23 เมษายน 2550 11:36 น.
ศรทอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายในวันครอบครัวหรือวันที่14 เมษายน 2550 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงประมาณบ่าย2โมงของวันนั้น มีน้ำป่าไหลมาจากภูเขานักท่องเทียวที่ไปเที่ยววันนั้นบอกว่า "เห็นน้ำมันขุ่นๆผิดปกติแต่ก็ไม่เอะใจอะไร สักพักหนึ่งกระแสน้ำก็แรงขึ้นเรื่อยจนนักท่องเที่ยวที่ลงไปเล่นน้ำและไม่ได้ลงไปเล่นแต่อยู่บริเวณ ถูกพัดไปกับกระแสน้ำที่เฉี่ยวกราก ตั้งแต่บ่ายวันนั้นก็เริ่มมีการค้นหาแต่หาเจอแค่ไม่กี่ศพบางคนก็รอดมาได้แต่บางคนก็เสียชีวิต หาจนกระทั่งเย็นและเลิกหาไป วันรุ่งขึ้นก็เริ่มหากันใหม่และก็เจอเพิ่มอีกแต่ก็ยังไม่ครบ ทำให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น บางคนไม่กล้าไปเที่ยวน้ำตกอีกเลยในชีวิตที่เหลือ
มันเป็นการประมาทของคนเราธรรมชาติทดสอบเราว่าเราจะรู้ไหมว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
23 เมษายน 2550 08:05 น.
ศรทอง
สึนามิเกิดจากแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล ก่อนเกิดสึนามินั้นน้ำทะเลได้ได้ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างกะมีเครื่องสูบน้ำขนาดยักษ์สูบน้ำทะเลลงไป สักพักหนึ่งน้ำทะเลก็ขึ้นสูงและพัดเข้าชายฝั่งของนานาประเทศ ประเทศที่โดนหนักที่สุดคือประเทศอินโดนิเซีย ประเทศไทยนั้นที่ว่าโชคดีที่โดนไม่ค่อยเยอะ อย่างผมเนี่ยเป็นคนกรุงเทพ อยู่กรุงเทพตั้งแต่เด็กๆยังรู้สึกว่า "เออ!ถ้ามันเกิดขึ้นที่ๆไม่ควรเกิดเนี่ย มันจะเป็นยังไง" เขาว่าสึนามิเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นและเกิดขึ้นมากที่สุดก็ที่ญี่ปุ่นเช่นกัน การเกิดสึนามิครั้งเดียวทำให้ประเทศไทยตื่นตัวขึ้นมาทันที และป้องกันประเทศโดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่แถบๆชายฝั่ง คือ ชาวประมงนั้นเอง ทำให้ชาวประมงไม่กล้าออกไปหาปลาอีกเพราะกลัวว่าคลื่นสึนามิจะมาอีกครั้ง หลังจากเกิดสึนามิได้ไม่นาน พวกนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติไม่กล้ามาจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยอีกเลย จนรัฐบาลไทยต้องทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว แต่ตอนช่วงนั้นเป็นช่วงปีเก่าขึ้นปีใหม่ ทำให้เงินที่สะพัดเข้าประเทศลดน้อยลง
สึนามิก็เกิดกันมานานแล้วแต่ถ้าครั้งต่อไปถ้าเจอน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ของให้รีบออกมาจากชายฝั่งทันทีเพื่อความปลอดภัยนะครับ
22 เมษายน 2550 16:43 น.
ศรทอง
วันหนึ่งทนายคนหนึ่งต้องไปศาลเพื่อไปพิจารณาคดีตามปกติของ เขาก็ไปขึ้นศาลแต่วันนั้นเขาเจอคนร้ายคนหนึ่งวิ่งเป็นผู้ชายที่เล่นตัวคือ ไม่ยอมให้ปากคำกับเจ้าพนักงาน บอกว่าจะไปให้ปากคำในศาลเท่านั้นวันนั้นทนายคนนี้ไปเป็นทนายของฝ่ายตรงข้ามแล้วไปเจอคนแบบพวกงี่เง่าไม่ยอมให้ปากคำในศาล ตอนเริ่มการพิจารณาคดีชายคนนี้ชายคนนี้ด็มาสายเลยโดนทนายและคณะลูกขุนว่าเอา และพอเริ่มพิจารณาคดีชายคนนี้ก็แสดงกริยาที่ไม่สมควรทำในห้องพิจารณาคดีและในศาลเขาก็ให้ปากคำวกไปวนมา ทนายก็สอบปากคำยังกับทนายเป็นเจ้าพนักงานที่คอยสอบสวนชายคนนี้อยู่ตลอดเวลา ขณะลูกขุนเลยถามทนายคนนี้ว่า "เออ!อาจารย์ ชายคนนี้โดนข้อหาอะไรหรอ ทนายก็ตอบว่า "อ่อ!โดนข้อหาค้ายาไอซ์ รู้สึกว่าจะโดนจำคุกสามสิบปีแต่นายคนนี้ไม่ยอมอุทธรณ์มาจนอุทธรณืมาจนถึงศาลอุทธรณ์ เห็นแกบอกว่าถ้าศาลชั้นนี้ให้โทษเบากว่าศาลชั้นต้น แกก็จะยอมรับโทษ"เมื่อทนายคนนี้พิพากษาคดีจบแล้วก็คิดว่า "เนี่ยคงจะเป็นคนที่แย่ที่สุดแล้วมั่งเนี่ย" คือเขาไม่ค่อยจะพอใจเป็นทนายให้หลายต่อหลายคนแล้วพิ่งเจอตาเนี่ยที่คิดว่าแย่ที่สุด
และทนายคนนี้ก็ต้องพิพากษาคดีแบบนี้ตลอด
22 เมษายน 2550 10:07 น.
ศรทอง
ความจำที่ดีนั้นก็มากมายแต่สำหรับบางคนก็ไม่ค่อยจะมีเรื่องที่ดีสำหรับตัวผมเองนั้นเรื่องที่ดีๆจะมากกว่าถ้าอยู่กับเพื่อนหรือคุยกับเพื่อนที่ดีผมมักจะแลกเปลี่ยนสิ่งที่ดีให้กับเพื่อนที่ดีๆเสมอๆ แต่สำหรับเพื่อนบางคนผมเจอหน้าแล้วยังไม่อยากจะคุยด้วยเลยเพราะนิสัยไม่ดี บางคนกวนโศตรประสาทของผมมาก ไอ้คนจำพวกเนี่ยผมเรียกพวกคนเนี่ยว่า "ไอ้พวกกวนเท้า" คือไม่อยากจะพูดคำหยาบให้ระคายหูและตาของผู้ที่อ่าน เพราะคนพวกนี้มันยากเกินจะบรรยายเป็นภาษาปัจจุบัน คนจำพวกนี้ต้องใช้คำในยุคของพ่อขุนรามบรรยายซิ่งผมไม่อยากจะพูดในที่นี้ พวกคนพวกนี้ต้องการการอบรมบ่มนิสัย สำหรับพวกเพื่อนของผมที่ดีแล้ว
หรือเพื่อนสนิทของผมผมจะไม่พูดถึงเขามาก เพราะเป็นพวกเพื่อนแท้ผมมีปัญหาอะไรก็สามารถไปปรึกษาพวกเขาได้ ย้อนไปสักตอนผมอยู่ประมาณป.6ผมมีเพื่อนที่ดีหลายคน แต่พอปีที่ต้องย้ายโรงเรียนก็คือปลายเทอมป.6นั้นนะครับพวกเพื่อนๆก็กระจัดกระจายไปเหมือนนกแตกรัง พอเข้าโรงเรียนมัธยมผมก็เจอเพื่อน เพื่อนที่ไม่ค่อยดีต่อผมสักเท่าไรอย่างเมื่อกี้ดพื่อนก็ว่งคำพูดมาว่า " ฟายยยยย" ซื่งเป็นคำที่ไม่ค่อยดีมันเป็นคำพูดที่ระคายเคืองต่อหูและตาของผมมาก
เอาละครับความทรงจำที่ดีและไม่ดีมันก็อยู่ในตัวเราแล้วแต่ที่เราจะคิดนะครับ
21 เมษายน 2550 16:17 น.
ศรทอง
วันนั้นสามพี่น้องเตรียมแต่งตัวอย่างดีเพื่อรอรับเจ้าหญิงจากนาๆหัวเมืองพี่คนแรกได้เจ้าหญิงจากหัวเมืองทางใต้ ส่วนพี่คนกลางก็ได้เจ้าหญิงจากทางเหนือและน้องคนเล็กได้เจ้าหญิงจากทางตะวันออกทั้งสามพี่น้องก็ได้จัดงานพระราชพิธีอภิเสกสมรชกับเจ้าหญิงที่พวกเขาได้เลือกันไปที่เรียบแล้วทั้งสามได้ครองรักกันและมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง จนวันหนึ่งพี่คนกลางต้องออกไปทำศึกทางตะวันออกเฉียงเหนือพี่คนกลางได้คำนวณระยะทางดูแล้วได้ประมาณสองพันลี้เพราะฉะนั้นจึงได้ฝากพระมเหสีห์และลูกๆไว้กับพี่คนโตเอาไว้ ต่อมาพี่คนกลางก็ต้องไปทำธุระต่างเมืองเขาจึงฝากมเหสีห์เอาไว้กับพี่คนโตอีกเช่นกัน ประมาณสองอาทิตย์ถึงจะกลับมาจึกงขอฝากลูกและมเหสีห์เอาไว้กับพี่คนโต และอีกพักใหญ่พี่คนกลางก็กลับมาพร้อมชัยชนะจากศึกสงครามอณาจักของเขาได้มีชื่อไปทั่วประเทศจีน เพราะหัวเมืองที่ตีชนะนั้นเป็นหัวเมืองซิ่งรวบรวมเมืองและหัวเมืองเอาไว้มากมายเขาจึงได้รับชื่อเสียงและอณาจักรอีกสองอณาจักรคือของพี่คนโตและของน้องก็ได้ชื่อไปด้วย และแล้วสามอณาจักรนี้ก็ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ประเทศจีนจนถึงปัจจุบัน