14 พฤศจิกายน 2550 11:41 น.
ว่าที่กวี
ด้วยใจสองใจที่อยู่ไกลห่าง
บางครั้งจึงเข้าใจกันคนละทาง...ใจหวั่นไหว
เธอมีโลกของเธอ...ฉันก็พอเข้าใจ
โลกของฉันที่กำลังหมุนไป...
...ฉันก็อยากให้เธอเข้าใจเหมือนกัน
บางครั้ง...สิ่งต่าง-ต่างที่เกิดขึ้น...ที่มีให้เห็น
มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจเราฝัน
ถึงแม้ว่าเราจะยังคงพูดคุยกันอยู่ทุกวัน
แต่เธอและฉันก็ยังคงอยู่ในองศาเดิม...
...ที่ห่างกันไกล
สายใยบาง-บางทียังคงส่งผ่าน
ก็ยังเป็นสะพานเชื่อมใจเราถึงกันได้
ถึงแม้เป็นเพียงสายสัมพันธ์บางเบา...
...ที่ไม่รู้ว่าจะขาดลงเมื่อไร
หากแต่มันก็เป็นสายใย...
...ที่ผูกใจเราไว้ด้วยกันตลอดมา
ด้วยใจสองใจที่อยู่ไกลห่าง
ก็มีบ้างที่ใจรู้สึกเหนื่อยล้า
แต่กำลังใจดี-ดีก็ยังคงมีให้กันได้ทุกที่ทุกเวลา
และยังคงหวังว่าเราจะมีกันและกัน...
...เช่นนี้ตลอดไป
8 พฤศจิกายน 2550 12:29 น.
ว่าที่กวี
ซักผ้าหลังบ้าน
เทน้ำไปจ้าน
น้ำยังนองพ่าน
ท่อน้ำหลังบ้านมันตัน
เอาไม้ไปเขี่ย
เศษหยะจังเสีย
เห็นแล้วมันเพลีย
ไซคนบ้านนี้นิสัยเสียพรรนั้น
มาซักผ้าต่อ
เทน้ำลงท่อ
ยังเขี่ยไม่พอ
ท่อน้ำหลังบ้านมันยังตัน
ท่อน้ำแคบจ้าน
กำแพงติดฝาบ้าน
เห็นแล้วรำคาญ
บนกำแพงนั้นเดินขึ้นไปแล
เดินบนกำแพง
หลาว-หลาวอย่างแรง
เลือดไหลแดง-แดง
ตะปูบนกำแพงแทงตีน
เอาน้ำล้างแผล
เห็นดาวแค่-แค่
เป็นลมแล้วแน่
ลงไปนอนแผ่อยู่กลางบ้าน
ผู้ชายคนนี้
ไซเป็นพรรนี้
มันน่าบัดสี
ทั้งน้องทั้งพี่เต็มบ้าน
...
นิทานเรื่องนี้
ข้อคิดที่มี
ซักผ้าทั้งที
อย่าขึ้นไปเดินบนกำแพงบ้าน
***
จ้าน...เยอะ,มาก
พ่าน...เพ่นพ่าน
หยะ...ขยะ
ไซ...ทำไม
พรรนั้น...แบบนั้น
หลาว-หลาว...ซุมซ่าม,ไม่ระมัดระวัง
3 พฤศจิกายน 2550 12:45 น.
ว่าที่กวี
เมื่อคืนฉันฝันร้าย
ฝันว่าอาทิตย์หล่นหายลงน้ำ
หมู่ดาวตกลงมาจากฟ้าสีคราม
ดวงจันทร์ที่เคยงดงาม...
...กลับแหว่งวิ่นและลอยหายไป
เมื่อคืนฉันขวัญเสีย
ฝันว่าคนรักที่เคยคลอเคลีย...
...มาจากห่างหาย
ฝันว่านกบินร่วงจากฟ้าลงมาตาย
ต้นไม้ค่อย-ค่อยยืนต้นตายอย่างทรมาณ
เมื่อคืนฉันขวัญผวา
ฝันว่าโลกนี้เหลือเพียงตัวฉัน
ไร้เงาของคนซึ่งเคยอยู่เคียงข้างกัน
แล้วต่อจากนี้ชีวิตฉัน...จะเป็นอย่างไร
เช้านี้ฉันตื่นขึ้นด้วยความสับสน
รีบมองโลกว่ากลับมืดมน...หรือยังคงสดใส
โลกที่เคยมีสีสันบัดนี้พลันเป็นสีเทา...สลดใจ
วันนี้และวันต่อ-ต่อไป...จะใช้ชีวิตอย่างไรดี