17 พฤษภาคม 2550 19:48 น.
ศารทูล
๑. กล่าวถึง...อินทรชิตมหิทธิอสุรา
หมายเอาพระรามา............ชิวาตม์
๒. เกณฑ์ทัพรับอริพลพหลพยุหดาษ -
ดากลบพิภพหวาด.............สะพรึง
๓. ครั้งนั้นบุตรทศกัณฐครุ่นจิตคะนึง
ถึงกาลครั้งหนึ่ง.................ละล่วง
๔. ครั้งโน้นปานนภแยกพะเยิบทะลุทะลวง
ทัพยักษ์วิปักษ์สรวง...........ผยอง
๕. ครั้งโน้นองค์อมรินทร์บดินทรประลอง
กับยักษ์พิทักษ์ผอง............มิขลาด
๖. ปวงเมฆาและประดามหาอสนิบาต
วาบวับขยับฟาด.................นภา
๗. สองฟากฝ่ายรณรงค์สนั่นกลมหา
จักรวาลวิบัติพา..................วินาศ
๘. ศาสตราวุธะก็รุดกระหน่ำอริพิฆาต
ศอ/เศียร/สกนธ์ ขาด...........มลาย
๙. ครั้นองค์วาสพพ่ายและผองอมรวาย
เสียงมารกระหึ่มหมาย..........ประกาศ
๑๐. "ตูข้า...อินทรชิตพิชิตทิพยชาติ
หน้าไหน ฤ บังอาจ..............ผจญ"
------------------------------------------------------------------------
คิดว่าจะให้ฉันท์ช่วงนี้เป็นตอน "เท้าความ"
วางแผนว่าจะแต่งตอนเอราวัณต่อครับ...ถ้าทำได้
ได้แรงบันดาลใจ + อาศัยข้อมูลจาก...
"บทพากษ์รามเกียรติ์ ตอน เอราวัณ"
2 พฤษภาคม 2550 18:42 น.
ศารทูล
๐ วันเดือนก็เคลื่อนพฤษภา-
จรมาประสบพลัน
นักเรียนก็รู้นยสำคัญ
ก็เพราะนั่นน่ะเปิดเรียน
๐ โจทย์ยากจะมากและมหึมา
อุระล้า...เถอะร่ำเรียน
ทุ่มไป...บ่ไหวรึก็จะเพียร
บ่มิเพี้ยน...บ่เลิกรา
๐ เข้าแถวบ่พ้นสุริยรุม
พลทุ่มตะโกนกล้า
ร้องเพลงและทนกะสุริยา
ขณะธงสะบัดไป
๐ จบกิจกรรมะคณะครู
ก็จะขู่...แน่ะแต่ไกล
"เด็กน้อยจะหนีฤน่ะไฉน...
จรไป ณ ห้องเรียน!"
๐ โออะไรล่ะเคร่งและเครียด ณ เศียร -
จะแตกกระแทกและแยกก็เพียร
มุเรียนไป
๐ บ้างก็ง่วงและบ้างสลบไสล
โต๊ะม้าพยุง ณ ศีรษะไว้
มิให้ล้ม
๐ ครูก็บ่นและบ่นบ่เปรมบ่สม -
หทัยเพราะบ้างก็คุยกะลม
ละเมอไป
.......................................
แต่งมั่ว ๆ เล่นๆ ดูครับ...
ดูท่าจะมีที่ผิดเยอะ...แหะๆ
19 เมษายน 2550 12:21 น.
ศารทูล
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๑. เพ่งพิศบูรพทิศา
ขณะฟ้าสว่างวาว
สดแสงรวีนภสกาว
ณ สยามสิงามนาน
๒. ไทยดีเพราะมีบุพกษัตริย์
พิเคราะห์ชัดถนัดการณ์
แยบคายอุบายกลก็ชาญ
มิประมาทกะชาติไกล
๓. มากชาวประจิมตะกละตะกลาม
มนหยามและเหยียดไทย
เห็นถิ่นบุรินทร์อุดมใน -
พนไพรศิลามี
๔. เนตรเล็งเขม็งบุรพโลก
บริโภคสะดวกดี
ยึดได้มิวายหทยปรีดิ์
จะเขมือบและขุดค้น
๕. อันองค์สยามบรมราช
ภุวนาถประจักษ์กล
ทรงคานอำนาจกะริปุพ้น
ภยเภทประเทศงาม
๖. หลากมัจฉในมหรณพ
กลภพสวรรค์คาม
วัดวาผกายะรุจิวาม
วะวะวับระยับแสง
๗. เขียวคลุมชอุ่ม ณ พนเวศน์
ประลุเขตก็เปลี่ยนแปลง
เป็นทัศนซึ่งดนุแสวง
ก็ตะลึงกะโฉมเมือง
๘. เพี้ยงศักรินทรพิมาน
ชชวาลจรูญเรือง
งามเจ้าพระยาอุทกเนือง
ชลเนื่องคะนองมา
๙. เวียงวังตระหง่านคหประภัส -
สรชัดตระการตา
แพรวพรรณหิรัณยรตนา
ชวลิตะแววไว
๑๐. รวมไทยเถอะเราทะนุประเทศ
ชนะเภทและผองภัย
ก้องเกียรติสยามขจรไกล
นิรมลอมรเมือง ฯ
11 เมษายน 2550 20:38 น.
ศารทูล
๐ ละล่วงสู่ฤดูวรรษ์
วรุณพลันตระหน่ำสาย
พลาหกกระหนกลาย
สล้างสายสยายมา
๐ รวีแสงก็แผลงสี
บ่รูจีฉวีพร่า
พยับเฟื่อง ณ เบื้องฟ้า
ละล่วงมาละเลงมล
๐ นครไกลนครใกล้
ศิขรีใหญ่ ฤ ไพรสณฑ์
ณ ทุกถิ่นกระสินธ์ท้น
ขบลหวีดและกรีดไป
๐ กระแทกภพกระทบผา
บ่ไว้หน้าบ่ว่าไหน
พิรุณหรือจะร่ำไร
กระหน่ำไปกระจายโปรย
๐ ชเลชโลมหาด
ระลอกกราดประหนึ่งโหย
ชลาชาติสิกวาดโกย
กระหึ่มก้องคะนองเนือง
...............................................
หน้านี้หน้าร้อน..
แต่เนื้อความที่พรรณาเป็นฝนหน้าฝน
ถือว่าโพสต์เร็วไปฤดูนึงก็แล้วกันครับ
8 มีนาคม 2550 11:37 น.
ศารทูล
ศารทูล ถาม
๐ กระหายน้ำพึ่งน้ำ..........ดับกระหาย
ร้อนรุ่มกายลมคลาย.........ผ่อนร้อน
ยามจิตเดือดเจียนวาย.....ผันพึ่ง ใดเฮย
วายุ-วารีต้อน...................ดับได้ฤๅไฉน
ตราชู ตอบ
๐ เพียงใจเราตรึกตั้ง.......สติดู
เห็นจิตยามฟูมฟู.............เฟื่องร้อน
อย่าเคียดอย่าอักขู............เคืองต่อ
จิตอาจคืนเย็นย้อน..........ย่อมสร้างสงบศานต์
อันนี้ได้จากการคุยกันเล่นๆใน msn
ระหว่างศารทูล พี่ห้วงคำนึง และพี่ตราชูครับ
เอามาลงนี่ ยังไม่ได้ขอพี่ตราชูเลย...
เอาเป็นว่า ให้เครดิตไว้ละกันนะครับ