23 มกราคม 2553 13:30 น.
วิทย์ ศิริ
การรอคอย.....มิติหนึ่งที่อยู่ช่วงใดช่วงหนึ่งของการเดินทางของกาล
เวลาที่เราจัดให้สัมพันธ์กันในห้วงความรู้สึกของหลาย
คนที่เฝ้ามอง...เฝ้ารอ...สิ่งนี้...สิ่งนั้นให้มาหาโดยเร่งรัด
เวลาด้วยใจที่กระวนกระวาย...ทั้งที่...เวลาก็เดินไปตาม
ทางของมัน อีกประการหนึ่ง "เวลา"ก็เป็นคำจำกัดความ
ของคนเราที่บัญญัติขึ้นเองก็เพื่อตอบสนองรับใช้กิจกรรม
สารพัดของเราให้เป็นไปตามเงื่อนไข, สาระต่างๆมากมาย
สุดที่จะบรรยายได้ ที่ถูกกำหนดให้ต้องเริ่ม, ต้องสิ้นสุด
แม้กระทั่งการนัดหมายในทุกๆสถานการณ์ ณ จุดใดจุด
หนึ่งของการเดินทางของกาลเวลา
....แทนที่การรอคอย....
เราน่าจะมาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งตามกาล
เวลาที่อุบัติขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด...ไม่ว่าการเกิด
...การดับ ซึ่งเป็นหัวและท้ายของห่วงโซ่กิเลสและหัวกลับมา
ต่อท้ายและท้ายก็เชื่อมโยงกับหัวอย่างคาดไม่ถึง...
อัศจรรย์เสียนี่กระไร
....จริงๆ การเปลี่ยนแปลงทุกขณะเป็นความจริงโดยตัวของ
มันเอง ในสรรพสิ่งการเฝ้ามองอย่างสงบและมีสติแทน
การรอคอยโดยมิได้พินิจอะไรเลย...ย่อมเป็นผลให้ตระ
หนักได้ถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แม้แต่อณูเล็กๆ
สิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุด, แม้กระทั่งสิ่งที่เราเข้าใจว่าอยู่นิ่งที่
สุด กระทั่งจิตที่ปล่อยวางก็มีการเคลื่อนไหวของลมหายใจ
ไม่มากก็น้อย...รวมไปถึงความตายที่กล่าวกันว่ามันจะ
หยุดนิ่งแน่แท้ของสิ่งมีชีวิต...ก็มีการเคลื่อนไหวในรูป
แบบของการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของสิ่งมีชีวิตที่อุบัติ
"ตาย" เกิดขึ้น และนั่นก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการเดิน
ทางของกาลเวลา
....กระนั้นก็ตาม การรอคอยย่อมเป็นสัมพันธภาพกับการ
เดินทางของกาลเวลาในกรอบความคิดของเรา หากแต่
ว่าแท้ที่จริงแล้ว...คนเราอาจสำคัญผิดโดยยึดติดกับ
อารมณ์ที่...รอ...รอคอย...รอเวลา...แทนที่จะปล่อยให้
จิตใจเป็นอิสระ...ปล่อยให้เป็นการเดินทางของกาลเวลา
...ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
การเดินทางของกาลเวลา....เป็นภาพรวมที่กว้างใหญ่ไพศาลขณะ
ที่การรอคอยเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลที่รู้สึกกังวล
เพราะ การคาดหวังของเขาเองและกลับกลายเป็นการ
บั่นทอนขวัญและกำลังใจในบางครั้ง หรือในบางครั้ง
อาจเป็นการคาดหวังในสิ่งดีๆที่คาดว่าจะบังเกิดขึ้น
...ทั้งๆที่มันไม่เคยมีอะไรที่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม...การเดินทางของกาลเวลาก็ยังคงผูก
โยงกับการรอคอยทั้งๆที่ต่างก็อยู่คนละด้านของความ
จริงที่เป็นปรากฏการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทั้งในส่วนจุดกำเนิด, จุดสิ้นสุด และผลกระทบที่ด้าน
หนึ่งบังเกิดขึ้นกับคนเรา และอีกด้านที่ไม่บังเกิด
ผลใดๆเลยเพราะมันมีอยู่เองโดยธรรมชาติ
ตราบใดที่เราไม่สามารถปิดกั้นความรู้สึกนึกคิด...
ก็ยังเป็นปริศนาที่เราสร้างขึ้นเองกับความรู้สึกในเรื่อง
ของการเดินทางของกาลเวลา ที่เข้าไปเชื่อมโยงกับ
การรอคอยในความรู้สึกนึกคิด
อนึ่ง....ขออย่าได้มีการรอคอยของคนเราที่เป็นโซ่ตรวนมัด
จิตใจให้จมปลักอยู่กับความคิดที่ยึดติด เกี่ยวข้องกับ
การเดินทางของกาลเวลา หากแต่...ขอให้เพียรพยายาม
ให้การรอคอย...เป็นรูปแบบของความปิติที่ซุกซ่อนอยู่
ในการเดินทางของกาลเวลาที่จะบังเกิดขึ้นกับทุกผู้ทุก
นาม...โดยไม่ต้องคำนึงหรือกังวลว่าสิ่งนี้...สิ่งนั้นจะเป็น
ความสุข, ความทุกข์, ความสมหวัง, ความผิดหวัง...
เพราะทุกสิ่งย่อมมีมาแล้วก็จากไป และกลับมามีใหม่ได้
อีกเป็นนิจนิรันดร์
.....ปัจฉิมบทของการเดินทางของกาลเวลา.....คงต้องเป็นพลวัต
ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
.....ส่วนปัจฉิมบทของการรอคอยล่ะ.....คงไม่พ้นของความกังวลใน
จิตใจมนุษย์อยู่ร่ำไปตราบเท่าที่เรายังยึดติดกับความรู้สึกของ
การรอคอย
1 พฤศจิกายน 2552 22:47 น.
วิทย์ ศิริ
เป็นเพราะกรรม กำหนด บทวิถี
ลมหายใจ ที่มี พลีให้ร่าง
ความรู้สึก นึกคิด จิตก้าวย่าง
ความแตกต่าง แปลกพันธุ์ บันดาลได้
มีมากมาย หลากหลาย คล้ายคำนึง
ล้วนรำพึง ถึงเวร เกณฑ์สร้างไว้
ขาดสำนึก ตรึกตรอง มองผ่านไป
ด้วยสำราญ หวามไหว ในอารมณ์
หลายชีวิต ผิดแปลก แยกสนอง
ล้วนหมายปอง ครองมั่น สรรสุขสม
ลืมมิติ ผลิเร้น เป็นเงื่อนปม
ถูกทับถม จมห้วง ปวงบ่วงกรรม
ยามสิ้นขัย วัยขวบ จวบสิ้นแสง
หมดเรี่ยวแรง แสวงหา มาหนุนนำ
ไร้สามารถ ใจอนาถ ขาดรสธรรม
ผลแห่งกรรม จำพราก ยากหลบหนี
สะพานข้าม ผ่านภพ บรรจบอีก
หมดทางหลีก ปลีกกรรม นำอัคคี
ตามเผาผลาญ รานรุก ทุกข์ทวี
ล้วนสักขี มีเกิด กำเนิดตน
17 ตุลาคม 2552 23:19 น.
วิทย์ ศิริ
ตอบโจทย์เลขเอกคำนวณไม่ป่วนใจ
ยากเพียงใดไม่ยี่หระจะคิดแก้
ซายน์ครอสเทนแม่นในหัวไม่กลัวแพ้
เป็นแน่แท้แก้ได้ไม่ปัดผ่าน
สมการคำตอบชอบซ่อนนัย
แต่ด้วยใจร่ำเรียนเพียรมานาน
ผลิกแพลงได้ไม่ยุ่งยากมากหลักการ
อาจทัดทานวานเฉลยเผยความเห็น
ตอบโจทย์ใจไยคำตอบบอกเชิงถาม
สู้ติดตามความในใจนัยซ่อนเร้น
ช่างซับซ้อนเงื่อนงำทำยากเข็ญ
หลายประเด็นเป็นเช่นเซ่นคำลวง
สมการที่ยากมากตรรกะ
บางครั้งคละพีชคณิตคิดหนักหน่วง
ใช้หลักแนวแคลคูลัสลัดบางช่วง
ปัญหาล่วงดวงสามารถฉลาดดล
ตอบโจทย์ใจใครเลยเคยมั่นใจ
แนวทางใดใครฟันธงตรงเหตุผล
เป็นปรัชญาจริงแท้แน่แก่ตน
เป็นคำตอบมอบทุกคนผลสำเร็จ
สมการความรักจักนิยาม
ล้วนงดงามตามถ้อยคำล้ำดุจเพชร
เอกอนันต์มั่นใจในจริงเท็จ
บ้างขมดั่งบรเพ็ดมิเข็ดกลัว
ตอบโจทย์ใจใช่ว่าใครรอบรู้
แม้แต่ผู้วิเศษเวทย์ทั่วตัว
อาจพ่ายแพ้กามตัณหาพาเมามัว
ดูถ้วนทั่วกลัวใจตัว....ใช่สมการ?
14 ตุลาคม 2552 21:12 น.
วิทย์ ศิริ
ร้อยกรอง.....แห่งความจริง
ต้องเป็นยิ่งกว่าเหตุผล
หลุดพ้นจากวังวน
สิ่งปลอมปนกลมายา
ร้อยกรอง.....แห่งความหวัง
ด้วยพลังยังศรัทธา
ยืนหยัดในชีวา
ด้วยหาญกล้าคว้ากำชัย
ร้อยกรอง.....แห่งความฝัน
ขอเสกสรรค์วันสดใส
ข้ามพ้นแดนหลับใหล
เพียงลั่นไกใจไปถึง
ร้อยกรอง.....แห่งความเศร้า
แหล่งคลุกเคล้าเงารำพึง
ปลดบ่วงห่วงคำนึง
จิตตราตรึงถึงหฤหรรษ์
ร้อยกรอง.....แห่งความรัก
ล้วนตระหนักถักทอฝัน
รักแท้จักแบ่งปัน
พรสวรรค์ขันติธรรม
ร้อยกรอง.....แห่งความลวง
ช่างหนักหน่วงห้วงเงื่อนงำ
เล่ห์ลิ้นสิ้นถ้อยคำ
สติค้ำนำวิญญา
ร้อยกรอง.....แห่งความเขลา
มากอับเฉาเบาปัญญา
เร้นครอบกรอบอัตตา
หวังจิตตาพาวิสุทธิ์
ร้อยกรอง.....แห่งความดี
เวทย์วจีที่ผ่องผุด
สักขีที่เยื้อยุด
ฉุดมนุษย์หยุดก่อกรรม
ร้อยกรอง.....แห่งชีวิต
นิรมิตจิตกระทำ
กุศลดลน้อมนำ
เหตุลึกล้ำธรรมคำสอน
7 ตุลาคม 2552 20:22 น.
วิทย์ ศิริ
งานที่ทำจำใส่ใจในหน้าที่
เร่งเร็วรี่มีแก่ใจไม่เผลอไผล
สดับฟังรับผิดชอบกอบกิจใด
ต้องตั้งใจให้สำเร็จเสร็จกิจพลัน
หลายคนรวมร่วมพลังยังเป้าหมาย
ด้วยบากบั่นมั่นมิคลายปลายทางฝัน
พยายามตามปัญหาคราผลิกผัน
ร่วมมือกันถือปัญญามาหารือ
อย่าละเลยเผยจริงใจไม่เหลวไหล
ยับยั้งใจยืนหยัดไว้ในสัตย์ซื่อ
ทั้งความดีวิถีธรรมจำยึดถือ
ทุกสิ่งคือผลกระทำนำเจริญ