12 กรกฎาคม 2552 00:06 น.
วิทย์ ศิริ
คับ...แคบแบบ หายใจ แทบไม่ออก
แต่ขอบอก ใครต่อใคร ใจอยู่ได้
ไม่สะดวก บวกอึดอัด กัดฟันไป
แต่หทัย ไยปลอดโปร่ง โล่งสบาย
ที่...บางครั้ง บางแห่ง แย่งกันยืน
มิต้องฝืน กลืนกล้ำ หนำใจกาย
ขั้นแนบแน่น แว่นชนกัน ฉันท์สหาย
ก็มิวาย คลายรังเกียจ เดียดฉันท์เอย
อยู่...อย่างยาก มากอัตคัต จัดว่าแย่
แต่ด้วยใจ แน่วแน่ แลคุ้นเคย
ไม่ทุกข์โศก โยกย้อนใจ ไฉนเลย
ไม่เปรียบเปรย ใครอื่นเนา เราไม่เคือง
ได้...ทดสอบ กรอบชีวิต คิดทุกด้าน
เสริมหน่วยก้าน ต้านทานไหว ในทุกเรื่อง
ด้วยไร้เหตุ ปัจเจกใด ใครหนุนเนื่อง
คิดสิ้นเปลือง เรื่องเหินห่าง หมางเชยชม
คับ...แค้นใจ ในห่วงโซ่ โล่ห์กิเลส
แม้แต่เหตุ เล็กน้อย คอยสั่งสม
ผลดลใจ ใส่ไคล้ ใจขื่นขม
ขมวดปม จมตัณหา พาหมางเมิน
ใจ...คราวหม่น จนใจ ใครจะช่วย
เพราะจิตป่วย ด้วยเมฆหมอก ชอกช้ำเกิน
คับข้องใจ ไม่ใฝ่สุข ทุกข์เผชิญ
มัวเมาเพลิน เมินทางเสก อุเบกขา
อยู่...อย่างเฉก เอกเขนย เคยสบาย
สุขเพียงกาย อบายซ่อน กร่อนอุรา
กลับกลายทุกข์ บุกรุก ปลุกชีวา
เหตุร้างรา พาห่างเห็น เบญจขันธ์
ยาก...ไขว่คว้า แสวงหา แห่งหนใด
เพราะยาใจ สาละวน มนต์โมหันธ์
ตกลำบาก มากประเด็น เป็นสำคัญ
ต้องเขตขัณฑ์ โทษทัณฑ์ใจ ในนิวรณ์
11 กรกฎาคม 2552 20:17 น.
วิทย์ ศิริ
รักนั้นฤๅ................
รักนั้นฤๅ สำคัญ ไฉนเล่า
อยู่ไกลใกล้ แค่ เงา เราเฝ้ารอ
เคยพร่ำเพ้อ เก้อเขิน เกินเยินยอ
เคยเฝ้าขอ หยอกล้อ พ้อมาเคียง
รักนั้นฤๅ เกิดก่อ รอกำเนิด
ให้บรรเจิด เลิศล้ำ คำสำเนียง
พรรณนา อักษร กลอนความเรียง
บรรเลงเสียง สร้างสรรค์ ฝันอำไพ
รักนั้นฤๅ ให้แล้ว ไม่แคล้วเจ็บ
ไม่อาจเก็บ มิดชิด ปิดฤทัย
ไม่อาจต้าน ร่ำร้อง ก้องในใจ
สุดท้ายใคร เสียใจ โทษใครกัน
รักนั้นฤๅ หน้าตา เป็นเช่นไร
เห็นเอาใจ อักโข โผในฝัน
เป็นที่สุด ดุจอมร วอนอำพัน
ด้วยหุนหัน พลันแล่น ไร้แก่นสาร
รักนั้นฤๅ พิสุทธิ์ ดุจปุยเมฆ
ช่างฤทธิ์เดช เสกมนต์ ดลใจกานต์
ให้สมหวัง ทุกครั้ง ยังพบพาน
ถามวันวาน วานเตือน เพื่อนเกลอกัน
รักนั้นฤๅ คุณค่า เอนกอนันต์
หากเป้าหมาย มลายพลัน ในชีวัน
รักเสกสรรค์ ปั้นแต่ง แห่งปัจจุบัน
คืนและวัน อันตธาน นิรกาล
7 กรกฎาคม 2552 23:58 น.
วิทย์ ศิริ
เมื่อรัก คือ..........
เมื่อรักคือ รักซึ้งกัน วันยันค่ำ
ใจร้องร่ำ คำหวานใด ใจใคร่ถาม
ในหลายคน รักบางเบา เฝ้าติดตาม
ทุกโมงยาม ถามหารัก จักหายไป
หาคำตอบ ปลอบใครได้ ไม่นิ่งงัน
รักพลิกผัน บั่นทอน ถอนหทัย
ถามตัวเอง เกรงคำตอบ ชอบปลอบใจ
ก็แล้วใคร ตอบได้ใจ ไม่ครุ่นคิด
บ้างก็ว่า รักมีเดช วิเศษสุด
บ้างก็หลุด ไม่หยุดบ่น จนเป็นนิจ
บ้างก็ว่า รักแน่แท้ แพ้ใกล้ชิด
บ้างก็คิด จิตไม่ปลง คงหม่นหมอง
จริงจริงหนา หากทำใจ ได้แต่แรก
คงไม่แปลก รักแรกเพียง เมียงตามอง
ก็ทึกทัก เข้าใจรัก ปักใจปอง
ท่วงทำนอง ยิ้มย่อง ผ่องแผ้วใจ
อีกนั่นหนา ว่าสิ่งใด เทียบเท่ารัก
ล้วนตระหนัก รักแลกรัก จักเทียบได้
เหนืออื่นใด ไม่อาจรัก โดยไม่ให้
บ้างครั้งให้ ใจไม่รัก มักสงสาร
เมื่อรักคือ รักขลาดเขลา เฝ้าเช้าเย็น
มากประเด็น เป็นฉงน ยลเหตุการณ์
อารมณ์ป่วน ด่วนปรุงแต่ง แบ่งสัณฐาน
ใจร้าวราน หาญวาดหวัง ชั่งร้อนใจ
เมื่อรักคือ รักตักเตือน เหมือนงานศิลป์
ศิลปิน คิดหรือปั้น แต่งฝันไป
ไม่อาจเฟ้น เร้นต้นสาย ปลายเหตุใด
อยู่ทันใด ใจบันดาล พานเกิดผล
เมื่อรักคือ รักที่ตัว ชั่วและดี
เป็นวิถี ที่เติมต่อ ก่อเกิดตน
เดินทางไกล ใจดั้งด้น พ้นเวียนวน
หวังมรรคผล จนสุดท้าย ปลายทางเดิน
เมื่อรักคือ รักพิสุทธิ์ ดุจเทพไท้
รักที่ให้ มหาสมุทร สุดประเมิน
รักที่มอบ ปลุกปลอบใจ หาใครเกิน
ทุกก้าวเดิน พ่อแม่ห่วง ปวงลูกยา
เมื่อรักคือ รักสร้างสรรค์ ปันทุกสิ่ง
อาจหยุดนิ่ง หายนะ ชนะหล้า
อาจกลับกลาย มลายภินท์ สิ้นตรงหน้า
รักอ่อนล้า คราผันแปร แลรักลวง
7 กรกฎาคม 2552 00:47 น.
วิทย์ ศิริ
การเดินทาง......ครั้งสุดท้าย
การเดินทาง ย่างกราย ลายมนุษย์
ครั้งสุดท้าย หยุดที่เพลิง เชิงตะกอน
ทุกบทบาท วาดเป็นฉาก มากอาวรณ์
ตัวละคร ตอนจบ กลบสู่ดิน
หากเอ่ยถึง การเดินทาง กลางผู้คน
มากเหตุผล บ่ายเบี่ยง เกี่ยงถวิล
ด้วยระเริง เหลิงใหลหลง คงชีวิน
ล้วนเคยชิน กิเลส เหตุตัณหา
อัปเปหิ เสียได้ ไม่พูดถึง
ยากคำนึง ถึงสุดท้าย ปลายชีวา
หวนรำลึก นึกถึงบ้าง ข้างกายา
ทุกย่างตรา อย่าหวังเยือน เตือนล่วงหน้า
หากร่างกาย มุ่งทำร้าย มลายเอง
สิ้นยำเกรง คำสั่งศาล สถานกล้า
หลักประหาร ฐานกบฎ กฏในหล้า
ใครกล้าท้า ต่อกรได้ ใช่โทษทัณฑ์
หากวิญญาณ เตรียมการหวัง บ้านหลังใหม่
เหตุทันใด ใฝ่พลีร่าง หนีกลางคัน
เอื้อมระอา ล้าเสียแล้ว แก้วแตกพลัน
แม้แต่ยันต์ มหาอุตม์ ฉุดไม่ไหว
หากพินิจ คิดตรองดู อยู่อย่างรู้
ไม่มีผู้ วิเศษไซร้ เหนือวิสัย
เมื่อกำเนิด เฉิดฉายได้ สลายไป
ชีพบรรลัย ใจอัศจรรย์ บั่นทุกข์กรรม
5 กรกฎาคม 2552 13:50 น.
วิทย์ ศิริ
ช่างถักทอ......รักษ์อักษร
ช่างถักทอ ยอเส้นสาย ลายอักษร
เป็นกาพท์กลอน วอนร้อยเรียง เคียงความฝัน
ด้วยใจรัก อักษรา พาสื่อกัน
ร่วมเสกสรรค์ ฝันหทัย ใจใฝ่ปอง
ด้ายแห่งรัก ปักซึ้งใจ ในนิมิต
ใจนึกคิด ติดตรึงตรา คราจ้องมอง
เป็นดั่งแสง แห่งสุรีย์ ที่เรืองรอง
หวังครอบครอง ปองตรองคิด จิตคู่ฝัน
ด้วยมั่นใจ ไม่พรั่นพรึง ถึงความหลัง
ใจนั้นหวัง อย่างยั่งยืน คืนชีพพลัน
ให้ประจักษ์ พยานรัก ภักดิ์ผูกพัน
สานสัมพันธ์ หวังรางวัล ฝันที่รอ
ผ้าที่ถัก รักที่ทอ ขอได้ใหม
สายเยื่อใย ใครนะเล่า เฝ้าพะนอ
ด้ายรักรัด มัดเป็นไจ ใจเคล้าคลอ
เพราะรักหนอ ปักคำมั่น สัญญาใจ
ช่างถักทอ รักษ์อักษร กลอนทั้งปวง
ข้ามสู่สรวง ดวงดาวพราว วาวสดใส
ข้ามฝั่งฝัน ปั่นแพรพรรณ มั่นหมายใคร
ใจหนอใจ ใยถักทอ ขอรักเธอ