1 มิถุนายน 2549 18:37 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อลมแล้ง ลงแปลงดิน ถิ่นอิสาน
แผ่นดินดาน ก็เหือดแห้ง ด้วยแล้งฝน
แรงลมแล้ง พัดดอกจาน ที่บานบน
ให้ร่วงหล่น ลงดินดาน ลาก้านใบ
ดั่งชีวิต ลูกอิสาน พลัดฐานถิ่น
จากแผ่นดิน จากท้องนา เคยอาศัย
มุ่งหน้าสู้ สู่เมืองฟ้า จากนาไกล
หวังชดใช้ ไถ่หนี้สิน ให้สิ้นที
เงินเดือนเบา แต่ตรากตรำ ทำงานหนัก
สัญลักษณ์ คนขายแรง ในแห่งนี้
เหงื่อหยดไหล รินหลั่ง สร้างสิ่งดี
ตามวิถี ลูกอิสาน จากบ้านนา
พักบ้านเช่า เท่ารังหนู อยู่แทนบ้าน
ข้าวแกงจาน พออิ่มคำ ยามยะถา
เงินเหลือใช้ ส่งคืนหลัง ยังบ้านนา
แลกข้าวปลา ให้แม่พ่อ ที่รอคอย
จากที่หนึ่ง ในห้องเรียน เปลี่ยนตำแหน่ง
มาขายแรง แลกเงิน พอเกินร้อย
จากหมอลำ มีชื่อเสียง เพียงเลิศลอย
ต้องมาคอย ลำขอทาน ตามลานดิน
จากนักมวย ชื่อดัง ชกครั้งหมื่น
ต้องมายืน ล้างจาน แบกงานหิน
จากเทพี ศรีสงกรานต์ ในบ้านดิน
มานั่งกิน กลิ่นเบียร์ กับเสี่ยบาร์
เหมือนเรานี้ มีตราบาป สาปชีวิต
ถูกลิขิต ให้ตรากตรำ ยามยะถา
จากอดีต ปัจจุบัน แต่นานมา
เรายังล้า บนหนทาง อย่างคนจน
บนหนทาง ของชาวดิน ถิ่นอิสาน
มีตำนาน คือน้ำตา มาทุกหน
เรายังรอ ความเมตา ฟ้าเบื้องบน
ได้ส่งคน เปลี่ยนเส้นทาง ห่างชาวดิน
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพฤหัศบดีที่ 1 มิถุนายน 2549
18.40 น.
31 พฤษภาคม 2549 18:40 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อศักดิ์ศรี ความเป็นครู ผู้สูงเกียรติ
ถูกหยามเหยียด ด้วยเหล่าชน คนร่วมบ้าน
เมื่อศรัทธา วิชาชั้น อันตราการ
ถูกชาวบ้าน ใช้ต่อรอง จนต้องตรม
เมื่อกฎหมู่ อยู่กำหนด เหนือกฎหมาย
เอาความตาย หมายฉุดดึง จึ่งสาสม
สันดานดิบ เถื่อนถ่อย ลอยอาจม
จึงทับถม ถึงชนชั้น วิญญาณครู
จิตวิญญาณ ความเป็นครู ผู้สูงค่า
ถูกตรีตรา มาต่อรอง ต้องอดสู
ไฟศรัทธา สถาบัน สถานครู
ถูกกฎหมู่ พิพากษา มาลงทัณฑ์
ทุรชน คนหนึ่ง ซึ่งทำผิด
คร่าชีวิต มหารกล้า ในครานั้น
กลับใช้ครู ผู้สูงค่า จรรยาบรรณ
มาลงทัณฑ์ ต่อรองล้อ ขอคนคืน
ไม่มองดู คนของตน สักหนก่อน
อารมณ์ร้อน ถูกปลุกปั่น มิทันฝืน
ฉุดกระชาก ลากหลัง ล้มทั้งยืน
แล้วหยิบยื่น ความชั่วช้า มารังแก
ดั่งเอากรวด เพียงก้อน ที่ร้อนเร่า
มาขู่เอา ทิพย์มณี ที่งามแท้
เมื่อไม่ให้ ใช้กำลัง ลงรังแก
ไม่สนแม้ แต่น้าอา คุณาจารย์
ผู้ประสิทธิ์ ประสาทพร สอนหลานลูก
ก็ยังถูก สังเวยค่า ตราประหาร
จากนี้ไป ในเมื่อหน้า มิช้านาน
ทั้งหมู่บ้าน คงสิ้นแสง แห่งแรงครู
ให้พวกท่าน เอาวิชา ฆ่าคนเล่น
มาเปิดเป็น หลักสูตรตอน สอนหนูหนู
เปิดโรงเรียน สอนการฆ่า มาเป็นครู
เพื่อเข้าสู่ ทางวิถี ที่ท่านเป็น
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2549
เวลา 18.54 น.
18 พฤษภาคม 2549 18:57 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
เมื่อโลกา อภิวัฒน์ วิบัติโลก
ความเศร้าโศรก จึงแทรกซ้อน ขึ้นก่อนหน้า
เมื่อวัตถุ ถูกประเมิน เกินราคา
ความชั่วช้า จึงโชติช่วง ดั่งดวงไฟ
อิสตรี แห่งสยาม งามพิลาส
ทั้งมารยาท กิริยา แลปราศรัย
ถูกกระแส การวิวัฒน์ จากชาติไกล
มาหลอมไหล ละลายหลง ลงลับดิน
การสมสู่ เพียงคู่ตน คนยอมรับ
ก็กลายกลับ ไม่คำนึง จึ่งสูญสิ้น
แลกคู่นอน สมสู่ ก่อนอยู่กิน
บนแผ่นดิน ยังสังวาส อนาถใจ
กลายเป็นเซ็กซ์ เอื้ออาทร นอนแลกคู่
สังวาสหมู่ สมสู่กัน ทันสมัย
เพื่อนกับเพื่อน แฟนเพื่อนบ้าง ช่างปะไร
เอื้ออาทร แฟนของใคร แลกใช้กัน
เมื่อวัตถุ อยู่สูงค่า กว่าดวงจิต
ทางถูกผิด ถูกหลอมรวม ร่วมเป็นขั้น
ทางใดดู กูจะมี ที่สำคัญ
ก็เลือกมัน เป็นทางเขิน เดินต่อไป
ยอมเอากาย หมายเซ่น เป็นเงินบาท
ยอมเอาชาติ ความเป็นคน ตนแลกได้
หมายเงินทอง ของฉันมี ดีกว่าใคร
เพื่อเอาไว้ ใช้เชิดหน้า ค่าสังคม
จากระบบ มีเซ็กซ์เพื่อ เอื้ออาทร
สู่วงจร เพศพาณิชย์ ติดเสพย์สม
กลับกลายเป็น สิ่งสูงค่า ตรานิยม
ในสังคม แห่งชั้นชน คนมีตังค์
ความเจริญ โลกไกล ไปข้างหน้า
แต่ราคา จิตใจ กลับไปหลัง
หากเจริญ แต่ใจต่ำ ไปลำพัง
ขอหล้าหลัง อยู่อย่างเก่า เราก็พอ
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม 2549
เวลา 19.15 น.
18 พฤษภาคม 2549 18:52 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
อโยธยา ศรีราม เทพนคร
เคยสั่นคลอน เมื่อหงสา มาตีพ่าย
คราครั้งนั้น บรรพชน หล่นล้มตาย
เพราะเพลิงพ่าย ฝ่ายสงคราม ลามแผ่นดิน
สมเด็จพระ นเรศวร มหาราช
มิยอมให้ ประเทศชาติ เอกราชสิ้น
จึงทรงหลั่ง ทักษิโณทก ตกแผ่นดิน
กำหลาบสิ้น อริราช ชาติศัตรู
อีกครั้งครา อโยธยา มาแตกพ่าย
ก็เพราะฝ่าย หงสา มาหาญสู้
เอกราช อโยธยา น่าเชิดชู
ต้องตกอยู่ ใต้หงสา ข้าแผ่นดิน
องค์สมเด็จ พระเจ้าตากสิน มหาราช
ทรงกู้ชาติ กู้กรุง มุ่งคืนถิ่น
อโยธยา ศรีราม นามแผ่นดิน
ตราบถึงกรุง รัตนโกสินทร์ มิสิ้นบุญ
จนบัดนี้ ศรีสวัสดิ์ รัตนโกสินทร์
เอกราช ของแผ่นดิน มิสิ้นสูญ
ควรหรือให้ ใครประท้วง ทวงบุญคุณ
ว่าจะหนุน เอกราช คืนชาติไทย
รัตน โกสินทร์ ถิ่นสยาม
ควรฤาให้ ใครมาหยาม ตามใจได้
ด้วยมิเคย สิ้นเอกราช แก่ชาติใด
แล้วทำไม ต้องประกาศ กู้ชาติชน
ประการหนึ่ง ที่สำคัญ กว่านั้นชัด
วีรกษัตริย์ กู้ชาติเช่น จึ่งเห็นผล
ตรึกไหมนั่น ท่านคือใคร ในเหล่าชน
กล้าเทียมตน เทียบพระบาท องค์กษัตรา
ภารกิจ กู้ชาติ ประกาศก้อง
แต่ไม่ลอง ส่องกะโหลก ชะโงกหน้า
เพียงปุถุชน ฤาเทียบชั้น ขั้นราชา
มากล่าวกล้า ว่ากู้ชาติ บังอาจเกิน
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2549
เวลา 19.07 น.
11 เมษายน 2549 18:18 น.
วิจิตรวาทะลักษณ์
โอ้องค์ท้าว กบิลพรหม แห่งพรหมโลก
ต้องเศียรตก เพราะคำสัตย์ ตัดเศียรสิ้น
แต่ด้วยเศียร มิอาจต้อง ลงรองดิน
ธรณินทร์ จะต้องไฟ บรรลัยกัลป์
ธิดาท้าว กบิลพรหม แห่งพรหมเทพ
ผู้สั่งเสพย์ ทิพย์สถาน วิมานสวรรค์
ทั้งเจ็ดนาง ต่างเครื่องทรง ลงเปลี่ยนกัน
เพื่อรับเศียร บิดานั้น ด้วยพานทอง
วันมหา สงกรานต์ ตรงวันใด
ก็หมุนเปลี่ยน เวียนไป ไม่ขัดข้อง
แต่ละวัน แตะละนาง ต่างเครื่องทอง
ลงมารอง เศียรบิดา กบิลพรหม
มหาสงกรานต์ วันของไทย ในปีนี้
พฤหัสบดี ฤกษ์ตาม ความเหมาะสม
ก็ถึงคราว ธิดาท้าว กบิลพรหม
นามกิริณี รับเศียรสม พระบิดา
องค์เทวี กริณี ธิดาท้าว
ทรงรับเอา ถั่วงาเห็น เป็นภักษา
ทรงทัดหู ด้วยไม้ดอก ดอกมณฑา
เสด็จมา เหนือคชสาร อันเกรียงไกร
มีมรกต ประดับก่อน อาภรณ์ผ้า
พระกรขวา ทรงขอ เป็นข้อใกล้
กระกรซ้าย ทรงปืนยาว เหนือท้าวใด
พระนามใน กิริณี เทวีสงกรานต์
วิจิตรวาทะลักษณ์(นฤมิตรเทวากร)
วันอังคารที่ 11 เมษายน 2549
เวลา 18.31 น.