20 มีนาคม 2556 23:30 น.
วิทย์ ศิริ
ความเปราะบาง วางอยู่ คู่ชีวิต
หากลิขิต สถิตอยู่ ดูใช่ที่
มันแผ่ซ่าน บานฉ่ำ นำสุนทรีย์
ทุกนาที มีค่า กว่าสิ่งใด
มันซ่อนเร้น เป็นนัย ใครหยั่งรู้
เป็นหรืออยู่ ทุกผู้ ทุกนามไข
เหตุสาธิต ปริศนา นั้นคาใจ
สุขฤทัย ไม่สร่าง ลางสังวรณ์
เรื่องต่างต่าง วางอยู่ เป็นคู่ขวัญ
ทุกวานวัน มันวน บนคำสอน
หมายสร้างเกราะ เสดาะตรวน ที่ครวญรอน
หมายตัดตอน คลอนสั่น มั่นปราการ
ล้วนบทบาท วาดไว้ ใจเสรี
ชีวิตมี ข้างเคียง เพียงสสาร
หวังหมื่นแสน อื่นเรียง เพียงกล่าวขาน
ฟ้าประทาน อุบัติละ ขณะใด
สิ่งเปราะบาง ยิ่งยวด ปวดใจยิ่ง
หมายช่วงชิง หยุดยั้ง รั้งอย่างใจ
ยิ่งสูญเสีย เพลียแรง แสงร่ำไร
ห้วงฤทัย ไม่รู้ สู้ต่อกร
เรื่องที่ผ่าน สานปม จมบ่อทราย
หวังทักทาย คลายเขื่อง เรื่องหลอกหลอน
หวังสิ้นสุด หยุดนิ่ง สิ่งวิงวอน
ใจอย่าลั่น สั่นคลอน ตอนเปราะบาง
28 กุมภาพันธ์ 2556 22:26 น.
วิทย์ ศิริ
เลือกไปก็เท่านั้น
คนหน้าเดิมมันบงการ
วางแผนตราบเท่านาน
มีสายป่านอันยาวไกล
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่ว่าฉันหรือใครใคร
ได้พวกหน้าเดิมไง
ทั้งเสือกไสทั้งมาเอง
เลือกไปก็เท่านั้น
บทเรียนเก่ามันครื้นเครง
กินกันไม่ยำเกรง
ช่างข่มเหงน้ำใจกัน
เลือกไปก็เท่านั้น
รู้ทันมันสู้อดกลั้น
ก่อกรรมอย่างล่ำสัน
หวังโทษทัณฑ์สักวันเยือน
เลือกไปก็เท่านั้น
วาดสวรรค์ฝันสะเทือน
ตื่นมาต้องย้ำเตือน
ระอาเอือมเบือนหน้าหนี
เลือกไปก็เท่านั้น
ใครเพื่อนกันมันบายศรี
ใครศัตรูสู้ราวี
หาคนดีจากที่ใด
เลือกไปก็เท่านั้น
ไม่หมดยุคทุกข์แบบไทย
การเมืองแบบสาไถย
ไร้จริงใจใครศรัทธา
เลือกไปก็เท่านั้น
อย่าหุนหันมันอุตส่าห์
กับดักเลือกเฟ้นมา
หมายสวา-ปามทั้งเมือง
27 กุมภาพันธ์ 2556 22:41 น.
วิทย์ ศิริ
หากพระเจ้า ใคร่เสนอ เรื่องเกิดดับ
เมื่อชีวิต ลาลับ กำจัดได้
แต่ข้อแม้ สำคัญ เรื่องเกิดใหม่
ต้องยุติ ลงได้ ในบัดดล
เมื่อไม่มี การเกิด กำเนิดอีก
เรื่องกังวล หลบหลีก สิ้นสับสน
ไม่มีเด็ก วัยเยาว์ ให้ฉงน
สิ้นผู้คน บนโลก โบกอาดูร
อีกความรัก ครั้งแรก จำแนกอยู่
สิ่งควรคู่ หนุ่มสาว คราวสิ้นสูญ
บุคคลใหม่ ใสสด หมดเพิ่มพูน
สิ่งจำรูญ หวังใหม่ ไกลสุดหล้า
แล้วความรัก แท้จริง แลหาใหน
เหตุไฉน ชีพนี้ มีค้นหา
หมายประจักษ์ รักแท้ แค่ตบตา
ข้อเสนอ มายา พระเจ้าลวง
26 กุมภาพันธ์ 2556 22:27 น.
วิทย์ ศิริ
เมื่อ.....ชะตากรรม กำหนด
ใคร.... กล้าสบถ เปลี่ยงแปลง
ก็........ผลกระทำ สำแดง
ตาม....บทชี้แจง แห่งธรรม
หวัง.....อายุขัย ไป่แล้ว
เปลี่ยน.. ทีปดวงแก้ว แคล้วกรรม
แก้......บาปบุญคุณ เกี่ยวนำ
ไข......ผลกระทำ อิสระ
ย่อม.....ปรารถนา กลมเกลี้ยง
รู้........สู้หลบเลี่ยง ปะทะ
แก่.....จิตวิญญาณ ชาตะ
ใจ......อายตนะ กระทำ
กลับ...วังวนหลง วงกต
ซ้ำ......เหตุสลด เงื่อนงำ
เป็น.....บัญญัติสร้อย ถ้อยคำ
ทาส....ชะตากรรม นั่นเอง
เราอาจเข้าใจไปเองว่า เราสามารถเปลี่ยนหรือข้ามชะตากรรมไปได้
ไปสู่ทิศทางแห่งศรัทธาและด้วยความพยายามที่เปี่ยมล้นตามที่ใจปรารถนา
ในเมื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามเป็นเพียงบริบทหนึ่งของปริวรรต
แห่งชะตากรรมซึ่งยังอยู่ในครรลองของกฏแห่งกรรมของแต่ละชีวิต
แท้จริงหาได้สั่นคลอนความหมายหรือนิยามของชะตากรรมนั่นไม่
ไม่ว่า 'ชะตากรรม' , 'กฎแห่งกรรม' , 'วิบากกรรม' ,หรือ 'พรหมลิขิต'
เป็นเหตุเป็นผลต่อกันในเส้นทางที่เป็นระนาบเดียวกันเพียงต่างกัน
ในการนำเสนอในแต่ละบริบทและความรู้สึกที่สะท้อนผลลัพธ์จะเป็นใน
ทางที่ดีหรือไม่ดีรวมถึงบทบริยายโลกียธรรมในเทศนาธรรม
ถึงกระนั้น การลาจากของชีวิตไม่สามารถเป็นการสิ้นสุดหรือ
สลัดทิ้งที่สุดของชะตากรรม เพราะ เบื้องหลังของสุดทางแห่งชีวิต
ก็หนีไม่พ้นกฎแห่งกรรมที่ยังดำเนินอยู่่ และซ้ำร้ายทุกชีวิตก็ตกเป็น
ทาสแห่งชะตากรรม
' นิพพาน' เป็นประจักษ์พยานหนึ่งเดียวที่ปรากฏในพุทธวจนะที่
สามารถหลุดพ้นจากกฏแห่งกรรมและอยู่เหนือคำปรารภของโลกียสุขทั้งมวล.
22 กุมภาพันธ์ 2556 21:53 น.
วิทย์ ศิริ
ต่างก็เป็น เฉกมนุษย์ สุดประเสริฐ
ต่างกำเนิด จากเหล่ากอ ที่ก่อร่าง
ต่างก็มี ทุกข์สุขบ้าง ย่างเคียงข้าง
ต่างก็ช่าง เพลิดเพลินใจ ในอารมย์
สิ่งรื่นรมย์ ชื่นอินทรีย์ ที่มีอยู่
เพียงควรคู่ ชั่วคู่ยาม นามชื่นชม
ครั้นมีสุข ทุกข์มีได้ ให้ขื่นขม
เหตุระทม ปมแปรเปลี่ยน เวียนเรื่อยไป
เอ่ยความอยาก มากเหลือล้น จนสุดขั้ว
หมายถ้วนทั่ว เกลือกกลั้วใจ ไม่เกรงใคร
ต่างขุดบ่อ หลอกล่อใจ มัวเมาไป
ยากแก้ไข ใคร่ไถ่ถอน ในตอนสาย
ที่สุดแล้ว แห่งความอยาก ยากแถลง
ต่างปรุงแต่ง แข่งปรนเปรอ เผลอลืมตาย
ต่างยึดติด สนิทแน่น แก่นอุบาย
จุดบั้นปลาย ความอยากไซร้ ไม่ปรากฎ