10 สิงหาคม 2551 22:40 น.
ว่าที่กวี
ฉันไม่อยากให้ใครต่อใคร
อ่านบทกลอนของฉันอีก
ฉันกลัวจะเป็นการประจานตนเอง
ขอบคุณทุกท่าน
ที่คอยติดตามผลงานอย่างสม่ำเสมอ
รวมทั้งผู้ที่ "เผลอ" เข้ามาอ่าน
ขอกราบลาไว้ ณ โอกาสนี้
หวังว่าคงได้พบกันอีก
เมื่อจิตใจฉันเข้มแข็งพอ
8 สิงหาคม 2551 16:10 น.
ว่าที่กวี
วันเก่า-เก่าของเราหายไป
เหลือทิ้งไว้เพียงแค่กลิ่นหอมจาง-จาง
เวลาสั้น-สั้นที่เราเคยเดินร่วมทาง
ทุกสิ่งทุกอย่าง...จะคงอยู่ในความทรงจำ
28 กรกฎาคม 2551 13:13 น.
ว่าที่กวี
เมื่อก่อน...โทรหาทุกวันเพื่อบอกว่า...คิดถึง
เดี๋ยวนี้...เดือนนึง...กว่าจะนึกอยากคุยกะกูสักหน
เมื่อก่อน...เจอเพื่อนมากมายแค่ไหน...แนะนำให้กูรู้จักทุกคน
เดี๋ยวนี้...แค่กูบอกว่าคนนั้นน่าสน...มึงลากเสียงถามว่า"มีปัญหาอาราย"
เมื่อก่อน...แทบไม่ต้องบอก...จัดให้ทุกอย่าง
เดี๋ยวนี้...กูแหกปากสั่ง...ยังไม่มีให้
เมื่อก่อน...ทำทุกสิ่งทุกอย่าง...เพื่อเอาใจ
เดี๋ยวนี้..."มึงช่วยไปอยู่ไกล-ไกลตีนได้มั้ย...น่ารำคาญ"
เมื่อก่อน...อยากกินอะไร...จัดให้อย่างที่บอก
เดี๋ยวนี้...แค่กูอ้าปากหรอก...วัยรุ่นตะคอก"มึงอย่าเอาแต่ผลาญ"
เมื่อก่อน...นั่งกอดนอนกอดกันได้...เป็นนานสองนาน
เดี๋ยวนี้...แค่ยุงบินผ่าน...เล่นตบกูซะกระเด็น
เมื่อก่อน...อยากไปเที่ยว..."ถึงไหนถึงกัน"
เดี๋ยวนี้...ซ้อนมอไซด์สักวัน...ยังไม่มีให้เห็น
เมื่อก่อน...อากาศร้อน-ร้อนก็รีบหามาป้อน...น้ำแข็งไสเย็น-เย็น
เดี๋ยวนี้...ใช้เป็นแค่คำว่า..."หาแดกเอาเอง"
เมื่อก่อน...ค่ำ-ค่ำชวนกันไปกินน้ำชา
เดี๋ยวนี้...พอกูง่วงล่ะ...แม่งรีบทำตัวกระฉับกระเฉง
เมื่อก่อน...ให้ได้เต็มที่...อืมใจนักเลง
เดี๋ยวนี้..."เออมึงเก่ง...หาเอาเองก็แล้วกัน"
...
อนาถแท้หนอชีวิตกู
ทำไมไม่รู้ต้องมาเจอกับจุดพลิกผัน
คอยเฝ้าแต่ถามใจตัวเองอยู่ทุกวัน
เพียงแค่หนึ่งคำถามนั้น "เมื่อไหร่จะตายซะที"
18 มิถุนายน 2551 13:19 น.
ว่าที่กวี
บ่ายวันอังคารที่ร้อนอบอ้าว
นั่งตากพัดลมอยู่บนบ้าน...ยังไม่คลายร้อน
ข้างบ้านมีบ้านลุงใจ
บ้านลุงใจมีต้นไม้ใหญ่
ลงมานั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้
ถัดออกไปมีต้นมะพร้าวเตี้ย-เตี้ยต้นหนึ่ง
บนต้นมะพร้าวมีรังนกกระเต็น
เสียงลูกนกร้องอยู่แว่ว-แว่ว
ระหว่างต้นไม้ใหญ่กับต้นมะพร้าว...
มีเรือของลุงใจจอดอยู่
บนเรือมีผ้ายางคลุมกันฝน
บนผ้ายางมีน้ำขังเป็นแอ่งลงไปในท้องเรือ
...
เสียงกุกกัก-กุกกักแว่วมา
แว่ว-แว่วมาจากในเรือ
นกกระเต็นตัวหนึ่งกำลังจมน้ำ
มันตะเกียกตะกายอย่างเหนื่อยล้า
...
รีบหาไม้แหย่ลงไปให้มันเกาะ
แม่นกขนเปียกโชกตัวสั่นเทา
เอามันมาตากแดดให้ขนแห้ง...และอบอุ่น
เมื่อขนแห้งดีแล้ว...
แม่นกก็บินหายไป
...
พักใหญ่...มันบินกลับมาอีกครั้ง
พร้อมกับใส้เดือนตัวยาวที่มันคาบไว้ในปาก
...
ภายในรัง...
ลูกของมันสามตัวกำลังรออยู่
แม่นกบินวนเวียนไปมาจนเกือบค่ำ
จึงยอมเข้ารัง
ฉันแอบนั่งลุ้นอยู่...พลอยอิ่มใจไปด้วย
ช่วยไว้ได้ถึงสี่ชีวิต
...
มันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ
ไม่ใช่แค่บ่ายวันอังคาร
...
เที่ยงวันนี้...แอบดูพวกมันอีกครั้ง
คราวนี้คาบเหยื่อมาพร้อมกันสองตัว
ทั้งพ่อนกและแม่นก
ลูกของมันคงอิ่มท้อง...และค่อย-ค่อยโตขึ้นทุกวัน
ขออย่าให้พ่อนกแม่นกต้องเป็นอะไรไปอีกเลย
28 พฤษภาคม 2551 23:19 น.
ว่าที่กวี
ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา...
ทุกก้าวคือการเคลื่อนที่
ไม่ว่า ขาว เทา ดำ...
โลกใบนี้ก็มีให้เราในทุกเฉดสี
ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร...
เราก็ครื้นเครงกันได้...ในทุกระดับดีกรี
เพียงแค่ยังมี..."เรา"...
...
ปลดปล่อยเรื่องราว...ระบายความรู้สึก
รำลึกถึง...เมื่อวันแรกเจอ
กับคำถามที่คิดว่า...ไม่น่าจะได้คำตอบ
หากแต่คำตอบก็สวนกลับมา...เร็วกว่าที่คิด
...เขินอายด้วยคำถาม
...อึ้ง...ทึ่ง...เสียวกับคำตอบที่ได้รับฟัง
...
ล่วงเลยมากี่นาน
กี่ก้าวที่ย่ำผ่านมาด้วยกัน
กลิ่นสียังคงอวลอยู่ในความรู้สึก
แม้พู่กันถูกเก็บจนฝุ่นจับ
รอยยิ้มยังคงเปื้อนอยู่บนแก้ม
แม้เรื่องราวต่าง-ต่าง...จะผ่านไปนานวัน
...
ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา...
ฉันจะก้าวกลับไปหาเธอ
ไม่ว่า ขาว เทา ดำ...
คนเราก็ผสมปนเปกันไป...อยู่ที่ใครจะเลือกมอง
ไม่ว่ายี่ห้ออะไร...
เราก็ครื้นเครงกันได้...
เพียงแค่ยังมี..."เรา"...