5 พฤศจิกายน 2554 05:18 น.
ศรีสมภพ
ฟ้าเริ่มสาง..ลางลางจะย่างเช้า
กลิ่นคลุ้งเคล้าข้าวจี่ คลี่บ้านป่า
เปิดหน้าต่างกว้างกว้างถ่างสองตา
เห็นลีลาฟ้าสีทอง ฉลองอรุณ
นับหลายวัน ผันผ่านกลับบ้านเกิด
หนีเตลิด ตลุยน้ำข้ามความวุ่น
เมืองสวรรค์อันตรธานบ้านเคยอุ่น
ต้องหัวหมุนลุ้นแต่น้ำพร่ำทั้งวัน
อัตคัดขัดสนต่างทนทุกข์
น้ำเริ่มเข้าเคล้าคลุกทุกหย่อมย่าน
มันแทรกซึมชอนไชไม่เกรงกัน
ตึกรามร้านบ้านรวยจนเข้ายลเยือน
ข้าวจะกล้ำน้ำจะกลืนสุดฝืนกล้า
ต้องลุยหาทำยายากขยักเขยื้อน
มนุษย์บก..ต้องผกผันรอวันเคลื่อน
ปรับตัวเลื่อนเคลื่อนสู่จุด..มนุษย์น้ำ
ทุกขณะ เร่งระดับขยับขึ้น
ต่างแตกตื่นโกลาหลเสียงบ่นพร่ำ
เหม็นกลิ่นเน่าเข้าจมูกเริ่มรุกล้ำ
กลิ่นน้ำครำสีคล้ำๆ ย่ำเนืองนอง
มวลขยะ สุดแขยงแย่งส่งกลิ่น
รถเรือวิน กินเงินคนจนหน้าหมอง
ขวดละร้อย หนอยแน่ะน้ำจำต้องมอง
โขกราคาค่าข้าวของ สยองใจ
ทั้งไฟฟ้าประปามาถูกตัด
โดนบีบอัด ถูกจัดหนักชักไม่ไหว
เมืองสวรรค์มันจ่อมจมจนจุใจ
นรกร้าย! เข้ากรายกล้ำน้ำครองเมือง
ข่าวไม่ชัวร์ มั่วเอาอยู่..หรือไม่อยู่ !
ต่างเจาะรู ม็อบขู่กันมันมากเรื่อง
เห็นแก่ตัวกลัวเสียของ นองทั้งเมือง
เหนื่อยหน้าเหลืองเรื่องชักใหญ่..ไปดีกว่า
เก็บข้าวของเสื้อผ้า ลาเมืองหลวง
กลับบ้านเราแม่เฝ้าห่วง โทรทวงหา
เมืองแห่งเทพ เทพยังหนีไม่มีท่า
กลับบ้านป่า มาเลียแผล แม่ยังรอ
ฟ้าเริ่มสาง.. ย่างข้าวจี่สุขีสุขโข
เห็นตะวันดวงกลมโต โผล่เหลี่ยมเขา
เปิบข้าวจี่ บี้อาหารในจานเก่า
มันคลุกเคล้าเริ่มเข้าใจ ..ไม่กลับกรุง !
อรุณรุ่งละไมละเมียด ...ชักเกลียดกรุง
4 พฤศจิกายน 2554 08:28 น.
ศรีสมภพ
ลอยกระทง ประเพณีที่สุขสันต์
หลายจังหวัดจัดงานกันสนุก
มีความแปลกแตกต่างไปในทั่วทุก
ต่างปรีดิ์เปรมเกษมสุขทุกถิ่นไทย
ลอยกระทง..ปลงใจในสงสาร
ฝากสังขารวานสายน้ำนำล่องไหล
ความเกิดดับสรรพสิ่งยังยิ่งใหญ่
อยู่ที่ใจใช่กระทงที่ลงลอย
นำกระทงมาปลงเปรียบเทียบชีวิต
ต่างประดิษฐ์วิจิตรล้ำงามไม่น้อย
เพ็ญสิบสองต้องจำลาถึงคราลอย
เมื่อชีพหมดก็ปลดปล่อย..ลอยอังคาร
ลอยกระทงประเพณี ปีนี้ประหลาด
หลายจังหวัดจัดแนวใหม่ไม่ลือลั่น
ลอยกระทงตรงไหนก็คล้ายกัน
น้ำท่วมบ้าน มันหมดใจไร้อารมณ์
กระทงน้อย กระทงใหญ่ กระทงสาย
ไหลเรือไฟ ในอีสานมันขื่นขม
หลายจังหวัดน้ำจัดหนักถูกผลักจม
ร้องระงมล่มสลายไร้อาหาร
หลากกระทงหลงทาง กลางกรุงใหญ่
กาละมัง ถังน้อยใหญ่หลายสีสัน
ลอยกันเกลื่อนเหมือนกะลามาขอทาน
ยืนลอยคอ รออาหารแบ่งปันน้ำ
กระทงเรือ กระทงโฟม ระดมหนี
กระทงกล่องท่องวารี สีไม่ซ้ำ
กระทงคน บนบ่าแบกลุยแหวกน้ำ
หน้าดำคล้ำ คร่ำเคร่งเร่งรีบไป
ทีวีหลาย ไร้โปรโมทลดเรตติ้ง
กระทงจริง งานนิ่งเงียบ เสียบข่าวใหญ่
ลอยทั่วทิศชีวิตจริง เรตติ้งกระจาย
ทุกช่องฉาย หลายกระทงหลงทั่วกรุง
เจ้าพระยาคงไม่ต้อง ลอยคลองใหม่
มีคลองใหญ่..วิภาวดีที่หมายมุ่ง
พหลโยธิน กินน้ำลึกหว่างตึกสูง
ตรอกซอกซอยลอยคละคลุ้งยุ่งทั้งวัน
ลอยกระทง ๕๔ ปีนี้ใหญ่
กระทงใหม่ไอเดียเกิด เปิดสะท้าน
ประทับจิตพิชิตใจไปอีกนาน
อลังการงานสร้าง..ทุกอย่างสมจริง !
นิ่ง ..เงียบ ..มืดดำ ..ทุกค่ำคืน !
3 พฤศจิกายน 2554 08:52 น.
ศรีสมภพ
นัยแห่งน้ำ..ความจริงเป็นสิ่งหนึ่ง
หมายบ่งถึงซึ่งธาตุสี่อินทรีย์มนุษย์
นัยแห่งน้ำ..หมายคำความยามที่สุด
สำนวนผุดหลุดออกมา..ว่ากันไป !
น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ เพื่อสกัด
ความแรงอาจซัดล่มจมน้ำได้
ผู้มีอำนาจวาสนา อย่าขัดใจ
เอากิ่งไม้ ไปงัดซุง ยุ่งถึงตาย
น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง
คุยไม่เกรงเพลงไม่ดัง ฟังไม่ไหว
ไร้แก่นสารบันเทิงกระเจิงกระจาย
พูดให้ตาย ไร้คนฟังยังจะคุย
น้ำตาลใกล้มด อดใจไหวหรือ?
ต้องแย่งยื้อ ถือให้ได้ใช้ปากบุ้ย
มีลาภปากถากมาใกล้ ใครก็ลุย
เหมือนเฒ่าทุย ลุยหญ้าอ่อนนอนพุงกาง
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ไฉนสู้
เล่นพวกหมู่ สู้ก็พ่าย ไฟมันคลั่ง
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ยังน่าฟัง
หมูสู้ช้าง สู้อย่างไรก็พ่ายแพ้
น้ำเย็นปลาตาย.. น้ำไหลไฟดับ
พูดไปพูดกลับ กล่อมหลับแน่ๆ
ใส่น้ำมนต์พ่นน้ำลาย ไม่มีแคร์
ปลาตายแน่ แค่น้ำเย็นเป็นคารม
น้ำสั่งฟ้าปลาสั่งฝน จนน้ำท่วม
คนไหลรวมร่วมแต่ทุกข์ สุขไม่สม
น้ำท่วมปาก ยากแค้นแสนระทม
ขุดคันล่ม สมน้ำหน้าด่าแย้งกัน
น้ำขึ้นให้รีบตัก ของฝากช่วย
ร่วมกินด้วยช่วยแย่งยื้อ เขียนชื่อฉัน
บริจาคฝากมาช่วย อำนวยกัน
ตามไม่ทัน มันกินเรียบเงียบตามเคย
น้ำใสใจจริง เอาทิ้งไว้ไหน?
น้ำตาตกใน ใครทักไม่อยากเอ่ย
ดีหรือชั่ว รู้ตัวทำกรรมคงเผย
ชั่วจนเคย เลยต้องพังอย่างที่เห็น
น้ำพักน้ำแรง แบ่งงานช่วยกันสู้
น้ำหนึ่งใจเดียว เกี่ยวกู้ต้องรู้เช่น
น้ำอดน้ำทน ช่วยพ้นภัยหลายประเด็น
น้ำลดตอผุด หลุดให้เห็นเป็นเวรกรรม
น้ำท่วมบ่า น้ำตาตกใน น้ำใจไทยหลั่ง
ยังมีหวัง ยังมีเพื่อนเหมือนเราซ้ำๆ
น้ำตาเช็ดหัวเข่า เรานั้นต้องจำ
เปลี่ยนพฤติกรรมเคยทำต่อโลก ..โชคนั้นยังรอ !
1 พฤศจิกายน 2554 21:22 น.
ศรีสมภพ
หน้าสิ่วหน้าขวาน ! จะพาลไปใย
อาจจมน้ำตาย มันไม่ใช่เรื่อง
อดีตกรีดใจ ต่างร้ายคายเคือง
อย่าให้เป็นเรื่อง ต่อเนื่องเคืองกัน
วิกฤติวิบัติ ชาติอาจสลาย
กินแหนงแคลงใจ มันไม่สร้างสรรค์
ยังจะมีหน้า มาท้าทายกัน
หน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่มีเวลา
ความไม่ชอบพอ ต้องขอมาร่วม
น้ำหลากมากอ่วม น้ำท่วมไหลบ่า
นิคมเขตคาม ถล่มล่มหรา
ต้องใช้เงินตรา เยียวยามากล้น
ทิฐิมานะ ละก่อนได้ไหม?
เราหรือใช่ใคร ผองไทยผองชน
อยากเอาชนะคะคานฉะชน
ขอให้ภัยพ้น ชนให้สะใจ !
ยกมือไหว้ขอ พอแล้วครับท่าน
ก้มราบกราบกราน ทุกท่านยิ่งใหญ่
น้ำใหญ่ไหลล้น ผู้คนใกล้ตาย
ยื้อแย่งแบ่งฝ่าย มันไร้เหตุผล
หน้าสิ่วหน้าขวาน ! เหตุการณ์เลวร้าย
ร่วมจิตร่วมใจ ป้องภัยปัดพ้น
น้ำลายถล่ม อาจจมทุกคน
น้ำใจไทยชน ..จะพ้นภัยพาล
เมื่อไรภัยผ่าน จะพาลก็ยอม !
1 พฤศจิกายน 2554 08:35 น.
ศรีสมภพ
ลดเท่าไหร่? เยอะไหม? ไปกี่เซ็นต์?
คำถามเว้น ความเห็นตามถามกันทั่ว
กรุงอ่วมซ้ำ กลางน้ำลดต่างหมดตัว
มันพันพัวเป็นหัวท้ายที่พ่ายแพ้
ซากแนวรับ ทับถมล่มสลาย
ขจัดขจายไปทุกที่มีบาดแผล
กระสอบวิ่น อิฐหินทรายไร้คนแล
แนวรับแน่ แค่ข้ามวันมันทลาย
คราบรอยน้ำ ผนังตึกผนึกเด่น
รอยแผลเป็นวัดระดับกับครั้งใหม่
ปีนี้ซ้อม ปีหน้าจริง นิ่งยังไง?
บทเรียนใหม่กลายเป็นเก่าเมื่อเขาเยือน
ริมทางสอง กองให้หลากซากน้ำบ่า
ชุดโซฟาร์ราคาสูงรุงรังเกลื่อน
โต๊ะตู้เขื่องเครื่องไฟฟ้ามาเป็นเพื่อน
อีกเครื่องเรือนเปื้อนน้ำนองกองพะเนิน
กลิ่นคาบคาว คละคลุ้งฟุ้งตลบ
ซากคาคบสยบน้ำ ยังทำเขิน
มีเลนตมถมทับไม่รับเชิญ
เห็นส่วนเกิน เมินส่วนขาด อึดอัดใจ
ข่าวทีวี น้ำปรี่สูงกรุงเทพเฉา
คือน้ำเก่าที่ทิ้งเราเข้ากรุงใหญ่
หยดน้ำตาที่เอ่อล้นปนเปไป
ภาพร่ำไห้ คล้ายภาพเราเมื่อคราวก่อน
ศิษย์ผู้พี่ แม้ดีใจในน้ำลด
แต่ก็อดรันทดใจในข่าวร้อน
น้ำท่วมกรุงต่างมุ่งหนีไร้ที่นอน
ศิษย์ผู้น้อง ต้องแรมรอนร่อนเร่ไกล
นครสวรรค์ ! มันสลายไปก่อนน้อง
แล้วไหลล่องนองอ่วมท่วมกรุงใหญ่
ไม่มีเงิน ไม่มีของ ล่องไปให้
ส่งแรงใจ ส่งไม้ต่อ ..อย่าท้อใจ
ลดห้าเซ็นต์ ! เห็นทรงๆ ! ลงไม่มาก !
เริ่มโผล่ซากสงครามแห่งน้ำใหญ่
นครสวรรค์นรกสาป เริ่มปรับใจ
น้ำลดไหลไปล้อมกรุง ..อีลุงตุงนัง!
ต้องเรียนรู้ อยู่กับมันอย่าหวั่นไหว
ต้องรับได้ ต้องทำใจไม่หมดหวัง
ทุกสิ่งชัด อนัตตา อนิจจัง
ศิษย์ผู้น้องลองอ่านฟัง ..ตั้งใจเรียน