20 พฤศจิกายน 2548 14:18 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
จากท้องทุ่ง สู่สถาน การศึกษา
จากบ้านป่า มาสู่เมือง อันเรืองใส
จากตะเกียง สู่ไฟฟ้า พาล่อใจ
จากเมืองไกล สู่เมืองกรุง สูงเงินตรา
มาพักหอ กับเพื่อนก่อน ตอนเรียนเริ่ม
เมื่อรักเสริม เพิ่มความใคร่ เริ่มใฝ่หา
ย้ายมาอยู่ กับแฟนใหม่ ไกลหูตา
แชร์ค่าห้อง น้ำไฟฟ้า มาด้วยกัน
ขอเงินพ่อ ขอตังค์แม่ ร่วมแชร์รัก
ด้วยไร้หลัก รักเดียงสา ตรึงตราฝัน
เมื่อพลั้งพลาด ขาดสิ่งของ ใช้ป้องกัน
ก็ตั้งครรภ์ มารหัวขน คนในตัว
โทรขอเงิน พ่อแม่บ้าง อ้างเรียนเพิ่ม
เมื่อปิดเทอม เอาออกเซ่น ไม่เห็นหัว
ให้หมอเอา ลูกนอกคอก ออกจากตัว
เอาลูกชั่ว ออกมาผ่าน ประจานตน
เมื่อท้องอีก เอาออกอีก หลีกไม่ได้
ช่างปะไร อยากเกิดมา ข้าไม่สน
เมื่อข้ายัง ไม่พร้อมถือ หรือจะทน
มารหัวขน ไม่เหลือไว้ ให้ประจาน
ควรแล้วหรือ เอาเด็กน้อย ด้อยเดียงสา
มาเดิมพัน อย่างไร้ค่า น่าสงสาร
เมื่อพ่อแม่ อ้างไม่ผิด คิดเดิมพัน
แล้วเด็กมัน ผิดอะไร ถึงตายฟรี
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2548
เวลา 14.16 น.
20 พฤศจิกายน 2548 14:14 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อเหมันต์ ผันผ่าน สู่ชานทุ่ง
ข้าวเรียวรุ้ง ก็สุกเหลือง เรืองสลอน
กระทบแรง แสงสุรีย์ ทิวากร
ส่องสะท้อน เป็นสีทอง ผ่องอำไพ
ละลู่ลม พรมพัด สะบัดข้าว
ก็โน้มน้าว อ่อนเอน เป็นคลื่นใกล้
สะบัดพริ้ว ละลิ่วงาม ไปตามใบ
เมื่อต้องแสง ยิ่งอำไพ วิไลวรรณ
ดั่งภูษา ผ้ามัดไหม ลายรวงข้าว
ที่ลมหนาว พาพัดไป ปูไว้นั่น
วิจิตรจ้า กว่าผ้าใด ในโลกัน
โอ้แพรพรรณ แห่งท้องนา ช่างน่าชม
ฤาทวยเทพ ทำภูษา หล่นมานี่
ผ้าผืนนี้ จงโสภา ค่าสูงสม
ขอเทพไท้ อย่าเก็บคืน ผ้าผืนพรม
ให้ข้าชม ผ้าภูษา พระเทวี
ฤานี่คือ การรังสรรค์ อันประหลาด
ธรรมชาติ รังสรรค์ค่า ผ้าผืนนี้
เป็นอาภรณ์ แห่งท้องนา ทั่วธานี
ห่มปฐพี ให้เรืองรอง ดั่งทองปน
เมื่อเหมันต์ ผันผ่าน สู่ชานทุ่ง
ข้าวเรียวรุ้ง ก็สุกทอง ทุกห้องหน
โอ้งามใด ไหนจะงาม สมคำคน
เท่าได้ยล ภูษาทอง แห่งท้องนา
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2548
เวลา 14.12 น.
20 พฤศจิกายน 2548 14:10 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
ต้นไม้ใหญ่ อาศัยดิน กินแร่ธาตุ
จึงประกาศ ความยิ่งใหญ่ ให้คนเห็น
สรรพสัตว์ อาศัยดิน ถิ่นจำเป็น
จึงดำรง คงให้เห็น เป็นตัวตน
หมู่เมฆา อาศัยดิน กินไอน้ำ
จึงเลิศล้ำ เป็นเมฆคล้อย ลอยเวหน
บุปผาลัย อาศัยดิน ถิ่นเกิดตน
จึงก่อก้าน ตระหง่านผล บนแผ่นดิน
มวลมนุษย์ อาศัยดิน ถิ่นกำเนิด
จึงก่อเกิด วัฒนธรรม นำศักดิ์ศิลป์
เกิดวิถี ประชาอยู่ คู่แผ่นดิน
หาอยู่กิน จนเติบใหญ่ ได้เป็นคน
ต้นไม้ใหญ่ รู้คุณดิน ถิ่นอาศัย
ทิ้งเงาใบ ให้ร่มดิน ทุกถิ่นหน
สรรพสัตว์ รู้คุณดิน ถิ่นเกิดตน
ทิ้งมูลผล ให้ตกคู่ สู่แผ่นดิน
หมู่เมฆา รู้คุณดิน ถิ่นเลิศล้ำ
ให้ฝนฉ่ำ ลงโลกหล้า ธาราสินธุ์
บุปผาลัย สำนึกแทน คุณแผ่นดิน
จึงเบ่งบาน ประดับถิ่น แผ่นดินตน
แต่มนุษย์ ลืมคุณดิน ถิ่นอาศัย
แผ่นดินไทย ให้เมตตา มากี่หน
บรรพบุรุษ เจ้าอยู่นี่ กี่ชั่วคน
เจ้าเติบตน บนถิ่นนี้ มิใช่ฤา
เจ้าตอบแทน คุณแผ่นดิน ถิ่นอาศัย
ด้วยวิธี ฆ่าคนไทย ใช่แล้วหรือ
ศาสตราวุธ ที่เคียงคู่ อยู่ในมือ
นั่นนะหรือ คือตอบแทน แผ่นดินไทย
เดรัจฉาน ยังตอบแทน แผ่นดินเกิด
สัตว์ประเสริฐ อย่างพวกท่าน นั้นทำไหม
เอาแต่สร้าง ความร่มเย็น ให้เป็นไฟ
อายบ้างไหม เดรัจฉาน มันรู้คุณ
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอาทอตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2548
เวลา 14.06