29 กรกฎาคม 2551 20:14 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อโลกา อภิวัฒน์ วิบัติหล้า
จนตรีตรา ผ่านไทย ในบัดนี้
เอกลักษณ์ แห่งภาษา ในธานี
ถูกย่ำยี ด้วยหัวใจ ไทยด้วยกัน
เอกลักษณ์ เอกราช ประกาศโลก
นับเป็นโชค เรามีค่า ภาษาสรรค์
แต่คนไทย ไม่เห็นค่า ว่าสำคัญ
คิดว่ามัน เรื่องเล็กน้อย ปล่อยกันไป
ภาษาพูด เอามาใช้ ในการเขียน
ตัวสะกด เริ่มเพี้ยน เปลี่ยนกันใหม่
พจนา นุกรม ไม่สมใจ
ฉันจะคิด คำใหม่ ใช้กันเอง
พยัญชนะ สระ ตัวสะกด
ถามเด็กไทย ไม่รู้หมด ลดความเก่ง
แต่ภาษา คำแสลง แย่งกันเอง
ฉันก็เก่ง ใครก็เก่ง เบ่งไม่อาย
บ้างอาจมอง ว่าปัญหา น่าเล็กนัก
มิได้หนัก จนไทยจม ล่มสลาย
เมื่อเติบโต คงเรียนรู้ อยู่ทุกราย
ถึงความหมาย ของภาษา ว่าใดควร
แต่หากมอง ลงไป ลึกหลายด้าน
ถึงผลการ ใช้ภาษา น่านึกหวน
เมื่อวันนี้ เราใช้ไป ไม่เหมาะควร
แล้วพรุ่งนี้ จะดีล้วน ได้อย่างไร
อนาคต เด็กไทย ใยแยกรู้
คำที่อยู่ ถูกผิด คิดได้ไหม
เมื่อวันนี้ คนขึ้นชื่อ ว่าคือไทย
ก็ยังใช้ ภาษา น่ากังวล
ภาษาไทย แต่คนไทย ยังใช้ผิด
มันน่าคิด อนาคต ปรากฏผล
ว่าภาษา เคยเลิศลักษณ์ ประจักษ์ชน
อาจร่วงหล่น อยู่เคียง เพียงตำนาน
16 กรกฎาคม 2551 20:00 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
อันบุคคล ผู้ถือตรา ดาราเด่น
ผู้ร้องเต้น เล่นแสดง แสร้งสีสัน
มีผลงาน ผ่านทีวี ทุกวี่วัน
ผู้เลอโลม เทียมสวรรค์ ชั้นเทวี
มีหัวโขน เป็นนางฟ้า สง่าสม
คนชื่นชม มอบฉายา ดารานี้
ทุกบทบาท ทุกลีลา ทุกท่าที
จึงดูดี เรียบร้อย ลอยวิมาน
กลบเบื้องหลัง ด่างดำ รอยช้ำไว้
ด้วยท่าที ที่สดใส ให้กล่าวขาน
ด้วยลีลา ท่าที ที่เชี่ยวชาญ
คนทั้งย่าน จึงติดภาพ กับที่เป็น
แต่ความจริง คือคน บนโลกล้วน
ที่ครบถ้วน โลภรัก มักให้เห็น
กองกิเลส ท้นท่วม รวมให้เป็น
ปุถุชน เฉกเช่น เห็นดั่งเรา
เมื่อมิอาจ ปิดกลั้น อันโลภรัก
ความแตกหัก ระหว่างชน จึงปนเข้า
ประกาศศึก สงคราม ข้ามเพียงเงา
ให้สื่อเขา ประโคมข่าว ดาวจิกกัน
เมื่อบุคคล ผู้ได้ชื่อ คือนางฟ้า
สาดคำด่า ผ่านสื่อ ลือสวรรค์
วิมานเทพ สั่นสะท้าน นานหลายวัน
จนเดือนร้อน ถึงชั้น เทวดา
หมู่สาวก นางฟ้า มาร่วมด้วย
ใครมาช่วย ฝ่ายตรงข้าม ห้ามฉันด่า
ทั้งพี่น้อง เผ่าพงศ์ ตรงเข้ามา
ประจันหน้า ด่ากัน ผ่านทีวี
นี่นะหรือ คือสวรรค์ อันงามงด
ที่ปรากฏ ผ่านตาฉัน ทุกวันนี่
ที่แท้แล้ว ภาพสวยงาม ตามทีวี
ตลาดสด ดีดี เท่านี้เอง
3 กรกฎาคม 2551 17:39 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
วันที่ 3 กรกฎาคม วันเกิดผมครับ อิอิ
หลังเลิกงาน ถึงบ้าน อ่านแมสเซส
จดหมายเหตุ เผื่อมีใคร ให้สุขสันต์
ไม่มีแม้ สักข้อความ ถามถึงกัน
ไม่มีใคร เขาสุขสันต์ วันเกิดเรา
เปิดเครื่องคอมฯ เปิดเมลล์ อย่างเร็วรี่
ไว้แวววี่ คำอวยพร เริ่มนอนเหงา
เปิดออนเอ็ม ทิ้งไว้ ปลอบใจเรา
เผื่อใครเขา ทักอวยพร ตอนเย็น ๆ
โทรศัพท์ เปิดไว้ เผื่อใครตื๊ด
ก็ยิ่งยืด ความเศร้า ให้เราเห็น
เพราะตั้งแต่ เที่ยงคืน ตื่นตอนเย็น
ยังไม่เห็น เบอร์ใคร ให้คำพร
หันมองดู ปฏิทิน เพราะสิ้นหวัง
ปากกายัง เขียนไว้ ให้หลอกหลอน
วันที่สาม กรกฎา ภาษากลอน
ว่าอวยพร วันเกิดตน บนกระดาน
จึงหยิบเอา เทียนไข ในลิ้นชัก
มาตั้งหลัก จุดจนติด อธิษฐาน
อันพรใด ในหล้า ค่าโอฬาร
จงประทาน อยู่ข้า อย่ารอรี
แล้วเป่าเทียน เล่มหนึ่ง จนถึงดับ
พลางขานขับ บทเพลง บรรเลงรี่
แล้วเอนหลัง ยังเตียง ฟังเสียงดี
จากทีวี เสมอเพื่อน มาเยือนใจ
แค่วันเกิด มันสำคัญ กระนั้นหรือ
มันก็คือ วันหนึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใหญ่
เราก็ยัง เหมือนเดิม เพิ่มอะไร
จะแคร์เขา ทำไม ไม่จำเป็น
คิดปลอบใจ ตัวเอง เหมือนเก่งกล้า
แต่น้ำตา กลับเอ่อนอง จนมองเห็น
ปากก็ยิ้ม เหมือนทุกวัน ที่ฉันเป็น
แต่ภายใน เยือกเย็น เป็นร้อยพัน
2 กรกฎาคม 2551 21:25 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
กาลครั้งหนึ่ง อีกไม่ไกล ในเมื่อหน้า
มีเมืองหนึ่ง นามว่า สารขัณฑ์
เกิดปัญหา รุกเร้า เข้าโรมรัน
อีกสามวัน น้ำมัน จะไม่มี
เพราะราคา แสนแพง สำแดงฤทธิ์
เขาจึงติด เรื่องเงินทอง สำรองหนี้
ประเทศอื่น ร่ำรวย ด้วยเงินมี
ประมูลชี้ ขายขาด สู่ชาติตน
ทั้งเบนซิน ดีเซล น้ำมันก๊าด
แก๊สธรรมชาติ เอ็นจีวี ย่อมมีผล
แก๊สโซฮอล์ แอลพีจี ที่เกินตน
จะเกลี้ยงจน หมดไป ในสามวัน
จึงประกาศ ทั่วราช อาณาจักร
เราจะพัก การใช้ ในวันนั้น
ก่อนที่เรา จะหาหรือ ซื้อน้ำมัน
ด้วยการกู้ ชาติชั้น อันมั่งมี
สามวันผ่าน ประชาชน บนประเทศ
ตื่นมาพบ ความเพท ในเช้านี้
วิกฤตการณ์ ขาดน้ำมัน ในทันที
เป็นวันที่ ประวัติศาสตร์ ชาติต้องจำ
ขาดน้ำมัน ขาดไฟฟ้า ขาดรารถ
เกวียนปรากฏ เรือพาย ว่ายลงน้ำ
ถนนโล่ง คนเพลิน เดินเท้านำ
ไร้ควันดำ นำภัย ให้แผ่นดิน
เมื่อหิวข้าว ก่อไฟฟืน ยืนคนหม้อ
ไม่ต้องง้อ แก๊สเตา เราอิ่มสิ้น
ไร้ทีวี ส่งเสียง เพียงโสภิณ
นั่งล้อมวง ติฉิน นินทากัน
พอมืดค่ำ เสียงเทียน เวียนตามบ้าน
ต่างตระการ แสงดาว ราวเสกสรร
ไม่มีแอร์ เปิดเย็น เช่นวานวัน
หน้าต่างนั้น เปิดไว้ ให้ลมเย็น
เมื่อผ่านพ้น คืนวัน อันเลวร้าย
กลับไม่มี คนตาย ให้เราเห็น
ขาดน้ำมัน ฉันขาดใจ ใช่จำเป็น
คือบทเรียน ชี้ให้เห็น ความเป็นไป
มิได้ทาน น้ำมัน นั้นแทนข้าว
จะไปง้อ ให้ปวดร้าว เราแค่ไหน
บรรพบุรุษ เคยพึ่งพา ซะเมื่อไร
ไร้น้ำมัน เราไม่ตาย ให้คิดดู
สารขัณฑ์ นคร ในตอนนี้
ใช้วิถี พอเพียง เลี้ยงตัวอยู่
อนาคต เขาข้างหน้า ช่างน่าดู
เขาจะอยู่ โดยไม่ใช้ ไอ้น้ำมัน