9 กรกฎาคม 2550 21:31 น.
ศารทูล
โตฎกฉันท์ ๑๒
๐ นิรทุกข์นิรโรค
นิรโศกหฤทัย
นิรเภทนิรภัย
รติล้ำมิระทม
๐ ธุรกิจผิวกอปร
นรชอบนรชม
คณะรักและนิยม
รินเนื่องธนหนุน
๐ ฉวิผ่องพิศพัก -
ตรลักษณสุน -
ทรมากผลบุญ
อุปถัมภบ่จาง
...........................................
หมายเหตุ
ริน (ในที่นี้ อ่าน ริ-นะ) = ทอง
17 มิถุนายน 2550 14:28 น.
ศารทูล
๐ พิศพิศนิกรภมรโผ
ระดะภาคโพยมบน
เบื้องฟ้าก็คราสุริยพ้น
ประลุพร่าพยับพราย
๐ วิบวับระยับอุทกผืน
ขณะคลื่นพะนอทราย
พราวพราวระเรื่อรวิผกาย
ภมราระเริงลม
๐ เพลินเพลินพินิจกุสุมะชาติ -
สุพิลาศตระการชม
ดำเนินก็เพลินหทยรม -
ยระเริงระรื่นใจ
28 พฤษภาคม 2550 22:45 น.
ศารทูล
อีทิสังฉันท์ ๒๑
010101012
10101012
103
0 แทนครุ / 1 แทนลหุ
2 กับ 3 แทน ครุที่เป็นสัมผัสนอก
........................................
๏ แสงอรุณละลามสนามขจี
ระเรื่อนภางค์สว่างรวี
ทิวาวัน
๏ พลิ้วพระพายสิผายขจายสุคัน
ธรสผกาบุหงาพนัน
ดราลัย
๏ รถพระศรีสุรีย์สุลักษณ์วิไล
วิโรจน์จรัสประภัสสร์ประไพ
ณ เวหน
๏ พลัน! พญาพยัคฆคลายสกนธ์
ผละนิทรภาวะอันพิมล
ภวังค์หวาน
๏ พลัน! พินิจอรุณอร่ามตระการ
พยัคฆ์คะนองก็ร้องพนานต์
สนั่นคลอน
๏ พลัน! ตะโกตะกายระเร่งระร้อน
มฤคใดปะได้สิต้อน
ตะปบผาง!
๏ พลัน! ก็ซุ่มสกนธตฤณพราง
เขม็งเขม้นมิเว้นมิวาง
มิติงไหว
๏ พลัน! ก็นิ่งพินิจระวังระไว
จะกวดจะกักจะดักไฉน
มิให้หนี
๏ นั่น! มฤคโผนกระโจน บ มี
ระแวง ฤ พรั่นประหวั่นฤดี
ประมาทตน
๏ นั่น! พยัคฆผาดผงาดสกนธ์
ถลาระรี่สิปรี่ประจญ
ก็ถึงตัว
๏ นั่น! ณ ตีนพยัคฆซอยระรัว
มฤคผวาเพราะเกรงเพราะกลัว
ตะบึงพลัน
๏ นั่น! วะวาม ณ ท่ามผกายตะวัน
แหละคือละครชิวิตอัน
มิเบือนบิด
๏ หนึ่งชิวีสยบพยัคฆ์พิชิต
มฤคเซ่นชิวาตม์ลุหิต
ชโลมริน
๏ จบละครผิว์ท่านจะเป็นอรินทร์
กะเสือก็คงจะปลงเพราะสิ้น
ชิวินหนึ่ง
๏ จบละครผิว์ตรองและลองคะนึง
มิฆาตมฤคพยัคฆ์จะพึ่ง
นราใด?
........................................
ฆาต - ฆ่า ทำลาย
ตฤณ - หญ้า
ตะโก - เสือ
มฤค - สัตวป่ามีกวาง เก้ง เป็นต้น (ความหมายที่ใช้ในที่นี้คือกวาง)
สกนธ์ - ร่างกาย
สุคนธ์ - กลิ่นหอม
26 พฤษภาคม 2550 22:00 น.
ศารทูล
ต่อจาก "มหิทธิคาถา" ครับ
(http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem102888.html)
............................
๑๘. เอราวัณนิรมิตสฤษฏ์ฉวิพิไล
เผือกผ่องพิสุทธิ์ใส...................สะอาด
๑๙. ร่างแปลงอินทรชิตพินิจคชมิพลาด
เหมือนจริงบ่ตกขาด................พิบูล
๒๐. เสร็จพร้อมสรรพก็ประทับ ณ พารณอสูร -
ฮึกเหิมและเพิ่มพูน..................พลัง
๒๑. สามสิบสามศิระเลิศ ณ แต่ละศิระยัง
เจ็ดงาอะคร้าวปลั่ง..................ประกาย
๒๒. งามเจ็ดโบกขรณี ณ ทันตคชพลาย
เจ็ดกออุบลราย.......................ระบัด
๒๑. กอหนึ่งเจ็ดกุสุมาลยบงกชกระหวัด
เจ็ดกลีบรุจีรัศมิ์......................ตระการ
๒๒. เจ็ดนางอัปสรร่ายระบำระดะละลาน
เหนือกลีบผกาบาน................จรูญ
๒๓. นางหนึ่งเจ็ดบริวารพินิจรมณิปูน
นางใน ณ ไวกูณฑ์.................บ่ปาน
๒๔. ทุกเกศกุญชรหนุนอมรศุภพิมาน
รงรองละลานนาน.................นิรันดร์
๒๕. โลทันสารถิมาระขับคชก็ผัน
สู่พื้นโพยมอัน..........................พิมล
๒๖. มากหมู่โยธประดังประดาอสุรพล
เหินหาว ณ เบื้องบน................นภา
๒๗. ล้วนรูปลวงนิรมิตฤษิตวิทยา
นาเคนทร์และครุฑา................ผงาด
๒๘. งดงามยิ่งรุจิเรขอลงกตพิลาศ
จิตรกร ฤ ห่อนวาด.................เสมอ
๒๙. โอ...เป็นเอกกลเล่ห์กระเท่หผิวะเผลอ
จิตหลงละเมอเจอ....................กิเลศ
๓๐. ติดตาติดอุรตรึงพินิจจิตแหละเหตุ
โมหันบ่ทันเลศ -.....................ศนัย
๓๑. เฉกเช่นลักษมณา ธ พาชิวิประลัย
หลงภาพมิเห็นภัย...................ประมาท
๓๒. มาราอินทรชิตก็แผลงศรพิฆาต
เด็ดเสีย ณ ชีวาตม์...............พระลักษมณ์
๓๓. ดังนี้...เป็นคติพึงคะนึงจิตตระหนัก
ตรองก่อนชิวาจัก....................มลาย ฯ
...........................
อ้า...สุดท้ายแล้ว...
จบลงที่ 33 บท เท่ากับจำนวนเศียรเอราวัณพอดี...
การบรรยาย + คำศัพท์คงไม่หรูเท่าใดนัก
แต่ก็ขอขอบพระคุณที่สละเวลามาอ่านงานที่...
ผม...ตั้งใจทำมาก...ชิ้นนี้นะครับ
26 พฤษภาคม 2550 21:45 น.
ศารทูล
ต่อจาก "อินทรชิต" ครับผม
(http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem102445.html)
................................................
๑๑. เมื่อนั้นอสูรพิชิตอิน -
ทรเอ่ยมหามนต์
ได้มา ณ คราบุรพดล
ณ สกนธผกผัน
๑๒. จากมาระสู่ทิพยลัก -
ษณะพักตร์สง่าครัน
ห่อนผิดกะอินทรสวรร -
คบดีเสด็จมา
๑๓. ท่ามทัพระยับพหุพหล
ตะละตนก็ยักษา
แปรเป็นประดาอภิมหา -
คณะเทวะทัพชัย
๑๔. งามธงธวัชทิวพิจิตร
พหุทิศระบือไกล
งามทิพยอาวุธะไสว
กระแหนะแกว่งกระหนาบกัน
๑๖. บุตรทศกัณฐนิรมิต
และประดิษฐ์ประดอยบัน -
ดาลทิพยพาหนประชัน
คชสักกะจอมสรวง
๑๗. เลิศฤทธิ์มหิทธิคชชาติ
สุพิลาศพิไลลวง
ไตรตรึงษศีรษะและงวง
ก็ตวัดกระหวัดไกว
..........................................
ต่อจากนี้คือ..."เอราวัณ" ครับ!!