13 สิงหาคม 2548 10:42 น.
ศาลาไทย
ดื่นดาว
สายลมวูบผ่าวแล้วพัดผ่าน
หลบเมืองเริงร่ามาสำราญ
เยี่ยมบ้านแวะเยือนเพื่อนพ้องเรา
วังน้ำเขียว
หนทางเลาะเลี้ยวหลากเรื่องเล่า
ใครแซงอวดซ่าแกล้งท้าเอา
บ่นบ้ายินเบามาแบ่งฟัง
ทับลาน
ขับขานเพลงไพรอยู่คับคั่ง
ผืนป่าเข้มเขียวเคี่ยวพลัง
สรรพเสียงแซ่ดังยินระงม
สวนห้อม
หมายเมฆมาล้อมเหมือนผ้าห่ม
ดอกไม้เบ่งบานผ่านตาชม
หวานขมยิ้มเศร้าคละเคล้าปน
ดื่นดาว
พริบพราวพลันลับกับฟ้าหม่น
สุขทุกข์ธรรมดาประสาคน
หัวใจตอบตนเพื่อเติมเต็ม...
15 กรกฎาคม 2548 00:35 น.
ศาลาไทย
แววตา
ฉันมองเห็นศรัทธาความกล้าหาญ
เรามองเห็นความจริงนิ่งและนาน
เธอส่งผ่านความห่วงใยในแววตา
มืออุ่น
ร่องรอยคุ้นมั่นกระชับกับทีท่า
สองมือนี้ที่แผ้วถางหนทางมา
สร้างคุณค่าสู่ชนคนทั้งปวง
อ้อมกอด
ยามใกล้ชิดพร่ำพรอดห่วงและหวง
เว้นช่องว่างอย่างเข้าใจไม่ถามทวง
ภาระเธอหนักหน่วงมาเนิ่นนาน
หัวใจ
ยังคิดถึงห่วงใยไหวหวามหวาน
บนทางฝันสุขทุกข์ท้อ...ทรมาน
เราข้ามผ่านยิ้มให้กันวันพบเจอ
สัมผัส
จึงแจ่มชัดและยืนยันมั่นเสมอ
เพียงหนึ่งคนตอบหัวใจใช่เลิศเลอ
ฉันรักเธอ...เช่นนี้ที่เป็นเธอ...
ยังรักเธอ...แม้วันนี้ไม่มีเรา...
29 มิถุนายน 2548 20:55 น.
ศาลาไทย
สัญญาหน้าฝน
ชวนดั้นด้นเยี่ยมเยือนเตือนความหลัง
ล่องเรือน้อยลอยนทีสู่สีชัง
เราข้ามฝั่งทะเลใจไปด้วยกัน
ดอกลั่นทม
ราวผสมหัวใจความใฝ่ฝัน
ขาวเจือหม่นสุขโศกโลกเช่นนั้น
ล่วงคืนวันจึงเบ่งบานผ่านเวลา
ช่องเขาขาด
แลประหลาดตะวันวายหายต่อหน้า
แสงระยับสะท้อนน้ำงามตรึงตรา
คิดสายตาคมบาดแทบขาดใจ
หาดถ้ำพัง
คลื่นโถมถั่งจ่อมจมขมอกไหม้
แอบสะอื้นทบซ้อนย้อนคำใคร
เหมือนจักให้หมองหม่นจนภินท์พัง
สัญญาหน้าฝน
เพียงหนึ่งคนหมายฝากใจไปถึงฝั่ง
เสียงคลื่นฟ้าทะเลครวญชวนมาฟัง
แม้นสีชังสิ้นมนต์คนสิ้นใจ...
19 มิถุนายน 2548 10:41 น.
ศาลาไทย
สำหรับใครอื่น
ฉันมีความสดชื่น...สดใส
ฉันอยากให้คนรอบข้างยิ้มละไม
ฉันพอใจ...และยิ้มได้เช่นกัน
สำหรับเธอ
มีเพียงความสม่ำเสมอ...คือฉัน
คิดถึงห่วงใย...ความเป็นไปทุกวัน
ยังคงยืนยัน...เธอสำคัญนะคนดี
สำหรับฉัน
คนช่างฝัน...ทำนั่นโน่นนี่
ให้เธอ...เท่าที่ให้ได้...เท่าที่มี
เป็นเช่นนี้...อย่างที่เห็นที่เป็นมา
สำหรับเรา
มีสุขเศร้า...คละเคล้าคำตอบ-ปัญหา
หากเธอมอง...จะเห็นฉันได้ตลอดเวลา
และทุกครั้งที่สบตา...ฉันมองเห็น...คนที่รักเธอ
6 พฤษภาคม 2548 19:43 น.
ศาลาไทย
ชีวิต
ต่างคิดหนทางต่างความหมาย
เรียนรู้ค้นหากว่าวันตาย
ดีร้ายจริงลวงบ่วงติดตัว
ไขว่คว้า
เหนื่อยล้าหวั่นไหวในคืนสลัว
ตอบสนองตัวตนรอยหม่นมัว
กล้ากลัวรุกร้อนซ่อนอารมณ์
ปรารถนา
ฉุดคร่าสำนึกรู้สึกสม
ควั่นเกลียวสับสนจนจ่อมจม
ผ่านชื่นฉ่ำชมแล้วตรมตรอม
รัก
ฤๅประจักษ์แจ้งจริงสิ่งหล่อหลอม
เบ่งบานงดงามตามแวดล้อม
ยินยอมโศกร่ำน้ำตาริน
ใคร่
ฤๅใครรั้งฉุดแล้วสุดสิ้น
โหยหากี่หนาวกว่าร้าวชิน
เจียนดับแดดิ้นอยู่เดียวดาย
ชีวิต
น้อยนิดทั้งมวลล้วนความหมาย
เรียนรู้ตอบตนจนวันตาย
คลับคล้ายจบเริ่มเพื่อเติมเต็ม