25 สิงหาคม 2551 19:51 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
ตอนนี้ในเว็บ www.youtube.com มีคลิบที่หมิ่นต่อพระบรมเดชานุภาพ อย่างแรงมาก หลายคลิบเลยทีเดียว
ผมดูเองยังต้องร้องไห้เลย ว่ามีคนทำกับ พระมหากษัตริย์ ที่เรารัก แบบนี้ได้อย่างไร
ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เราควรจะจัดการกับเรื่องนี้ อย่างไรกันดีครับ
ช่วยกันด้วย
21 กรกฎาคม 2551 20:28 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อพูดถึงคดีเขาพระวิหาร ใครหลายๆคนคงยังจำกันได้ดีว่าเป็นคดีที่คนไทยทั้งประเทศต้องน้ำตาตกในขนาดไหน เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๒ ก่อนศาลโลกจะตัดสิน ๒ ปีเศษ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้แต่งกลอนด่าเขมรไว้ ว่าเขมรเป็นโคตรเนรคุณ...
สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่
ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล
เคยเป็นเรื่องโต้เถียงกันมานาน
ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน
กะลาครอบมานานโบราณว่า
พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน
คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน
ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป
อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม
เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้
ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย
ด้วยเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด
เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู
ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด
สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร
แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี
ไทยก็อมตามใจไม่ดึงดื้อ
เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่
คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี
ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน
หากไทยจำล้ำเลิกบ้างอ้างขอบเขต
เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น?
ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน
องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา?
เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง
ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า
ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา
สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง
ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว
จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่างจองหอง
เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง
ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา
ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์
ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา
ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา
เพราะทรงพระกรุณาประทานไป
มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ
ถึงลูกหลานกลับเนรคุณได้
สมกับคำโบราณท่านว่าไว้
อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย...
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
๑๘ ตุลาคม ๒๕๐๒
5 เมษายน 2551 14:41 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
ที่มาของโครงการ
ในโลกของนักอ่าน ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือบุคคลทั่วไป ส่วนใหญ่จะพัฒนาความฝันไปสู่การเป็นนักเขียน จากขีดเขียนลงบนกระดาษ จนก้าวไปสู่โลกออนไลน์ บางคนโอกาสดี ผลงานได้รับการตีพิมพ์เป็นรูปเล่มสมใจ เผยแพร่ผลงานจนเป็นที่รู้จัก ประสบความสำเร็จมากน้อยต่างกันไป
แต่เวทีย่อมมีพื้นที่จำกัด การผลิตหนังสือสักเล่มจึงดูเป็นเรื่องไกลเกินฝันในบางครั้ง บางคนลงมือทำหนังสือทำมือด้วยตนเองเพื่อตอบสนองความฝันให้เป็นจริงกับการมีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่ม
ณ ปัจจุบันด้วยโลกของเทคโนโลยีการพิมพ์ ทำให้เราสามารถผลิตหนังสือได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนผลิตมากมายเพื่อให้คุ้มทุน เพราะเมื่อเทียบปริมาณจัดพิมพ์กับเงินทุนที่มีนั้นไม่มีความสมดุลย์กัน
วันนี้ หากนักเขียนที่ต้องการมีหนังสือเป็นของตัวเอง ภายใต้ทุนที่มีจำกัดคงไม่ใช่เรื่องยากเกินฝันอีกต่อไป
อีกหนึ่งเส้นทางของนักเขียนอินดี้ ที่มีฝันและมีไฟ
วัตถุประสงค์ของโครงการ
เพื่อเปิดเวทีให้กับเยาวชนและบุคคลทั่วไปที่รักงานเขียน และต้องการมีผลงานตีพิมพ์เป็นเล่มเพื่อการจัดจำหน่ายและเผยแพร่สู่สาธารณะ
เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะด้านงานเขียน
เพื่อกระตุ้นการอ่านและการเขียนในกลุ่มเยาวชนและบุคคลทั่วไป สร้างเวทีนักเขียนหน้าใหม่ ได้มีโอกาสพัฒนาไปสู่ความเป็นนักเขียนมืออาชีพ
เพื่อร่วมสร้างกิจกรรมกับสมาชิก ทีเค ปาร์ค สร้างชุมชนนักเขียน นักอ่าน เพื่อพัฒนาเยาวชนที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติไทย
เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ ANT office ผู้นำด้านงานพิมพ์ Print on Demand ที่ร่วมเปิดโอกาสให้กับเยาวชนได้มีผลงานเขียนที่เป็นรูปธรรม
กลุ่มเป้าหมายและการส่งผลงาน
กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม :
เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 16 25 ปี
รายละเอียดการส่งผลงาน :
เขียนเรื่องราวที่คุณสนใจ ได้สาระและความสนุกสนาน
ความยาวไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4
ขนาดตัวอักษร Angsana new 16
ผลงานหรือเค้าโครงเรื่องไม่ลอกเลียน ไม่เคยส่งประกวด หรือเคยตีพิมพ์มาก่อน
ประวัติผู้สมัครที่น่าสนใจโดยย่อ
ช่องทางการส่งผลงาน
ส่งไฟล์งาน พร้อมประวัติผู้ส่งผลงาน ผ่านทางเว็บไซต์ www.ibookprint.com
บริษัทเอเอ็นที ออฟฟิค เอ็กซ์เพรส จำกัด (ANT)
เลขที่ 78 อาคารมุกดา ชั้นจี ถ.สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทร.02-632-2655
รายละเอียดการส่งผลงาน
ระยะเวลาการส่งผลงาน
มกราคม 30 เมษายน 2551
ประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดสรรเข้าสู่กระบวนการอบรม รอบที่ 1(เม.ย.51)
ประกาศผลผู้ที่ผ่านการคัดสรร เข้าสู่รอบ 2 (มิ.ย.51)
ประกาศผลในเดือนมิถุนายน 2551 คัดเหลือ 10 คน จาก 30 คน เพื่อนำผลงานไปจัดพิมพ์
จัดกิจกรรมเปิดตัว 10 ยอดนักเขียนที่ผลงานจะนำไปตัดพิมพ์และเผยแพร่ สู่สาธารณะ
ประกาศผลสุดยอดนักเขียนเยาวชน ปี 2008 (เดือนตุลาคม)
ประกาศผล 3 สุดยอดนักเขียนเยาวชนในงานสัปดาห์หนังสือ พร้อมมอบรางวัล
ของรางวัล
รางวัลสุดยอดนักเขียน มี 3 รางวัล
รางวัลที่ 1 เงินสดมูลค่า 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน)
รางวัลที่ 2 เงินสดมูลค่า 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)
รางวัลที่ 3 เงินสดมูลค่า 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน)
รางวัล Popular Vote เงินสดมูลค่า 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน)
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล
ได้รับประกาศนียบัตร จากสำนักอุทยานการเรียนรู้ ทีเคปาร์ค
ได้รับค่าลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์หนังสือ
คณะกรรมการพิจารณาตัดสิน
คุณ ชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ผศ.ดร. ธเนศ เวศร์ภาดา นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย
คุณ อรสม สุทธิสาคร นักเขียนชื่อดังด้านสารคดี
คุณ ผลบุญ นันทมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งการเรียนรู้ TK Park
คุณ ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK Park
คุณ ครรชิต พิทักษ์อโนทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็นที ออฟฟิศ เอ็กซ์เพรส จำกัด
ร้อยเอก สุนทร ปัณทรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการส่วนทั่วไป
ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
29 มีนาคม 2551 01:23 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
พอดีเห็นกระทู้ของ ... คุณแมวคราว... ก็เลยลองค้นกลอนตัวเองใน google ดู ปรากฏว่า กลอนของผมหลายเรื่อง ถูกนำเอาไปโพสต่อ โดยไม่บอกถึงที่มาที่ไป เราควรทำยังไงดีครับ
แล้วเพื่อน ๆ พี่ๆ น้อง เห็นว่ามันเป็นการสมควรป่ะครับ ที่ทำแบบนี้ ไม่ไม่ได้ว่า กลอนผมดีมากมายนะครับ แต่อยากให้เกียรติคนแต่งอะครับ โดยเอาชื่คอนแต่ง คงไว้ ก็ยังดี อันนี้ เอาออกยังไม่พอ ใส่ชื่อตัวเองอีก
เฮ้อ
18 มกราคม 2551 20:02 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
นี่เป็นเรื่องจริงของพลทหาร และชีวิต เพื่อชาติ
ครั้งหนึ่ง ผมก็เหมือนคุณๆนี่ละ เข้าร้านเนต เล่นวินนิ่ง กินเบียร์ นอน แต่พอผมสมัครไปเป็นทหาร และ มีคำสั่งลงใต้ ความคิดผมเลยเปลี่ยนไปตลอดกาล อยากให้ทุกท่านที่อ่าน รับรู้ถึงส่วนหนึ่ง ที่ผมไปเจอมาแล้ว เริ่มแรกจะถูกส่งไปที่ค่ายอิงคยุทธิ์ จ.ปัตตานีก่อนครับ ไม่ว่ามาจากไหนเหนือ กลาง อิสาน ใต้ ผมเป็น 1 ในจำนวนนั้นที่ถูกส่งไป
เมื่อถึงค่าย อิงคยุทธ์ จ.ปัตตานี เขาจะพาคนที่ลงจากรถบัสทั้งหมดไปรวมที่
ศาลาแดงแล้วเขาจะแบ่งเป็นอีก 3 กลุ่มทันที กลุ่มที่ 1.อยู่ จ.ปัตตานี กลุ่ม2. อยู่ จ.ยะลา และ
กลุ่ม 3. จ. นราธิวาสถ้าอยู่ จ.ปัตตานีจะอยู่ค่าย อิงคยุทธ์บริหาร ถ้าอยู่ จ.ยะลา จะอยู่ค่ายสิรินธร ถ้าอยู่ จ.นราธิวาส จะอยู่ค่าย พันพัฒนาที่4 (ค่ายปล้นปืนที่เป็นข่าว)
ผมไปอยู่ค่ายพันพัฒนาที่ 4 ตั้งที่ ต.มะรือโบ ออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาสเพื่อนๆผมก็กระจายกันไป พบชะตาที่ต่างกันไป วันแรกผมทั้งกล้า ทั้งกังวล ปนกันหมด อย่างที่ผมบอกชายวัยรุ่นคนหนึ่ง จากเคยเล่นวินนิ่ง ค่ำมาก็เมาด่าแม่เพื่อนขำๆ วันนี้มาอยู่ในที่ๆพร้อมจะเป็นตาย ผมขอเล่าเรื่องประวัติค่ายนะครับยังไม่เล่าเรื่อง อื่นๆที่นี่ฝึกหนักมากๆครับ ทีค่ายนี้ เขาจะทำให้พลเรือนที่ไม่รู้จักปืน เป็นทหาร ยิงปืนให้ได้ภายใน 13วัน โดยฝึก HK33 และ M16 A-1 ภายนอกค่ายปล้นปืนที่ผมอยู่
ค่ายนี้เหมือนอยู่กลางป่าครับ แล้วมีหมู่บ้านแขก ล้อมอยู่ 3 หมู่บ้านไอ้สารเลวพวกนี้ละครับ วันที่ปล้นปืนมันก็มาร่วมปล้น ท่านรู้หรือไม่ วันปล้นปืน มันได้ไปทั้งหมด 300 กว่ากระบอก M16 A-1 โจรที่มันมาปล้น มีประมาณ 300 คน 300 คนจริงๆครับ ทั้งเด็กวัยรุ่น ยันไอ้แก่ ใครมีปืน ก็ลูกซอง M-16 อาก้า ใครไม่มีปืน ก็พกสปาต้า สิบเวรวันนั้น ไม่มีปืนครับ มีแต่กุญแจคลัง
ทหารใหม่เพิ่งฝึกเสร็จ ปล่อยกลับ บ้านวันที่ 1 ม.ค.46 เกิดเหตุ 4 ม.ค. 46
สงสัยไหมครับ เพราะไอ้สัดสันดานที่มาฝึกทหารใหม่ทั้งหมดเป็นแขก มันฝึกปืนเป็น กลับบ้านแล้วก็กลับมาปล้นค่ายพันพัฒนา 4 มันกลับมาปล้นชาติตัวเองรุ่นพี่ของผมเล่าว่า มันฆ่าสิบเวรด้วยมีด(ไม่ขอเล่าครับ) ตายทารุณทุกคน
จ่าที่พร้อมสู้ มีอาวุธ การรวมกลุ่ม และสถานที่กำบังพร้อมสู้ ทั้งค่าย มีราวๆ แค่ 7คน มันเอาทหารบนกองร้อย เอาลวดราวตากผ้าที่หลังกองร้อยมัดมือเท้าไว้ แล้วรวมกันหน้าคลังรุ่นพี่บอกว่ามีคนหนึ่งเป็นไทยพุทธ ถูกมัดข้าง ๆ แล้วพระที่แขวนไว้ออกมานอกเสื้อหนึ่งในโจรที่คลุมหน้ามันเดินเข้ามาเอาพระนั่น ซุกเข้าไปในเสื้อใหม่ พร้อมกับพูดว่า ถ้าหัวหน้าถามบอกว่าเป็นอิสลามจากจังหวัด เพราะไอ้โจรที่เดินบอกก็คือเพื่อนตอนเกณฑ์ทหารนั่นเอง
เมิงก้มหน้าไว้พอ อย่าเอาพระออกมา เดี๋ยวกุจะช่วยเมิงไม่ได้ ' มันพูดไทยไม่ชัดเท่าไร แล้วมันก็เดินไปคุยกับหัวหน้ามันเป็นภาษายาวี แนวๆว่าอย่าสนใจพวกนี้ เสียเวลาเปล่าๆ อย่างน้อยๆมันทำเพื่อช่วยรุ่นพี่ผม
หากไอ้หัวหน้ามันเห็น ก็จะโดนสปาต้าปาดเข้าที่คอ (โดนมัดอยู่) จะสู้ได้ไงวะไอ้พวกเลวนั่นมันอยู่บนกองร้อยหมดแล้ว กองร้อยหนึ่งมันอยู่กันราวๆ 40กว่าคน จ่า 7 คนที่ว่าอยู่บนตึกบังคับการ ลงไปมันยิงพรุน มันมาปล้นตี2 กลางดึกครับ จ่า7 คนยิงกันกระสุนเหลือคนละ3แม็คได้ ถ้ากระสุนหมด มันก็บุกขึ้นมาฆ่าแน่นอนครับ คนเล่น Counter มาก่อนคงรู้ แต่นี้ชีวิตจริงครับ... ท่านรู้ไหมว่า
1. ตอนนั้น อ.เจาะไอร้องสัญญาณมือถือไม่มีครับ
2. โจรราวๆ300 กับจ่า 7 คน เทียบปริมาณสิครับ
3. มันเอาปืนยิงสายไฟดับทั้งค่าย สายไฟที่หน้าค่าย ก็เหมือนหน้าบ้านท่านๆนี่ละเอาปืนอาก้ายิง ก็ขาด ไฟดับ มันบุก 300 กลียุคครับ
4 .อาวุธปืนสงคราม M16 อาก้า ยิงโดนขา หรือแขน ถ้าโดนกระดูกจริงๆ
ขาดครับ คือพิการไปตลอดชีวิต
5. กระสอบทรายต้องหนา 3ชั้นครับถึงจะอยู่
วีรบุรุษวันนั้น เป็นพลทหาร ที่เฝ้าหน้ากองรักษาการณ์โดนยิงจนขาลากแต่ยังถ่อสังขารไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ทั้งวิ่งทั้งคลาน ทั้งแอบฝูงโจร โทรไปที่แม่ทัพภาค 4 ตอนที่โทรศัพท์ไปถึงที่บ้านแม่ทัพภาค4 คุณนายภรรยาท่านรับครับ แล้วท่านก็รีบวิ่งไปปลุกท่านแม่ทัพที่ชั้น 2 ของบ้าน
ทีนี้ได้เรื่องครับ.... ท่านรีบสั่งการกลางดึก จัดชุดไปช่วย แต่ชุดที่มาจากค่าย จ.ปัตตานี กว่าจะมาถึงก็ตี 5ครับมันปล้นตี2 มันเชือดคอสิบเวรเอาปืนไปหมดแล้ว หน่วยเขาก็มาเร็วที่สุดแล้วครับชุดที่มาช่วยมี ทหาร 1รสบัส รถฮัมวี่ 1 คัน ตำรวจไทยเราขับแอบตามๆมาครับ ถามว่าทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้
1.จริงๆหน่วยอาจมาถึงใน1 ชม.ครับ แต่เข้าไปไม่ได้ มีการขวางถนน เรือใบ และเผายาง มันก็เฝ้ารออยู่แล้วครับ ประมาณ100กว่าคนวงนอก เป็นชุดตัดกำลัง
2. จากข้อ1 ถ้าไม่สว่าง เข้าไปช่วย คือ ไปตายครับ จริงๆ.. มันรออยู่รอฆ่าชุดที่มาช่วย มันวางแผนมาแล้วครับ
นี่แค่เกร็ดส่วนหนึ่งนะครับ ถือว่าผมเล่า นี่คือความจริงไม่ใช่แบบที่ท่านๆอ่านหนังสือพิมพ์เล่มละ 8บาท หากมีโอกาสผมจะมาโพสอีกเกี่ยวกับรายละเอียด ใครมีญาติหรือ
กำลังจะลงชายแดน ผมจะเล่าให้ว่า ใคร ไปจังหวัดไหน อยู่หน่วยอะไร ทำอะไรและเหตุการณ์จริง
ที่ผมพบมา เสียดายวันนี้ผมต้องไปทำงานก่อน แล้วผมจะมาโพสอีกนะครับ
สุดท้ายนี้ผมจะบอกว่า หากคุณ ญาติ หรือคนที่คุณรักจะลง3ชายแดนใต้ หากเขาไปไปอยู่หน่วยเฉพาะกิจ หรือ หน่วยฐานปฏิบัติกา ผมถามคุณสักคำ ตอนที่เขาอยู่บ้าน
คุณเคยบอกว่ารักเขาคนนั้นไหม บอกและรักเขาให้เต็มหัวใจทุกวินาที ดีกว่าที่ว่า มีโทรศัพท์มาที่บ้าน พร้อมกับเสียงชายแปลกหน้า
ถ้าถามว่า ' บ้านของ พลทหาร...... ใช่ไหมครับ กระผม....เป็นผู้บังคับบัญชา
เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่....... ตอนที่เขาอยู่บ้าน ก็จงรักและแสดงออกมาให้เต็มหัวใจ ถ้ามีสายนี้โทรมา ต่อให้คุณร้องไห้น้ำตาเป็นทรายเขาก็จะกลับบ้าน พร้อมธงชาติคลุมกายแล้วครับ