26 กรกฎาคม 2552 22:44 น.

สวนสาธารณะแห่งวรรณศิลป์

วิทย์ ศิริ

          สวนสาธารณะแห่งวรรณศิลป์


          สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นที่ทราบกันดีของคนที่เข้ามาชนสวนหรือเดินเล่น
ในสวนโดยมีความประสงค์คล้ายๆกัน........เพราะเป็นสวนที่เราใช้เป็นลาน
สาธารณะในยามเหงา, เศร้า,ดีใจ, เสียใจ, ท้อแท้,และอีกหลายๆอารมณ์
รวมถึง....การแสวงหาตนเองโดยสื่อออกมาในรูปแบบของวรรณศิลป์ที่ขับกล่อม
เป็นร้อยแก้วและร้อยกรองจากใจสู่ใจ


          คนที่มาชมสวน...บ้างก็เดินมาแล้วก็ผ่านไป  บ้างก็เปิดเผยตัวตนในรูปแบบของความรู้สึกในส่วนที่ต้องการสื่อสารกับคนอื่นๆในสวนฯ    จาการที่มา
ชนสวนผ่านอักษรสานสัมพันธ์โดยการทักทาย  เริ่มจากการเป็นคนแปลกหน้า
ต่างถิ่น  ก็ค่อยๆสร้างเสริมความเข้าใจทีละเล็กละน้อยจนกลายเป็นคนรู้จัก
....คนคุ้นเคย...กระทั่งกลายเป็นคนรู้ใจก็เป็นได้....เป็นเพื่อนปลอบใจในหลายสถานการณ์ที่เคยอุบัติขึ้นในสวนฯแห่งนี้      เป็นปรากฏการณ์รูปแบบใหม่ของสังคมไร้พรมแดนบนความนิยมชมชอบสิ่งเดียวกัน.....นั่นคือ...วรรณศิลป์
ที่สร้างสรรค์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นความสุขรูปแบบหนึ่งที่มอบให้แก่กัน


          สวนฯแห่งนี้.... ที่หลายคนก็เหมือนคนกันเองที่สนิทกันมากขึ้นที่มา
พักผ่อนเดินเล่นสวนฯนี้เป็นประจำ   บางขณะก็สามารถจับกลุ่มกันเล่นตระกร้อ
ได้อย่างสนุกสนาน  เพลินเพลิน...ทำให้คนที่มาชมสวนฯ ทีหลังก็อดแปลกใจ
ไม่ได้เหมือนกันคงเป็นเพราะเป็นสวนฯแห่งวรรณศิลป์กระมั่งที่เป็นมากกว่า
การวิสาสะแบบพื้นๆเมื่อเปรียบกับแวดวงสังคสมไร้พรมแดนที่อื่นๆ  แต่มิได้
หมายความว่า  เหนือกว่าสังคมอื่นๆ   เพียงแต่  สวนฯนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างชัดเจนจากอัตลักษณ์ของสังคมอื่น และบางครั้งกลายเป็น
แรงบันดาลใจให้คนชมสวนที่เพิ่งเข้ามาเดินทอดน่องคนอื่นๆได้เข้ามารวมเสวนารวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของสวนแห่งวรรณศิลป์ด้วยคนไปโดยปริยาย


          ในสวนฯนี้กอรปด้วยมวลพฤษชาติ  ดอกไม้นานาพรรณ มีแกบทุกลักษณะ
ของความสวยงาม   อาจมีบ้าง บางมุมของสวนฯที่ดูไม่สวยงามอยู่บ้างก็ต้องอาศัยคนชมสวนด้วยกันและอาจรบกวนคนดูแลสวน  ช่วยกันดูแลให้เรียบร้อยและเหมาะสม     รวมถึงแมลงหลากหลายชนิด  ผึ้งก็มี  ผีเสื้อก็มี  เพลียหนอนก็ยังมีบ้าง.........เป็นเรื่องธรรมดาที่เราๆท่านๆเคยพบเห็นในสวนฯ แห่งอื่นๆเช่นกัน..............เป็นสังคมที่ยอมรับได้ถึงความแตกต่าง  หากความแตกต่างนั้น
ไม่ได้ก่อให้เกิดมลภาวะแก่จิตใจส่วนรวมมากนัก


           บางครั้งสวนฯแห่งนี้ก็มีบ้างที่ถูกปกคลุมด้วยเมฑหมอก, ฝน, ลมพายุ จากมวลอากาศที่แปรปรวน   ฟ้ามืดครึ้มบางช่วงบางขณะ  ก็เป็นธรรมชาติของทุกๆสิ่งที่มีการตื่น  การหลับไหล  รวมทั้งครึ่งหลับครึ่งตื่นตามสภาวะธรรมชาติที่เข้าใจได้


           บางครั้งหากมีเรื่องเสวนาหรือความเห็นที่ไม่ตรงกัน อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง  และเป็นประเด็นปัญหาที่แตกต่างจากจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของการก่อเกิดสวนฯแห่งนี้......ผู้ดูแลสวนก็แสดงบทบาทผู้จัดการดูแลสวนฯได้อย่างเหมาะสมที่ผ่านมา


          ในฐานะของคนชมสวน...ก็พูดกับตัวเองว่า...เช่น...คำว่า  "ไม่เป็นไร"  
"พอทนได้"  "ลืมเสียเถิด"    ที่เคยได้ยินมาก็นำมาใข้ได้ในการชมสวนหรืออยู่ในลานกลางสวนเพราะในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันก็ต้องสะกดใจตังเองกับความรู้สึกต่างๆที่กระทบจิตใจไม่ให้ติดยึดกับอารมณ์ขุ่นมัวต่างๆหรือคล้ายตามกับอารมณ์ดีใจอย่างเด่นชัดเพราะ บางครั้งอาจไม่เป็นอารมณ์เดียวกันกับคนรอบข้าง  ซึ่งอาจทำให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ


         การหลงเสน่ห์ของสวนฯแห่งนี้หรือเรียกว่าความประทับใจน่าจะถูกต้องกว่าเพราะทุกๆคนในลานกลางสวนฯล้วนมีไมตรีจิตและมีความเข้าอกเข้าใจโดยผ่านตัวอักษรที่ร้อยเรียงอย่างมีศิลปะ หรือการให้กำลังใจที่สัมผัสด้วยประโยคเพียงบางประโยคแต่ก็มากด้วยคุณค่า  รวมถึงความขัดแย้งกรณีถ้ามีก็มีการประนีประนอมได้อย่างน่าชื่นชม


          ที่สังเกตุได้จากลงสวนฯของหลายๆคนก็หลายๆลีลา  มีความแตกต่างของรูปลักษณ์วรรณศิลป์ที่งดงามน่าติดตาม  น่าค้นหา   ...รวมถึงจินตนาการหลากหลาย
สุดที่จะคาดเดาได้  บ้างก็เป็นเอกทางด้านธรรมลีลา   บ้างก็บันเทิงลีลา  บ้างก็นิราศ  และอื่นๆ  กระทั่งจินตลีลา....สุดบรรยายจริงๆ


          ตามที่ทราบกันดี  สวนฯปห่งนี้ไม่เคยปิด...เหมือนร้านเซเว่นฯ ยกเว้น
วันที่ผู้ดูแลสวนหรือเจ้าของสวนเกิดเปลี่ยนใจไปทำอย่างอื่นแทน  อันนี้ช่วยไม่ได้ครับ


          อนึ่ง ในฐานะคนชมสวนฯ บางก็อยู่กลางสวน ก็ชื่นชมในมิตรภาพที่งดงามที่มอบให้แก่กัน  ทุกวรรณศิลป์ได้ถ่ายถอดสารัตถะที่มีคุณค่า  เป็นงานสร้างสรรค์
ที่เขียนด้วยใจรักกันทุกคน         สิ่งหนึ่งที่เตือนตัวเองตลอดเวลา......การคาดหวังว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ในวรรณศิลป์แห่งนี้จะสามารถเติมเต็มช่องว่างในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าขาดหายไป  ซึ่งจะกลายเป็นว่าเอาตัวเองไปยึดติดหรือผูกมัดกับความเป็นไปในบทร้อยแก้วหรือร้อยกรองเหล่านั้น....อาจกลายเป็นการเนรมิตความสุขที่ปรุงแต่งขึ้นเองโดยมิได้ตั้งใจก็เป็นได้   หากแต่ต้องวางใจให้เป็นกลาง  เปิดกว้างกับทุกความเห็น  ทุกความรู้สึก  ด้วยความสุขุม   ทั้งหมดเป็นการบอกตัวเองรวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นหรือเข้ากับเหตุการณ์  มิได้คาดหวังให้คนอื่นปรับตัวเข้าหาตัวเอง.......................(ความเห็นของคนชมสวนฯคนหนึ่ง)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิทย์ ศิริ
Lovings  วิทย์ ศิริ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิทย์ ศิริ