18 มกราคม 2551 20:02 น.

เรื่องเล่า จากทหารชายแดนได้ ที่ไม่เคยลงหนังสือพิมพ์

วิจิตรวาทะลักษณ์

นี่เป็นเรื่องจริงของพลทหาร และชีวิต เพื่อชาติ
 		ครั้งหนึ่ง ผมก็เหมือนคุณๆนี่ละ เข้าร้านเนต   เล่นวินนิ่ง   กินเบียร์  นอน  แต่พอผมสมัครไปเป็นทหาร และ มีคำสั่งลงใต้  ความคิดผมเลยเปลี่ยนไปตลอดกาล  อยากให้ทุกท่านที่อ่าน รับรู้ถึงส่วนหนึ่ง ที่ผมไปเจอมาแล้ว   เริ่มแรกจะถูกส่งไปที่ค่ายอิงคยุทธิ์ จ.ปัตตานีก่อนครับ ไม่ว่ามาจากไหนเหนือ กลาง  อิสาน ใต้ ผมเป็น 1 ในจำนวนนั้นที่ถูกส่งไป
เมื่อถึงค่าย อิงคยุทธ์  จ.ปัตตานี เขาจะพาคนที่ลงจากรถบัสทั้งหมดไปรวมที่
ศาลาแดงแล้วเขาจะแบ่งเป็นอีก  3  กลุ่มทันที   กลุ่มที่ 1.อยู่ จ.ปัตตานี กลุ่ม2. อยู่ จ.ยะลา และ 
กลุ่ม  3.  จ. นราธิวาสถ้าอยู่  จ.ปัตตานีจะอยู่ค่าย อิงคยุทธ์บริหาร  ถ้าอยู่ จ.ยะลา จะอยู่ค่ายสิรินธร  ถ้าอยู่ จ.นราธิวาส จะอยู่ค่าย พันพัฒนาที่4 (ค่ายปล้นปืนที่เป็นข่าว)  
ผมไปอยู่ค่ายพันพัฒนาที่ 4  ตั้งที่ ต.มะรือโบ  ออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาสเพื่อนๆผมก็กระจายกันไป  พบชะตาที่ต่างกันไป วันแรกผมทั้งกล้า ทั้งกังวล ปนกันหมด อย่างที่ผมบอกชายวัยรุ่นคนหนึ่ง  จากเคยเล่นวินนิ่ง  ค่ำมาก็เมาด่าแม่เพื่อนขำๆ  วันนี้มาอยู่ในที่ๆพร้อมจะเป็นตาย  ผมขอเล่าเรื่องประวัติค่ายนะครับยังไม่เล่าเรื่อง อื่นๆที่นี่ฝึกหนักมากๆครับ ทีค่ายนี้  เขาจะทำให้พลเรือนที่ไม่รู้จักปืน เป็นทหาร ยิงปืนให้ได้ภายใน 13วัน โดยฝึก  HK33 และ M16 A-1  ภายนอกค่ายปล้นปืนที่ผมอยู่
 		ค่ายนี้เหมือนอยู่กลางป่าครับ แล้วมีหมู่บ้านแขก ล้อมอยู่ 3 หมู่บ้านไอ้สารเลวพวกนี้ละครับ วันที่ปล้นปืนมันก็มาร่วมปล้น  ท่านรู้หรือไม่  วันปล้นปืน มันได้ไปทั้งหมด 300  กว่ากระบอก M16 A-1  โจรที่มันมาปล้น มีประมาณ  300  คน 300  คนจริงๆครับ ทั้งเด็กวัยรุ่น ยันไอ้แก่  ใครมีปืน  ก็ลูกซอง M-16 อาก้า  ใครไม่มีปืน ก็พกสปาต้า   สิบเวรวันนั้น ไม่มีปืนครับ มีแต่กุญแจคลัง
 		ทหารใหม่เพิ่งฝึกเสร็จ ปล่อยกลับ  บ้านวันที่ 1 ม.ค.46 เกิดเหตุ 4 ม.ค. 46
สงสัยไหมครับ  เพราะไอ้สัดสันดานที่มาฝึกทหารใหม่ทั้งหมดเป็นแขก มันฝึกปืนเป็น กลับบ้านแล้วก็กลับมาปล้นค่ายพันพัฒนา  4   มันกลับมาปล้นชาติตัวเองรุ่นพี่ของผมเล่าว่า มันฆ่าสิบเวรด้วยมีด(ไม่ขอเล่าครับ) ตายทารุณทุกคน
 		จ่าที่พร้อมสู้ มีอาวุธ การรวมกลุ่ม และสถานที่กำบังพร้อมสู้ ทั้งค่าย  มีราวๆ แค่ 7คน  มันเอาทหารบนกองร้อย  เอาลวดราวตากผ้าที่หลังกองร้อยมัดมือเท้าไว้ แล้วรวมกันหน้าคลังรุ่นพี่บอกว่ามีคนหนึ่งเป็นไทยพุทธ  ถูกมัดข้าง ๆ  แล้วพระที่แขวนไว้ออกมานอกเสื้อหนึ่งในโจรที่คลุมหน้ามันเดินเข้ามาเอาพระนั่น  ซุกเข้าไปในเสื้อใหม่  พร้อมกับพูดว่า  ถ้าหัวหน้าถามบอกว่าเป็นอิสลามจากจังหวัด  เพราะไอ้โจรที่เดินบอกก็คือเพื่อนตอนเกณฑ์ทหารนั่นเอง     
เมิงก้มหน้าไว้พอ อย่าเอาพระออกมา เดี๋ยวกุจะช่วยเมิงไม่ได้ '  มันพูดไทยไม่ชัดเท่าไร แล้วมันก็เดินไปคุยกับหัวหน้ามันเป็นภาษายาวี  แนวๆว่าอย่าสนใจพวกนี้ เสียเวลาเปล่าๆ   อย่างน้อยๆมันทำเพื่อช่วยรุ่นพี่ผม
 		หากไอ้หัวหน้ามันเห็น  ก็จะโดนสปาต้าปาดเข้าที่คอ  (โดนมัดอยู่)  จะสู้ได้ไงวะไอ้พวกเลวนั่นมันอยู่บนกองร้อยหมดแล้ว กองร้อยหนึ่งมันอยู่กันราวๆ  40กว่าคน จ่า 7  คนที่ว่าอยู่บนตึกบังคับการ ลงไปมันยิงพรุน  มันมาปล้นตี2  กลางดึกครับ จ่า7  คนยิงกันกระสุนเหลือคนละ3แม็คได้   ถ้ากระสุนหมด  มันก็บุกขึ้นมาฆ่าแน่นอนครับ คนเล่น Counter มาก่อนคงรู้  แต่นี้ชีวิตจริงครับ... ท่านรู้ไหมว่า
 1. ตอนนั้น อ.เจาะไอร้องสัญญาณมือถือไม่มีครับ
 2. โจรราวๆ300 กับจ่า 7  คน เทียบปริมาณสิครับ
 3. มันเอาปืนยิงสายไฟดับทั้งค่าย สายไฟที่หน้าค่าย  ก็เหมือนหน้าบ้านท่านๆนี่ละเอาปืนอาก้ายิง ก็ขาด ไฟดับ มันบุก 300  กลียุคครับ
4 .อาวุธปืนสงคราม M16 อาก้า ยิงโดนขา หรือแขน ถ้าโดนกระดูกจริงๆ
ขาดครับ คือพิการไปตลอดชีวิต
 5. กระสอบทรายต้องหนา 3ชั้นครับถึงจะอยู่
 		วีรบุรุษวันนั้น เป็นพลทหาร ที่เฝ้าหน้ากองรักษาการณ์โดนยิงจนขาลากแต่ยังถ่อสังขารไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ทั้งวิ่งทั้งคลาน  ทั้งแอบฝูงโจร โทรไปที่แม่ทัพภาค 4 ตอนที่โทรศัพท์ไปถึงที่บ้านแม่ทัพภาค4  คุณนายภรรยาท่านรับครับ   แล้วท่านก็รีบวิ่งไปปลุกท่านแม่ทัพที่ชั้น 2 ของบ้าน
 		ทีนี้ได้เรื่องครับ.... ท่านรีบสั่งการกลางดึก จัดชุดไปช่วย แต่ชุดที่มาจากค่าย จ.ปัตตานี กว่าจะมาถึงก็ตี 5ครับมันปล้นตี2  มันเชือดคอสิบเวรเอาปืนไปหมดแล้ว หน่วยเขาก็มาเร็วที่สุดแล้วครับชุดที่มาช่วยมี ทหาร 1รสบัส รถฮัมวี่ 1 คัน ตำรวจไทยเราขับแอบตามๆมาครับ  ถามว่าทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้
 1.จริงๆหน่วยอาจมาถึงใน1 ชม.ครับ  แต่เข้าไปไม่ได้ มีการขวางถนน เรือใบ   และเผายาง มันก็เฝ้ารออยู่แล้วครับ  ประมาณ100กว่าคนวงนอก เป็นชุดตัดกำลัง
 2. จากข้อ1 ถ้าไม่สว่าง เข้าไปช่วย คือ ไปตายครับ จริงๆ.. มันรออยู่รอฆ่าชุดที่มาช่วย มันวางแผนมาแล้วครับ
 		นี่แค่เกร็ดส่วนหนึ่งนะครับ ถือว่าผมเล่า  นี่คือความจริงไม่ใช่แบบที่ท่านๆอ่านหนังสือพิมพ์เล่มละ 8บาท  หากมีโอกาสผมจะมาโพสอีกเกี่ยวกับรายละเอียด  ใครมีญาติหรือ
กำลังจะลงชายแดน ผมจะเล่าให้ว่า ใคร ไปจังหวัดไหน อยู่หน่วยอะไร ทำอะไรและเหตุการณ์จริง
ที่ผมพบมา เสียดายวันนี้ผมต้องไปทำงานก่อน  แล้วผมจะมาโพสอีกนะครับ
 สุดท้ายนี้ผมจะบอกว่า  หากคุณ ญาติ หรือคนที่คุณรักจะลง3ชายแดนใต้ หากเขาไปไปอยู่หน่วยเฉพาะกิจ หรือ  หน่วยฐานปฏิบัติกา   ผมถามคุณสักคำ ตอนที่เขาอยู่บ้าน
คุณเคยบอกว่ารักเขาคนนั้นไหม  บอกและรักเขาให้เต็มหัวใจทุกวินาที  ดีกว่าที่ว่า   มีโทรศัพท์มาที่บ้าน พร้อมกับเสียงชายแปลกหน้า
 		ถ้าถามว่า ' บ้านของ พลทหาร...... ใช่ไหมครับ   กระผม....เป็นผู้บังคับบัญชา
เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่.......   ตอนที่เขาอยู่บ้าน ก็จงรักและแสดงออกมาให้เต็มหัวใจ ถ้ามีสายนี้โทรมา ต่อให้คุณร้องไห้น้ำตาเป็นทรายเขาก็จะกลับบ้าน พร้อมธงชาติคลุมกายแล้วครับ				
14 มกราคม 2551 18:48 น.

จะมีใครสักกี่คน ทำเพื่อ "คนรัก" ได้ถึงเพียงนี้

วิจิตรวาทะลักษณ์

คืนวันหนึ่งกลางดึกได้มีคู่รักหนุ่มสาวได้ขับรถมอไซค์กินลมเล่น ผู้ชายเป็นคนขับส่วน
ผู้หญิงเป็นคนซ้อน ขับชมวิวท่ามกลางเงาจันทร์อย่างมีความสุข แต่แล้วความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หญิง - ตัวเอง ขับช้าๆหน่อย เค้า "กลัว" พูดด้วยน้ำเสียงสั่น
ชาย - ไม่เอาหรอก ยังสนุกอยู่เลย
หญิง - แต่เค้า "กลัว" จริงๆนะ
ชาย - ก็ได้ แต่ คุณต้องบอก"รัก"ผมก่อน
หญิง - ได้ค่ะ "ฉันรักคุณ" ขับช้าๆได้แล้วนะ
ชาย - อืม.. งั้นคุณ กอดผมก่อนซิ
หญิง - ได้จ๊ะ เธอสวมกอดผู้ชายด้วยความรักและอบอุ่น ขับช้าๆนะ ค่ะ
ชาย - อืม.. ตกลง แต่ คุณช่วยถอดหมวกกันน๊อคออกให้ผมหน่อย แล้วคุณก็ใส่มันไว้ผมขับไม่ถนัด
หญิง - เธอค่อยๆถอดแล้วใส่อย่างบรรจง ตามคำสั่งของแฟนเธอ
รุ่งเช้ามีข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง สรุปได้ว่า กลางดึกได้มีรถมอไซค์ประสบอุบัติเหตุ
มีผู้เสียชีวิตหนึ่ง ผู้รอดชีวิตหนึ่ง เกิดเหตุเนื่องจากรถมอไซค์เบรคแตก 
ผู้ชายขณะขับรถนั้นได้รู้ตลอดว่ารถตัวเองเบรคแตก เค้าไม่ได้ตั้งใจให้รถเพิ่มความเร็วเรื่อยๆ
เค้าไม่คิดที่จะบอกผู้หญิงที่เค้ารักเลยว่า รถที่เค้าขี่นั้นตอนนี้ได้เบรคแตก เพราะกลัว กลัวที่เธอจะตกใจและ
กลัวที่เธอจะได้รับอันตรายจึงให้เธอใส่หมวกกันน๊อค แล้วให้เธอ "บอกรักและกอดเค้า" เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต
ปล..แด่ความรักอันบริสุทธิ์ จากวันที่มีชีวิตอยู่จนสุดลมหายใจ
(ขอให้ทุกดวงวิญญาณที่ทำเพื่อรักจงได้รับผลดีที่เค้าทำตลอดไป)

ไปอ่านเจอมาครับ  เลยขอนุญาตเขามาโพสให้อ่านกัน  อีกที
เพราะอ่านแล้วมันรู้สึก  ขนลุกดีอ่ะครับ
เพราะผมเอง  คงไม่แน่ใจ  ว่าในสถานการณ์แบบนี้
ผมจะทำเพื่อคนที่รักได้เท่านี้  หรือเปล่า				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์