15 มิถุนายน 2552 17:36 น.
วิทย์ ศิริ
ละคร แห่ง ชีวิต (เคย...กว่าจะจางปาง)
เคย...เมื่อครั้ง วัยเยาว์ เจ้าไม่รู้
เคย...วิ่งสู้ คู่แข่ง แย่งกันเก่ง
เคย...สรรหา ปาเล่นของ มองแล้วเล็ง
เคย...อวดเบ่ง เก่งกล้า กว่าชาวบ้าน
เคย...เมื่อครั้ง วัยรุ่น วุ่นเรื่องรัก
เคย...ชินนัก รักง่าย หน่ายชาด้าน
เคย...หมกหมุ่น ขุ่นเคือง เรื่องจุ่นจ้าน
เคย...สะท้าน หลงผิด คิดติดยา
เคย...เมื่อครั้ง เติบใหญ่ ใจนักเลง
เคย...ไม่เกรง เอ็งข้า บ้าตัณหา
เคย...เมามัว มั่วกิเลส เลศมายา
เคย...ถามหา ความตาย ปลายทางเดิน
กว่า...จะรู้ กู่ร้อง ต้องสังเวย
กว่า...ที่เคย เผยธาตุแท้ แน่ยับเยิน
กว่า...ที่ใจ ใฝ่รู้ สู้เผชิญ
กว่า...จะเมิน เดินลับ กับความเลว
กว่า...สติ สมาธิ เจริญคู่
กว่า...จะสู่ ลู่ทาง ร่างทองเปลว
กว่า...จะหลุด ผุดพ้น จากก้นเหว
กว่า...สิ้นเลว เปลวเทียนนี้ แทบสิ้นใจ
จะ...เพรียกหา เรียกสติ ที่ระลึก
จะ...ผนึก สมาธิ ที่แก่นใน
จะ...ภาวนา ศีลปัญญา พาผ่องใส
จะ...เจริญ เปิดใจ ใฝ่มรรคผล
จาง...จากรูป จูบถวิล ผินแปรผัน
จาง...จากฝัน อันวิโยค โศกทุกข์ทน
จาง...จากเงา อดีตเศร้า เฝ้าผจญ
จาง...จากวน เวียนว่าย ป่ายธารา
ปาง...เรือล่ม จมร่วง ห้วงนที
ปาง...ไพรี หนีหาย พ่ายศัสตรา
ปาง...ชีพนี้ พลีให้ ได้สัจจา
ปาง...สิกขา คราเรียนรู้ อยู่เพื่อวาง
8 มิถุนายน 2552 23:31 น.
วิทย์ ศิริ
สตรี คือ.......
สตรีคือ เพศแม่ แท้แก่ใจ
เป็นที่สุด แห่งหทัย ในชีวัน
เป็นสูงสุด ขอบฟ้า รุ้งลาวัลย์
เป็นแสงสูรย์ แห่งอนันต์ สร้างสรรค์ใจ
สตรีคือ ความงาม ในโลกหล้า
ทั้งอาจกล้า ท้าทาย หายสงสัย
เป็นบุคคล คนรัก บุรุษใด
สวยอำไพ ประจักษ์ชัด มัดใจชาย
สตรีคือ ผู้เสีย -สละได้
ถึงแม้ใจ ทนทุกข์ สุขมลาย
เพื่อลูกได้ คนรักได้ ใจสมหมาย
แม้วอดวาย มิคลายภักดิ์ รักระคน
สตรีคือ ขีดสุด กรีดลงลึก
ใจผนึก เข็มแข็ง แกร่งอดทน
เป็นอ่อนนอก แข็งใน ใช่ยินยล
ไม่อับจน สับสน กับภัยมา
9 พฤษภาคม 2552 23:24 น.
วิทย์ ศิริ
HAIKU .... สัจจธรรม(๑)
ใจไม่นิ่งวกวน
ดูลุกลนซ้ายขวาหน้าหลัง
ระฆังโบสถ์.......ตระหง่าน
กุหลาบแดงสวยสม
อยากเชยชมหอมดมร่ำไป
แล้วหนามเล่า.......ไม่เห็น
กระแสธารไหลผ่าน
ทุกสถานคดเคี้ยวเลี้ยวลด
น้ำใจคน......ฉงน
มนุษย์จุดเล็กเล็ก
ประดับเกล็ดเม็ดทรายชั่วคราว
รักชังราว.......เช่นกัน
แสงแห่งสีแตกต่าง
หากรวมเจ็ดสีกร่างกลายขาว
สัจจะวาว........แห่งรุ้ง
7 พฤษภาคม 2552 18:30 น.
วิทย์ ศิริ
อยาก..เสกสรรค์ฝันนั้นพลันเป็นจริง
อยาก..ช่วงชิงความสุขปลุกชีวิต
อยาก..ปีนสู่ยอดเขาเฝ้าพิชิต
อยาก..ลิขิตได้เองไม่เกรงใคร
ให้..โอกาสอีกครั้งยังความหวัง
ให้..พลังจิตใจได้ยิ่งใหญ่
ให้..ศรัทธาสว่างล้ำนำกว้างไกล
ให้..สนิทชิดใกล้กับความรัก
โลก..ที่เห็นเป็นอยู่ดูว้าวุ่น
โลก..เคืองขุ่นกรุ่นข้องหมองใจนัก
โลก..โศกเศร้าเหงาหทัยดวงใจภักดิ์
โลก..ประจักษ์ผลักไสใจทุกข์ทน
หยุด..รำลึกความหลังฝังรันทด
หยุด..ป้อปดอดสูอยู่อับจน
หยุด..เสียทีความคิดจิตสับสน
หยุด..ดูตนแห่งหนบนความจริง
หมุน..เพียงไรใจนี้ไม่หวั่นไหว
หมุน..ไปเถิดเปิดใจไม่ประวิง
หมุน..อย่างไรใจนี้ไม่เกรงกริ่ง
หมุน..ท้ายสุดหยุดนิ่งสิ่งทั้งปวง
6 พฤษภาคม 2552 19:07 น.
วิทย์ ศิริ
เส้นทางรัก.....ที่เคยผ่าน
เส้นทางนี้ ใช่เคยผ่าน นานมาแล้ว
ไม่คลาดแคล้ว ความจำ ยำจิตเตือน
ว่าครั้งนั้น ความรัก ทักเยี่ยมเยือน
ไม่รางเลือน เหมือนเพิ่งผ่าน ม่านดวงตา
รักทุกข์สุข ทุกมองยาม ปรามในที
ในวิถี ปุถุชน ดลใจยา
เคยบอกซ้ำ บอกซาก มากคำจา
ในศรัทธา มาว่างเว้น เป็นอาวรณ์
เคยสับสน อลวน จนตัดใจ
ตัดอาลัย ไม่ห่วงหา ไม่อาทร
มีเพียงหนึ่ง ซึ้งในใจ ไม่วิงวอน
ตัดบั่นทอน รอนแรม แถมผิดใจ
แต่แล้วใจ ใหนเลย เผยอารมณ์
พลังจม ปมซ้อน ซ่อนความนัย
ความสงสาร กาลผ่าน หว่านเยื่อใย
พลังใจ ไฉนเลย เคยอาจอง
ต้องวกวน มนต์ตรา เสน่หา
ต้องแววตา พาป่วน ชวนใหลหลง
บอกคนอื่น ชื่นประจักษ์ รักเจาะจง
ต้องเศษผง เข้าตา หนาใจเรา
เส้นทางรัก มิใช่ ไม่เคยผ่าน
มีเหตุการณ์ คล้ายคลึง จึงบอกเล่า
เพราะหลงรัก ผลักไส ให้ขลาดเขลา
มีเพลิงเผา เบาปัญญา พาหัวหมุน
เคยกำหมัด แนบอก ปกป้องใจ
รักเช่นใด ใช่เช่นนี้ ที่ว้าวุ่น
จะสงบ สบตาได้ ไม่เคืองขุ่น
รักธรรมคุณ หนุนจิต คิดใคร่ครวญ
บอกตัวเอง หยุดเกรงรัก หักสวาท
หยุดพิพาท สงสัย ในเย้ายวน
จะสัญญา บนถ้อยคำ ธรรมอันควร
หยุดเรรวน ถ้วนทั่วใจ ไม่หวนคืน