18 มกราคม 2551 22:17 น.
ศรัทธา จักรภัทร์
ชาวนาคนหนึ่ง นั่งเงียบ ๆ อยู่ลำพัง ท่ามกลางแสงมืดสลัว ของเช้าวันหนึ่ง ซึ่งหนาวเหน็บ ต้นเดือนพฤศจิกายน
น้ำค้างที่เกาะบนยอดหญ้า ที่ลานหน้าเพิงพักของชาวนาผู้นั้น ใสและเย็นยะเยือก ลมหนาวแรกเพิ่งพัดผ่านมาเมื่อคืน หลังจากเม็ดฝนเม็ดสุดท้าย สั่งลาพื้นนาอันเขียวชอุ่มไปเมื่อปลายเดือนก่อน
แสงอาทิตย์กำลังมาเยือนอีกครั้ง แม้จะไม่สามารถไล่ความหนาวเหน็บที่ชาวนาผู้นั้นต้องทนให้มันกรีดกระทบผิวกายเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาได้หมด แต่มันก็เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า คืนหนาว คืนแรกในปีนี้กำลังผ่านพ้นไป
ชาวนาต้องเฝ้ารออีกกว่า 300 วัน ที่สายฝนจะกลับมาทำให้หัวใจเขชุ่มฉ่ำอีกครั้ง
ชาวนารอเม็ดฝน เพื่อจะได้เริ่มดำนา ปลูกข้าว และเก็บเกี่ยวไว้ใช้กินตลอดทั้งปี
แต่เมื่อฤดูฝนผ่านไป ชาวนาก็ได้แต่เฝ้ารอว่าฝนเม็ดใหม่จะมาถึงในเมื่อไหร่
ใช่...
ฉันเฝ้ารอ การกลับมาของบางสิ่ง
ที่จะทำให้หัวใจฉันได้ชุ่มฉ่ำอีกครั้ง
ที่จะทำให้ฉันมั่นใจว่ากล้าที่หว่านลงไปนั้นจะเติบโต เป็นข้าวรวงสีทอง
และมากพอที่ฉันจะเก็บเอาความดื่มด่ำนั้นไว้หล่อเลี้ยงชีวิตได้เพียงพอ ก่อนที่บางสิ่งนั้นจะหวนกลับมาอีกครั้ง
ฉันเหมือนชาวนา...
ที่รอฤดูฝน...
ที่จะเวียนกลับมาทุกปี
สำหรับฉัน แม้ว่าสิ่งเฝ้ารอ จะไม่วนเวียนกลับมาให้ชุ่มฉ่ำได้มากนักเท่าสายฝน
แต่ชั่วทั้งชีวิต
ฉีนก็รู้ว่าสิ่งนั้นจะยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไกลจากฉัน
และก็คงไม่ยากเกินไปที่จะกลับมาอยู่ตรงหน้าฉัน
อย่างน้อยก็คงสักครั้งหนึ่ง
ตราบที่ชีวิตยังมีลมหายใจ
ฉันเป็นชาวนาที่เฝ้ารอสายฝนจากเธอ...