสายน้ำ
ลึกล้ำ...แลสุดไกลเกินไปถึง
ครืนครืนเสียงครวญชวนคำนึง
ครั้งหนึ่ง...เพียงคิดสะกิดใน
กว้างกว่าตาเห็นเป็นเท่านี้
คงที่งดงามยามเลื่อนไหล
คลื่นลมกล่อมเห่ทะเลใจ
หวามไหว...เพียงหวังยังรอคอย
27 มีนาคม 2545 12:28 น.
ศาลาไทย
โอบปีกฝันด้วยไอรักถักทอทาบ
ให้อิ่มอาบในห้วงหนาวคราวห่างหาย
ความห่วงใยไปคุ้มครองต้องใจกาย
สู่จุดหมายข้ามหนทางอย่างเปรมปรีดิ์
เฝ้ารอคอยเจ้าคืนรังอีกครั้งแล้ว
ดั่งดวงแก้วเติมแต่งไว้ใช่แสร้งสี
ด้วยน้ำมิตรยังผูกพันมั่นไมตรี
อ้อมกอดนี้หมายรอรับเธอกลับมา
26 มีนาคม 2545 15:36 น.
ศาลาไทย
คำเอยเคยคุ้นอุ่นนัก งดงามยามรัก
หวานแว่วแผ่วพจน์รดริน
น้อยหนึ่งพึงเพียงเสียงพิณ หยาดดลยลยิน
กล่อมจิตจับใจไหวหวาม
อิ่มอาบซาบซึ้งตรึงตาม คารมคมความ
ผูกมัดรัดเกี่ยวเกลียวใจ
ห่อนแจ้งแฝงเล่ห์เสน่ห์ใน เจตน์จงหลงใหล
ติดบ่วงลวงแล้วแก้วตา
ราวสรวงห้วงรักชักพา คร่ำครวญหวนหา
หอมกรุ่นอุ่นอ้อมถนอมนาน
คืนวันผันลับกับกาล จืดจางทางผ่าน
ถ้อยคำทำเหน็บเจ็บใน
เสียแรงไว้เนื้อเชื่อใจ น้ำตาบ่าไหล
หลั่งล้นท้นทบกลบทรวง
หักจิตติดตามถามทวง ขอลืมคนลวง
ใจลาญผลาญยับกับมือ
เสียทีชี้ชัดสัตย์ซื่อ ที่แท้แค่คือ
คมมีดกรีดซ้ำย่ำยี
กรวดน้ำคว่ำขันวันนี้ ไม่ขอต่อตี
ยอมโกรธโทษตัวชั่วเอง
สิงหาคม ๒๕๔๓
26 มีนาคม 2545 12:57 น.
ศาลาไทย
อุษาสางสว่างรับ ผสานศัพท์ภุชงค์ฯฉันท์
มโนนึกเอนกนันท์ ถนอมมิตรถนนนี้
ระรินคำระบำถ้อย ระเรียงร้อยระรองสี
ระเบียงฝันระแบบมี ระบัดสร้างระบายมี
ประเดิมคิดประดิษฐ์ย้ำ ประจงทำประจักษ์ค่า
ประณตจิตประติชญา ประสงค์สืบประพันธ์สาร
สนามนี้สนุกนัก สหายมักเสนองาน
สะพรึบพร้อมสะพรั่งบาน สมานมิตรเสมอชน
ภุชงคประยาตฉันท์
สิงหาคม ๒๕๔๓
26 มีนาคม 2545 12:57 น.
ศาลาไทย
เป็นนักกลอนอย่านอนเปล่าเศร้าก็เขียน
พึงพากเพียรเพื่อเจนจบครบภาษา
ทั้ง กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ พรรณนา
ร่าย เรียงมาหมั่นฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ
กลบท ลูกเล่น ล้อ ต่อเติมบ้าง
พร้อมเสริมสร้างสาระเด่นเป็นแก่นสาร
สำคัญยิ่งต้องไหว้ครูรู้อาจารย์
งดงามงานสมเป็นแก้วแววกวี