17 มกราคม 2553 15:06 น.
วิทย์ ศิริ
คัดจาก ตอนนึง ในหนังสือเรื่อง " ศิลปะแห่งอำนาจ (The Art of power)"
ของ ติช นัท ฮันห์
หน้าที่ 114 - 115
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องของพ่อค้าม่ายผู้หนึ่ง ที่ต้องเดินทาง
ไปทำธุรกิจ โดยทิ้งลูกชายเล็กๆไว้ที่บ้าน เมื่อเขาจากไป กลุ่มโจรได้เข้า
ปล้นและเผาหมู่บ้านจนราบคาบ เมื่อพ่อค้าผู้นั้นเดินทางกลับมาและไม่พบ
บ้านของเขา เหลือไว้แต่เพียงกองเถ้าถ่านกองหนึ่ง ในบริเวณนั้นมีซาก
ไหม้เกรียมของร่างเด็กอยู่ใกล้ๆเขาล้มตัวลงกับพื้น และร้องไห้อย่างไม่
หยุดหย่อน ทุบอกชกหัวตนเองอยู่อย่างนั้น
วันต่อมา เขาลุกขึ้นมาจัดการงานเผาศพให้กับร่างน้อยๆ เขา
เย็บถุงกำมะหยี่เล็กๆที่สวยงาม และเก็บเถ้าอัฐิของลูกชายใส่ไว้ในถุงนั้น
เพราะลูกชายสุดที่รักนั้นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ เขาพกถุง
นั้นไปกับเขาทุกที่ ไม่ว่าเวลากิน เวลานอน หรือเวลาทำงาน เขาพกถุง
นั้นไว้กับตัวตลอดเวลา แท้ที่จริงแล้วพวกโจรได้ลักพาตัวลูกชายของเขา
ไป สามเดือนต่อมา เด็กน้อยสามารถหลบหนีจากหมู่โจร และกลับคืนสู่
หมู่บ้านได้ เด็กชายมาถึงบ้านประมาณตี 2 เขาเคาะประตูบ้านใหม่ที่พ่อ
สร้างขึ้น พ่อผู้น่าสงสารกำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียง ในมือยังถือถุงอัฐิไว้
เขาร้องถามออกไปว่า "นั่นใครอยู่ข้างนอกนั่น"
"หนูเอง ลูกของพ่อไงจ๊ะ"
ผู้เป็นพ่อตอบไปว่า
"เป็นไปไม่ได้ ลูกชายข้าตายไปแล้ว ข้าเผาศพของเขาเอง แล้วยังพกอัฐิ
ของเขาไว้กับตัวข้า เจ้าต้องเป็นเด็กซุกซนที่คิดมาหลอกข้า ไปให้พ้น
อย่ามารบกวนข้าอีก"
เขาไม่ยอมเปิดประตู ลูกชายไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ จึงต้องเดินจาก
ไป ผู้เป็นพ่อได้สูญเสียลูกชายไปชั่วนิรันดร์
หลังจากเล่าเรื่องนี้ พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
"หากเธอยึดถือเอาแนวคิดหรือความคิดเห็นใดๆว่าเป็นความจริงอันสูงสุด
เธอได้ปิดประตูแห่งจิตใจของตัวเอง และนั่นคือจุดสิ้นสุดของการเสาะ
แสวงหาความจริง เธอไม่เพียงแค่หยุดแสวงหาความจริงเท่านั้น แม้
ความจริงมาปรากฏอยู่ตรงหน้าและเคาะประตูบ้านของเธอ เธอก็ยังไม่
ยอมเปิดประตูรับมัน การยึดมั่นถือมั่นในทรรศนะ การยึดมั่นถือมั่นใน
แนวความคิด และการยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็น นั้นคืออุปสรรค
ขวางกั้น
....................ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด