2 เมษายน 2545 08:38 น.

๏๏๏ ระบำดาว ๏๏๏

ศาลาไทย


๏ ดึกดื่นดาวเคลื่อนฟ้อน..........ระบำฝัน
หอมสุหร่ายน้ำค้างอัน..............ฉ่ำฟ้า
ทิพย์สังคีตกล่อมสวรรค์............ลมร่ำ
เสพสุขระยับระย้า....................อิ่มคว้างกลางหาว ๚

๏ ดาวไถไถเถื่อนถ้อย.............ถากถาง
ทบเท่าคำทวีวาง......................เวี่ยไว้
มองเมินใช่เมินหมาง................เมินหม่น
เหมือนหมิ่นน้ำใจให้.................ลับแล้งลงฤๅ ๚

๏ ลายสือดังเสกสร้อย..............จากสรวง
รื่นรสละดาษดวง......................ทิพย์คล้าย
ดาวตกสะทกทรวง...................ประจานเจ็บ
ฤๅจักเป็นดาวร้าย....................สะเก็ดน้ำตากระเซ็น ๚

๏ เห็นดาวหางฟาดเวิ้ง.............เฟือนสวรรค์
หลงเล่ห์ฝุ่นนับอนันต์................ระยับด้าว
ระยิบทิพย์ทาบขวัญ..................พรายสะเก็ด
กรวดเกลื่อนสรวงร้อนร้าว.........เปล่าคว้างมิติแฝง ๚

๏ แหนงหนีดาวจระเข้..............เกลือกขบ
ดาวลูกไก่ขยับหลบ...................จรดหล้า
พลันตะวันสาดแสงทบ..............สะทกเยือก
ริ้วแรกแทรกเสี้ยวฟ้า................โลกสะท้านสะเทือนคน ๚				
1 เมษายน 2545 08:24 น.

เพ้อ

ศาลาไทย


ฝันจะสร้างทางใสในฟ้าสาง
เพียงแผ่วบางเลาะไล้แม้ไม้หนาม
ทุกคำบ่งจงใจให้เห็นงาม
กี่โมงยามยืนหยัดลงจัดเรียง

ถึงทุกข์ท้อขอทนปนแปลกบ้าง
หากหนึ่งอย่างตอบรับสรรพเสียง
ก้องอยู่ในใจฉันวันคืนเคียง
คือขอเพียงไมตรีที่คงเดิม

ลองจรดบทแรกอาจแผกผิด
ใช่เลิกคิดคืนกลับนับแต่เริ่ม
วาดด้วยใจในทุกแห่งที่แต่งเติม
จึงเพียรเพิ่มเขียนคำมาย้ำรอย

แต่งกลอนหวานมาอ่านเล่นเห็นสนุก
พอคลายทุกข์ยามเศร้าเพราะเหงาหงอย
เคยคิดถึงสักนิดไหมใจคนคอย
นั่งละห้อยเช้าจนค่ำช้ำเสียจริง

กลอนไม่หวานเพราะงานหนักมิพักผ่อน
หัวใจกร่อนถูกหยามย้ำน้ำใจหญิง
นี่ใจน้องก็ใจเนื้อเผื่อพักพิง
พอโดนทิ้งเลยทดท้อล้อทำนอง

เฮ้อ...เหนื่อยนักพักหน่อยค่อยเขียนต่อ
ยินไหมหนอคนทางนี้ที่หม่นหมอง
หรืออยู่ไกลไม่เห็นค่าว่าควรมอง
คำเคยกรองเริ่มเลือนล้ามาขาดรอน

คนใจง่ายคล้ายเราเหงาแล้วเพ้อ
หลงละเมอในวังวนกลอักษร
เจอคำหวานผ่านลีลาภาษากลอน
ยิ่งโอนอ่อนเชื่อตามทุกความไป

เขาล้อเล่นกันดอกบอกกี่ครั้ง
คำที่หวังจึงปี้ป่นแทบหม่นไหม้
เขียนกลอนบ่นปนน้ำตามาแทนใจ
แจ้งจริงในถ้อยคนลวงหน่วงเหน็บนาน...				
30 มีนาคม 2545 14:24 น.

ที่รัก

ศาลาไทย


หนทางเดิมเงียบเหงาดูเปล่าร้าง
วะวับว้างรังเรือนเหมือนหม่นเศร้า
รับรู้สึกลึกในห้วงใจเรา
ยิ่งทบเท่าโดดเดี่ยวแสนเปลี่ยวดาย

...เฝ้า...ไถ่ถามความเป็นไปในครั้งก่อน
...เฝ้า...อาวรณ์บทเพลงรักสมัครหมาย
...เฝ้า...เรียกร่ำคนคุ้นเคยเชยชิดกาย
...เฝ้า...พร่ำพรายเพรียกหาฝันอันแสนไกล

...ขอ...รักเราจงงดงามตามวาดหวัง
...ขอ...ฟากฝั่งแห่งปลายฝันนั้นสดใส
...ขอ...ผืนน้ำเชื่อมแผ่นฟ้าสัญญาใจ
...ขอ...สายใยรักคงมั่นนิรันดร์กาล

เพียรค้นหาความหมายเพิ่มเติมชีวิต
มุ่งดวงจิตสร้างคืนวันอันหวามหวาน
เพื่อลบลืมร่องรอยใจในวันวาน
กลับสุดทานแรงรักเอยไม่เคยคลาย

...เฝ้า...ไถ่ถามความเป็นไปในครั้งก่อน
...เฝ้า...อาวรณ์บทเพลงรักสมัครหมาย
...เฝ้า...เรียกร่ำคนคุ้นเคยเชยชิดกาย
...เฝ้า...พร่ำพรายเพรียกหาฝันอันแสนไกล

...ขอ...รักเราจงงดงามตามวาดหวัง
...ขอ...ฟากฝั่งแห่งปลายฝันนั้นสดใส
...ขอ...ผืนน้ำเชื่อมแผ่นฟ้าสัญญาใจ
...ขอ...สายใยรักคงมั่นนิรันดร์กาล

โอบกอดเธอด้วยห้วงรักถักทอทาบ
ให้ซึ้งซาบห้อมแห่งฝันอันหอมหวาน
กระซิบเสียงเพียงผะแผ่วแว่วกังวาน
อาบอิ่มนานไอรักอุ่นกรุ่นกำจาย

...เฝ้า...ไถ่ถามความเป็นไปในครั้งก่อน
...เฝ้า...อาวรณ์บทเพลงรักสมัครหมาย
...เฝ้า...เรียกร่ำคนคุ้นเคยเชยชิดกาย
...เฝ้า...พร่ำพรายเพรียกหาฝันอันแสนไกล

...ขอ...รักเราจงงดงามตามวาดหวัง
...ขอ...ฟากฝั่งแห่งปลายฝันนั้นสดใส
...ขอ...ผืนน้ำเชื่อมแผ่นฟ้าสัญญาใจ
...ขอ...สายใยรักคงมั่นนิรันดร์กาล

...ขอ...รักเราจงงดงามตามวาดหวัง
...ขอ...ฟากฝั่งแห่งปลายฝันนั้นหวามหวาน
...ขอ...ผืนน้ำเชื่อมแผ่นฟ้าศรัทธาจาร
...ขอ...สายธารรักคงมั่นนิรันดร...				
29 มีนาคม 2545 12:57 น.

นาง

ศาลาไทย


งามวงหน้านุชน้อง.................ปองถวิล
ยากลบเลือนจากจินต์............มั่นแม้น
เสกสุขร่ำรายริน....................เพียงแรก  พบเฮย
สินทรัพย์ใดในแคว้น............แลกได้ไป่มี

ดังคีตศิลป์กล่อมครั้ง..............คิมหันต์
ดุจทิพย์ครองเหมันต์.............ปราศเศร้า
เฉกร้อยสิ่งเสกสรรค์.............เป็นหนึ่ง  นางนา
เกินเปรียบเทียบขวัญเจ้า......เอกอ้างอื่นใด

จอมใจจรจากฟ้า...................ฤๅปาน
แปรเปลี่ยนสุดพบพาน..........แผกพ้อง
ชั่ววันกลับกลายการ..............เกินคิด
สรวงสุดดำดิ่งห้อง..................ลึกล้ำอเวจี

เหมือนมีภาพสะท้อน.............ส่องใน
ยิ้มยั่วยากอ่านใจ..................หยั่งรู้
วิบวับดั่งเงาไหว....................หายวูบ
เพียงจิตเจ้าเองผู้..................เท่านั้นแลเห็น

ราวเป็นนางก่อเกื้อ...............กอปรสุข
ตาคู่นั้นฤๅทุกข์......................สักครั้ง
เบิกบานรุ่งเรืองรุก................แลโลก
แม้นร่ำไห้ใช่รั้ง.....................เรียกร้องมองมา

เวลาลับล่วงพ้น.....................ผ่านไป
ยากจักคาดการณ์ใด.............บ่งชี้
เงาอดีตติดตรึงใจ.................แม่นมั่น
ครวญคิดตราบวันนี้..............รักนั้นนิรันดร

มิ่งสมรมีค่าล้ำ.......................ดวงจิต
เธอต่อเติมชีวิต....................หยัดยั้ง
กี่คืนกี่วันคิด........................เพียงหนึ่ง   นางเฮย
แม้ทุกข์เกินเหนี่ยวรั้ง..........ห่อนร้างห่างไกล

เก็บใจภาพก่อนโพ้น..............เสมอมา
เสียงสื่อแทรกน้ำตา................แต่งแต้ม
กี่กาลล่วงลับลา.......................ยังจด  จำแม่
หมายทุกสิ่งยิ่งแย้ม.................รักนี้คือนาง				
29 มีนาคม 2545 08:24 น.

หางนกยูง

ศาลาไทย


หางนกยูงสูงลิ่วเป็นทิวแถว
ระดะแนวดอกเกลื่อนเถื่อนถนน
ทั้งเหลืองแดงแฝงส้มผสมปน
ยามได้ยลหยุดยิ้มอิ่มหทัย

เหมือนเย้าโยกโบกกิ่งจะทิ้งก้าน
แลละลานเล่นล้อต่อลมไหว
เพียงครั้งหนึ่งผ่านมาลาลับไป
ภาพพิมพ์ใจห่อนจืดจาง...หางนกยูง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศาลาไทย
Lovings  ศาลาไทย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศาลาไทย
Lovings  ศาลาไทย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศาลาไทย
Lovings  ศาลาไทย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศาลาไทย