29 มกราคม 2550 14:24 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อความสาวความสวยอันรวยค่า
ถูกบูชาเซ่นถวายให้ชายชื่น
พรมจรรย์ของสงวนอันควรคืน
ถูกหยิบยื่นเซ่นสนองรองกามา
เอาร่างกายหมายเดิมพันเข้าขันต่อ
หวังลวงหล่อชายหลงเล่ห์เสน่หา
แล้วลงเอยให้ชายเริงเพลิงกามา
เซ่นบูชาความสะใจในกลุ่มตน
แม้เพียงพบสบตาในคราแรก
ก็ยอมแลกร่างกายให้ชายสน
ชายคนหนึ่งหนึ่งคะแนนแผนซ้อนกล
เก็บเป็นผลสะสมแต้มแกมอวดกัน
หนึ่งคะแนนคือหนึ่งคนที่วนผ่าน
จดประจานการสมสู่ดูน่าขัน
ใครผ่านหน้าเย้ยเยาะหัวเราะกัน
คนนี้ฉันได้มาแล้วแจ๋วลีลา
สิบห้าปีหาใช่ย่อยร้อยกว่าแต้ม
คำเหน็บแนมพวกเดียวกันร่านนี่หว่า
วันนี้เธอเอาใครกันบอกฉันมา
คงเป็นน้าอยู่ข้างห้องมิต้องไกล
เมื่อความสาวความสวยอันรวยค่า
ถูกตีตราเป็นเดิมพันมันถูกไหม
พรมจรรย์มันเรื่องเล็กหรือเด็กไทย
จึงมาใช้เป็นเดิมพันปันชายชม
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2550
19 มกราคม 2550 13:08 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
ข้าแต่เทพยดาฟ้าดินทั้งหลาย อันมีมหิทธิฤทธิ์และทิพจักขุทิพยโสต ซึ่งสถิตอยู่ทุกทิศานุทิศจงเป็นทิพยพยาน ด้วยพระเจ้าหงสาวดีมิได้ตั้งอยู่โดยครองสุจริตมิตรภาพ ขัตติยประเพณี เสียสามัคคีรสธรม ประพฤติพาลทุจริตคิดจะทำภยันตรายแก่เรา ตั้งแต่วันนี้ไป กรุงพระมหานครศรีอยุธยากับเมืองหงสาวดี มิได้เป็นสุวรรณปฐพีเดียวดุจหนึ่งแต่ก่อน ขาดจากกันแต่วันนี้ไปตราบเท่ากัลปาวสาน
วาจาสิทธิ์พระนเรศวรมหาราช
เปล่งประกาศต่อไพร่ฟ้าเทวาหล
พร้อมทรงหลั่งอุทกธาราเหนือพสุธาดล
จึ่งหลุดพ้นจากพม่ามาเป็นไทย
อิสรภาพที่แลกมาด้วยตราเลือด
หยาดน้ำตาหาแห้งเหือดเลือดหลั่งไหล
โลหิตล้นท้นท่วมร่วมทาไทย
จึงคงไว้ไทยสยามนามระบือ
บรรพชนสละชีพกี่สิบล้าน
จึ่งยังบ้านยังเมืองให้เลื่องชื่อ
ไทยเป็นไทยคือสยามนามระบือ
ว่าเราคือเอกลักษณ์ประจักษ์ชน
แต่เหตุใดลูกหลานในกาลนี้
ไร้แวววี่สำนึกในไทยก่อนหน
ได้แค่ชื่อเอกราชประกาศชน
แต่ความจริงบางคนมิใช่ไทย
วัฒนธรรมประจำชาติขาดคนรักษ์
ไปฟูมฟักของชาติอื่นเขายื่นให้
ของเคยดีถูกกล่าวหาว่าเชยไป
ของชาติใหม่กับเห็นค่าว่าเข้าที
เอกราชความเป็นไทยใช่แค่ชื่อ
ถูกน้ำมือของลูกหลานพลาญศักดิ์ศรี
เมื่อคนไทยเห็นของไทยใช่ของดี
เราจะมีเอกราชประกาศใคร
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันศุกร์ที่ 19 มกราคม 2550
17 มกราคม 2550 16:56 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
ครั้นเดือนสามขึ้นสามค่ำตามวิถี
ในวันนี้พระยาแถนแดนสวรรค์
เปิดประตูไขฝนฟ้าเทวาวรรณ
จากสวรรค์ให้ล่วงหล่นลงบนดิน
โดยเอาเสียงและทิศาที่ฟ้าร้อง
มาเกี่ยวข้องหมายสัญญาณกาลฝนสิ้น
ปริมาณการที่ฝนจะหล่นริน
อยู่กับถิ่นและทิศาฟ้าคำราม
บูรพามีครุฑาประจำทิศ
ผู้สถิตรักษาอยู่ประตูน้ำ
ถ้าฟ้าร้องบูรพากล้าจะงาม
ทั้งข้าวน้ำปลาอุดมจะสมบูรณ์
อาคเนย์มีแมวอยู่เป็นคู่ทิศ
ผู้สถิตประตูลมคอยบ่มหนุน
หากฟ้าร้องทางทิศนี้มีขาดทุน
ไม่สมบูรณ์น้ำฝนน้อยพลอยแล้งนา
ทิศทักษิณราชสีห์เป็นศรีทิศ
ผู้สถิตประตูทองครองฝนฟ้า
หากฟ้าร้องทิศทักษิณถิ่นท้องนา
ฝนหลากหล้านาลุ่มผ่อนนาดอนดี
หรดีพยัคฆาประจำทิศ
ผู้สถิตประตูชินเป็นถิ่นศรี
หากฟ้าร้องก้องก่อหรดี
ให้ข้าวปลามากมีดีอุดม
ทิศประจิมมีนาคาประจำทิศ
ผู้สถิตเหล็กประตูอยู่สั่งสม
หากฟ้าร้องทางทิศนี้มีตรอมตรม
ฝนแล้งลมข้าวล้มตายเสียหายพลัน
ทิศพายัพมีหนูอยู่คู่ทิศ
ผู้สถิตประตูหินถิ่นสวรรค์
หากฟ้าร้องทิศพายัพนับสำคัญ
ข้าวกล้านั้นมีได้เสียเกลี่ยกันไป
ทิศอุดรคชสารผู้ผ่านทิศ
ผู้สถิตประตูเงินย่อมเกินได้
หากฟ้าร้องทิศอุดรแต่ก่อนใด
ข้าวกล้าให้ผลงามความอุดม
ทิศอิสานมีวัวอยู่เป็นคู่ทิศ
ผู้สถิตประตูดินถิ่นเสกสม
หากฟ้าร้องทิศอิสานงานอุดม
ฝนพร่างพรมข้าวกล้าพางดงาม
ชาวมหาสารคามในนามถิ่น
คือแผ่นดินหนึ่งในไทยสยาม
ขอสืบทอดประเพณีอันดีงาม
ขนานนาม บุญเบิกฟ้า ตักสิลานคร
ทำพิธีบูชาพระยาแถน
ณ เมืองแมนผู้ให้ฝนหล่นเป็นศร
ได้ไขฟ้าเปิดฝนลงตรงดินตอน
ณ นคร เบืองทิศดีเป็นศรีดิน
วิจิตรวาทะลักณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพุธที่ 17 มกราคม 2550
16 มกราคม 2550 00:24 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
lสิบ พรพรหมบรมบรรณประทานให้
หก เทพไท้จำแลงหลักอารักขา
มกรา ล้วนศรีสวัสดิ์วัฒนา
คม ปัญญาให้แหลมหลักประจักษ์ชน
สอง หัตถาสร้างสิ่งดีเป็นศรีเผ่า
ห้า ขันธ์เข้าให้แข็งแรงทุกแห่งหน
สาม โลกล้วนเยินยอเยี่ยงสำเนียงยล
ศูนย์ แห่งชนผู้เห็นค่าภาษาไทย
สุข ก่อเกิดเหล่าโรคาอย่ากรายกร้ำ
สันต์ เลิศล้ำวิถีทางกลางไกลใกล้
วัน ทุกวันจงสดชื่นรื่นฤทัย
เกิด สิ่งใหม่เกิดสิ่งดีเป็นศรีตน
เอก บุรุษผู้หยุดฟ้าลงมาเกิด
วิทย์ พร้อมเพริศชาญวิชามาก่อผล
ทวี วาดบทกวีเป็นศรีชน
ผล ก่อผลมาเคียงคู่สู่แผ่นดิน