6 กุมภาพันธ์ 2554 03:11 น.

คมคน..คมน้ำ

ศรีสมภพ

คมคน.. คมน้ำ 
     
      คมน้ำ ! สุดคมถล่มล้าง  
ทั่วทิศทางทะลุทะลวงทุกท่วงท่า
ใดใดกั้นกีดขวางทางลงมา 
 เหมือนทายท้าความคมถล่มทะลวง
ทิศทางธรรมชาติถูกปัดเปลี่ยน 
 มนุษย์เขียน ขีดเส้นน่าเป็นห่วง
ไม่คำนึงถึงความจริงสิ่งทั้งปวง 
จึงก้าวล่วงบ่วงสัจธรรมนำภัยมา

ตัดไม้ ทำลายป่าน่าอนาถ        
ล่วงล้ำ.. ธรรมชาติหวาดผวา
ขุดถมขวาง ทางน้ำไม่นำพา 
เหมือนทายท้าธรรมชาติวิบัติภัย

แล้ววันหนึ่ง.. ก็ถึงซึ่งความสัจจ์   
โลกข้องขัดอัดอั้นมิทานได้
ต้องสั่งสอนมนุษย์บ้างช่างเป็นไร 
 ให้รู้ไว้ใครรุกเข้า..โลกเอาคืน !

ฝนกระหน่ำน้ำท่วม อ่วมจมมิด    
ทุกชีวิต ต่างหนีน้ำช้ำสุดฝืน
ไร้ผืนดินถิ่นฐานบ้านเหยียบยืน    
สุดขัดขืนฝืนสู้ ..ผู้แค้นเคือง
ฟ้าคำรามน้ำไหลทลายถล่ม  
บ้านเรือนล้มล่มแหลกแตกลอยเฟื่อง
โกลาหลบ่นลั่นกันทั้งเมือง    
บ้างแค้นเคืองด่าฟ้าดินสิ้นยางอาย

มนุษย์เอ๋ย ! เคยไหมได้สำนึก   
และรู้สึกตรึกตรองมองเห็นได้
มีชีวิตเป็นอยู่ แค่ผู้อาศัย  
ทำตัวใหญ่ไม้รู้ดี ขี้บนหลังคา !

เจ้าของบ้าน สุดทานทนจึงบ่นบอก  
คืบลามศอกบอกให้อย่าได้ช้า
รีบกลับตัวกลับใจ ใส่นำพา    
โลกอ่อนล้าร้อนรน..เพราะคนทำ

คมน้ำ..  แม้สุดคมถล่มล้าง    
แต่ก็ยัง แพ้คมคน บนผืนน้ำ
คมกิเลส.. ทะลวงใจให้กระทำ    
ทะลุน้ำถล่มพื้น.. เกินฟื้นฟู !				
6 กุมภาพันธ์ 2554 03:04 น.

เพลงไผ่

ศรีสมภพ

 เพลงไผ่   

.. ลมแรงไล่ ไผ่เอน เล่นลมลู่
ไผ่ใคร่อยู่จึงลู่ลม ล้มให้ผ่าน
โอนอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ทนทาน
ลมร้ายนั้นรานแค่ปลาย..ไผ่อยู่ยัง

พุ่มไสวใบหนาท้าแดดเผา
ใต้ร่มเงาเนานับกับความหลัง
กอไผ่เบียด เสียดสีมีเสียงดัง
เสนาะจังฟังเพลงบรรเลงพา

ใต้ต้นตอ หน่อโผล่พ้นดินผาก
เป็นผลฝากจากแม่แพร่พันธุ์กล้า
ไผ่ตงหวาน ฝานต้มแกงแจงจัดมา
ไผ่รวกหนา สานฝากั้น บ้านโบราณ

แสนสุขจัง นั่งห้างสร้างด้วยไผ่
บนต้นไม้ไพรพงดงสถาน
กอไผ่อยู่ คู่เคียงคนจนชั่วกาล
แตกลูกหลานกันใหญ่มากมายจริง

ไผ่บงบางไผ่ซางหนา น่าพันผูก
ไผ่สีสุก ปลูกในบ้านแตกก้านกิ่ง
มงคลไม้ ให้ซื่อตรง คงพึ่งพิง
ระยับยิ่ง กิ่งไผ่ทอง งามต้องใจ

.. ลมลู่ใบ ไหวเพลิน ไผ่เงินพริ้ว
ขลุ่ยไผ่ผิว หวิวหวีด ชีวิตไผ่
เกิดจนตาย ให้ผลพูน คุณต้นใบ
แสนยิ่งใหญ่ ไผ่พันธุ์.. นิรันดร !				
6 กุมภาพันธ์ 2554 03:00 น.

บัวพ้นน้ำ(ล้ำ)

ศรีสมภพ

บัวพ้นน้ำ (ล้ำ)


วันเดือนเปลี่ยน เวียนไป ปีไล่วก
สัจจะโลกโศกสุข คลุกเปลี่ยนผัน
บัวพ้นน้ำ ค้ำช่อ ล้อตะวัน
ใต้น้ำนั้น พลันสยบ กลบฝังตาย

หยิ่งผยอง พองขน ว่าพ้นล้ำ
อยู่เหนือกรรม ทำกร่าง ไม่วางหาย
หลงอวดเก่ง เบ่งบ้า ฆ่าไม่ตาย
เหมือนเหล่าหลาย ใต้น้ำ ช้ำจมดิน

อีกเหนือนั้น ตะวันแดง สาดแสงกล้า
แผดเผาไหม้ใต้ฟ้าอาณาถิ่น
เหนือใต้น้ำหรือข้ามพ้นทั้งบนดิน
อาจดับดิ้นสิ้นแรงแห่งกฎกรรม

จะโง่เง่าก้าวฉลาดก็พลาดพลั้ง
หากจิตยังอยากได้ไม่อิ่มหนำ
ทั้งตัณหาราคะไม่ละทำ                       
ถึงเหนือล้ำก็แค่รอ ...ฝ่อแห้งตาย				
5 กุมภาพันธ์ 2554 13:08 น.

ชัยชนะ! ของผู้แพ้

ศรีสมภพ

ชัยชนะ ! ของ..ผู้แพ้
  
..ซากกองสุม คลุ้มคลั่ง หลังเรื่องยุ่ง
 สาบกลิ่นคลุ้ง  ควันชัง หลังเผาผลาญ
เสียงสวดส่ง ปลงผู้สิ้น สืบวิญญาณ                                                               
ร่ำไห้กัน กลั้นสะอื้น ฝืนบรรเทา

 ข้างสองฟาก ซากเคยอยู่ ของผู้แพ้
เหลือเพียงแค่ แลร้าง ความว่างเปล่า
บ้านร่วมอยู่ อู่อิงอุ่น นอนหนุนเกล้า
ถูกสองเรา เผาผลาญ คืนผ่านมา
   
ไฟโกรธา.. ถาโถม โหมน้องพี่
กลบความดี ที่เรา เฝ้าก่อกล้า                                                                      
เกาะเกี่ยวก้อย คอยช่วยกัน ฝ่าฟันมา                                                         
สร้างหลังคา คลุมดิน ถิ่นแม่พ่อ  

    ไฟโลภหลง ปลงปลด หมดสายเยื่อ
ไม่มีเหลือ เชื้อตระกูล คุณเคยก่อ
เป็นศัตรู ไม่รู้ตัว กลัวไม่พอ
   ซ้ำเติมต่อ พ่อแม่ยั้ง ไม่ฟังกัน                                

ช่างน่าเศร้า.. ต่างเผาบ้าน อนันต์อนาถ                                                         
เข้าฟันฟาด ประกาศศึก ฮึกเหิมลั่น                                                            
เลือดพี่น้อง ผองเผ่า เราขาดกัน !                                                                  
ต่อนี้นั้น บ้านจะพัง ช่างหัวใคร    

  รวมเพื่อนกล้า ถาโถม โรมรันสู้
ถ้ากูอยู่ มึงอย่าอยู่ จงรู้ไว้
เร็วพวกเรา ! เผาเข้าไป ให้วอดวาย
เอาให้ตาย ต้องชนะ  ฉะพวกมัน !


เห็นกองซาก ยากกอบกู้..จะอยู่อย่างไร ?                                                     
เหลือเศษไฟ ไหม้ดำ ช้ำโศกศัลย์                                                                   
ฝั่งฟากสอง พี่น้องจ้อง มองตากัน                                                                     
ร่ำรำพัน ฝันหรือจริง นิ่งงงงวย


ใครชนะ.. หรือ ใครแพ้.. ก็แค่นี้
หลงตนดี หลงตัวไป ใครจะช่วย
บ้านมอดไหม้ ใครหลายคน ก็มอดม้วย
หวังใครช่วย ร่วมด้วยกัน เผาบ้านเอง				
5 กุมภาพันธ์ 2554 07:09 น.

ละแล้วว่าง..วางก็เบา

ศรีสมภพ

..ธรรมชาติ วาดและบรรเลง เพลงธรรมชาติ
    คือสิ่งสัจจ์ ชัดแจ้ง ทุกแห่งหน
    สรรพสิ่ง  วิ่งหรือว่าย ในวังวน
    มีอีกมาก อยากพ้น ยังวนในขอบ
  
      แสงทอง..ส่องทาง สร้างสัจจะ
     ธรรมะ คละเคล้า เข้าคลุมครอบ
     หลากหลายคน ค้นคว้า  หาคำตอบ
     หารู้ไม่ ?  อยู่รายรอบ ..ใกล้ใกล้ตัว

     แสวงหา มานาน  วันคืนพ้น
     ศึกษา คว้าค้น จนถ้วนทั่ว
     ลองถูก ลองผิด จนจิตมัว
     ที่แท้ แค่รอบตัว ..ตามัวเอง

       ไม่มีอะไร !  .. ในความว่าง
     ทุกอย่าง มีเหตุปัจจัย ใช่กาจเก่ง
     เหตุและผล วนว่าย ในตัวมันเอง
     ธรรมชาติ วาดและบรรเลง ในเพลงเดิม

     มนุษย์ปัญญาน้อย.. ลอยไหล ไปตามความอยาก
     เคี้ยวเต็มปาก ยังอยากจะเคี้ยว มาเกี่ยวเสริม
     อิ่มก็สุข อยากก็ทุกข์ ..คลุกอย่างเดิม
     แล้วก็เริ่ม แล้วก็จบ  กี่ภพกี่ชาติ่ !

     ต่างหลงใหล ในสุข จนทุกข์ท่วม
     สุขทุกข์ร่วม รวมเป็นสุข สนุกเป็นทาส
     ทางแห่งพุทธ หยุดมันได้ ให้หลุดให้ขาด
     แค่สลัด !  ปัดพ้นร่าง  ..ก็บางเบา

       พบแล้วนะ ? ..ธรรมมะ ละแล้วว่าง
    หลงแบกหนัก ไม่พักวาง..ก็เป็นอย่างเก่า
    ปลดแอกลง ปลงจากบ่า อย่าไปเอา ! 
    ปล่อยตัวเบา   เปล่าว่าง ! ..อย่างชื่นบาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ